รับทำบัญชี.COM | เช่าซื้อกรรมสิทธิ์สินค้าเป็นของใคร?

“เช่าซื้อ” (lease-to-own) เป็นรูปแบบหนึ่งของการทำสัญญาซื้อขายที่ชาญฉลาด ซึ่งอนุญาตให้บุคคลหรือธุรกิจที่ไม่สามารถชำระราคาสินค้าหรือทรัพย์สินทั้งหมดในขณะนั้น ให้เช่าสินค้าหรือทรัพย์สินนั้น ๆ ก่อน และมีสิทธิซื้อสินค้าหรือทรัพย์สินนั้นในภายหลัง โดยมีการชำระเงินที่กำหนดไว้ในสัญญา ซึ่งเป็นการชำระเงินส่วนหนึ่งในเช่าและส่วนหนึ่งในการซื้อ รายการเช่าซื้อสามารถเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงเช่นรถยนต์หรือเครื่องใช้ในบ้าน หรืออาจเป็นรายการเล็ก ๆ เช่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องใช้ในครัว

ข้อดีของเช่าซื้อรวมถึง

1. ช่วยให้บุคคลหรือธุรกิจได้สินค้าหรือทรัพย์สินที่ต้องการ เช่าซื้อช่วยให้บุคคลหรือธุรกิจที่ไม่สามารถชำระเงินสดหรือผ่อนชำระทั้งหมดได้ทำการได้รับสินค้าหรือทรัพย์สินที่ต้องการในขณะนั้น

2. ง่ายต่อกระบวนการอนุมัติ กระบวนการอนุมัติในเช่าซื้อมักง่ายกว่าการกู้ยืมเงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน ทำให้บุคคลหรือธุรกิจที่มีประวัติเครดิตไม่ดีมีโอกาสในการได้รับสินค้า

3. ไม่ต้องมีเงินดาวน์มาก บางสินค้าเช่าซื้อไม่ต้องการเงินดาวน์หรือต้องการเงินดาวน์เพียงน้อย

4. มีอายุสัญญาที่ยืดหยุ่น สัญญาเช่าซื้อมักมีอายุสัญญาที่ยืดหยุ่น ทำให้บุคคลหรือธุรกิจสามารถเลือกอายุสัญญาที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระเงิน

5. เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ต้องการความสัมพันธ์เชิงเงินกับธนาคาร เช่าซื้อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการสินค้าหรือทรัพย์สินโดยไม่ต้องมีความสัมพันธ์ทางการเงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงิน

แต่ก็ควรระมัดระวังเรื่องการชำระเงินในเช่าซื้อ เนื่องจากหากไม่สามารถชำระเงินตามสัญญาอาจทำให้สูญเสียสินค้าหรือทรัพย์สินที่เช่าไปและมีผลกระทบต่อความเสียหายทางการเงินและเครดิตของบุคคลหรือธุรกิจได้

ในระบบเช่าซื้อ (lease-to-own) ระหว่างระยะเวลาที่ทำสัญญาเช่าซื้อ สิทธิ์สินค้าจะยังเป็นของผู้ให้เช่า (บริษัทเช่าซื้อหรือผู้ให้บริการ) ซึ่งหมายความว่าผู้เช่าซื้อ (ลูกค้า) ยังไม่ได้เป็นเจ้าของสิทธิ์สินค้านั้น ๆ ในขณะที่ทำสัญญาเช่าซื้อ แต่มีสิทธิ์ในการใช้สินค้าตามที่ระบุในสัญญา

สิทธิ์ของผู้เช่าซื้อจะเริ่มเกิดเมื่อผู้เช่าซื้อชำระเงินตามข้อกำหนดในสัญญาเช่าซื้อ โดยเฉพาะการชำระเงินค่าเช่าในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งอาจรวมถึงการชำระเงินดาวน์และค่าดอกเบี้ย (ถ้ามี) ที่ระบุในสัญญา เมื่อผู้เช่าซื้อชำระเงินครบตามที่กำหนดในสัญญา สิทธิ์สินค้าจะถูกโอนให้แก่ผู้เช่าซื้อ ทำให้เขาเป็นเจ้าของสิทธิ์สินค้านั้นและมีสิทธิ์ในการเอาสินค้าไปใช้ หรือขายได้ตามต้องการ

แต่ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อไม่สามารถชำระเงินตามสัญญาเช่าซื้อ บริษัทเช่าซื้อสามารถยกเลิกสัญญาและยึดสินค้ากลับมาโดยไม่ต้องคืนเงินที่ผู้เช่าซื้อชำระไว้แล้ว ในกรณีนี้ สิทธิ์สินค้ายังคงเป็นของผู้ให้เช่า

สรุปคือ ในระหว่างระยะเวลาที่ทำสัญญาเช่าซื้อ สิทธิ์สินค้ายังเป็นของผู้ให้เช่า แต่เมื่อผู้เช่าซื้อชำระเงินครบตามสัญญา สิทธิ์สินค้าจะถูกโอนให้แก่ผู้เช่าซื้อและเขาจะเป็นเจ้าของสิทธิ์สินค้านั้น ๆ และมีสิทธิ์ในการใช้หรือขายได้ตามต้องการ