ผู้รับเหมาค่าแรง
การเริ่มต้นในการรับเหมาค่าแรงขึ้นอยู่กับบริษัทหรือองค์กรที่คุณกำลังทำงานกับและรูปแบบของโครงการที่คุณจะรับเหมาค่าแรงด้วยกัน อย่างไรก็ตาม นี่คือขั้นตอนที่คุณสามารถดำเนินการเพื่อเริ่มต้นในการรับเหมาค่าแรง
-
กำหนดขอบเขตของงาน กำหนดรายละเอียดของงานที่คุณจะรับเหมาค่าแรง เช่น งานก่อสร้างอาคาร, งานติดตั้งระบบไฟฟ้า, งานเขียนโปรแกรม เป็นต้น ระบุขอบเขตของงานอย่างชัดเจนเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดพลาดในภายหลัง
-
ประเมินค่าแรง วิเคราะห์และประเมินค่าแรงที่เหมาะสมสำหรับงานที่คุณจะรับเหมา ค่าแรงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเภทของงาน คุณอาจต้องพิจารณาต้นทุนในการจ้างงานและค่าแรงที่พนักงานประจำต้องได้รับเป็นพิเศษ เพื่อกำหนดราคาที่เหมาะสม
-
สร้างเอกสารสัญญา เมื่อคุณกำหนดค่าแรงและรายละเอียดของงานแล้ว คุณควรสร้างเอกสารสัญญาที่ระบุเงื่อนไขและข้อกำหนดของการรับเหมาค่าแรง อาทิเช่น งานที่ต้องทำ, ราคาที่ตกลง, ระยะเวลาการทำงาน, การชำระเงิน เป็นต้น เอกสารสัญญานี้จะช่วยปกป้องทั้งคุณและลูกค้าในกรณีเกิดข้อขัดแย้ง
-
ติดตามการปฏิบัติงาน เมื่อเริ่มงาน คุณควรให้ความสำคัญกับการติดตามและควบคุมการปฏิบัติงานเพื่อให้สามารถดำเนินโครงการตามเวลาและคุณภาพที่กำหนดไว้ในสัญญาได้ การติดตามและรายงานความคืบหน้าให้กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยสร้างความไว้วางใจและสัญญาณให้ลูกค้ารู้ว่าคุณกำลังปฏิบัติงานอย่างสมบูรณ์
-
การวิจัยตลาดและการเสนอราคา หากคุณต้องการเริ่มต้นรับเหมาค่าแรงในตลาดที่คุณยังไม่คุ้นเคย คุณอาจต้องศึกษาตลาดและการเสนอราคาในงานดังกล่าว ศึกษาและเปรียบเทียบราคาที่คู่แข่งหรือบริษัทอื่นเสนอ เพื่อให้คุณสามารถกำหนดราคาที่เหมาะสมและแข็งแกร่งที่สุดได้
ควรทราบว่าขั้นตอนดังกล่าวอาจมีการปรับแต่งให้เหมาะสมตามสถานการณ์และอุปสงค์ของคุณ แนะนำให้คุณปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจหรือทนายความเพื่อให้คำปรึกษาเพิ่มเติมและแนะนำในกรณีที่ซับซ้อนขึ้น
ผู้รับเหมาค่าแรง อาชีพ ที่พบเห็นโดยทั่วไป
การรับเหมาช่วงสามารถทำหลากหลายอาชีพและงานตามความเชี่ยวชาญและความสามารถของบุคคล ตัวอย่างอาชีพและงานที่ผู้รับเหมาช่วงสามารถทำได้รวมถึงไม่จำกัดเพียงนี้
-
งานก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง เช่น งานก่อสร้างบ้านหรืออาคารพาณิชย์ งานไฟฟ้า งานประปา งานโครงสร้าง และงานต่อเติม
-
งานไฟฟ้าและรับเหมางานไฟฟ้า เช่น การติดตั้งระบบไฟฟ้าในอาคาร การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ หรือการซ่อมแซมระบบไฟฟ้า
-
งานประปาและรับเหมางานประปา เช่น การติดตั้งระบบท่อน้ำ การติดตั้งอุปกรณ์ประปา หรือการซ่อมแซมระบบประปา
-
งานโครงสร้างเหล็กและรับเหมางานโครงสร้างเหล็ก เช่น การติดตั้งโครงสร้างเหล็กในอาคาร การสร้างสระว่ายน้ำ หรือการสร้างเพลาล้อม
-
งานปูน/งานก่อสร้างทั่วไป เช่น งานทาสี งานปูกระเบื้อง งานติดตั้งฝ้าเพดาน หรืองานปูพื้น
-
งานติดตั้งระบบสื่อสารและเครือข่าย เช่น การติดตั้งระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การติดตั้งระบบโทรศัพท์ หรือการติดตั้งกล้องวงจรปิด
-
งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การพัฒนาและการดูแลระบบเว็บไซต์ การสร้างและการบำรุงรักษาระบบฐานข้อมูล หรือการพัฒนาแอปพลิเคชัน
-
งานออกแบบกราฟิกและสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น การออกแบบโลโก้ การออกแบบสื่อโฆษณา การออกแบบสื่อการตลาด
-
งานซ่อมแซมและบำรุงรักษา เช่น งานซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้า งานซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า หรืองานบำรุงรักษาสิ่งก่อสร้าง
-
งานบริการอื่น ๆ เช่น งานทำสวน งานปูผนังกระจก งานติดตั้งระบบเสียง หรืองานติดตั้งระบบระบายอากาศ
โดยสิ่งที่ผู้รับเหมาช่วงทำจะขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญและความสามารถของบุคคล การรับเหมาช่วงสามารถเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีความสามารถพิเศษในงานที่เฉพาะเจาะจงและต้องการงานชิ้นงานโดยเฉพาะ
ผู้รับเหมาค่าแรง ผู้รับเหมาช่วง
ดังนั้นเราจะเปรียบเทียบระหว่างผู้รับเหมาค่าแรงและผู้รับเหมาช่วงในรูปแบบตารางดังนี้
ลักษณะ | ผู้รับเหมาค่าแรง | ผู้รับเหมาช่วง |
---|---|---|
ตำแหน่ง | ผู้รับเหมาค่าแรงมีตำแหน่งและสถานะที่แยกต่างหากจากลูกจ้าง เป็นคนหรือบริษัทที่ได้รับสัญญาในการทำงาน | ผู้รับเหมาช่วงไม่มีตำแหน่งและสถานะที่แยกต่างหากจากลูกจ้าง เป็นบุคคลที่ถูกจ้างในการทำงานในช่วงเวลาที่กำหนด |
ความรับผิดชอบและความเสี่ยง | ผู้รับเหมาค่าแรงรับผิดชอบในการจัดการและดำเนินงานตามสัญญา เป็นเจ้าของความเสี่ยงในกรณีเกิดความผิดพลาดหรือการละเมิดสัญญา | ผู้รับเหมาช่วงไม่รับผิดชอบในการจัดการและดำเนินงานตามสัญญา เป็นผู้ทำงานตามช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น |
ระยะเวลาการจ้างงาน | ผู้รับเหมาค่าแรงสามารถทำงานในโครงการเฉพาะหน้าหรือโครงการกำหนดเวลาแน่นอน | ผู้รับเหมาช่วงจ้างงานในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น โดยไม่มีความรับผิดชอบในการทำงานนอกเวลาที่กำหนด |
ความยืดหยุ่นในการทำงาน | ผู้รับเหมาค่าแรงมีความยืดหยุ่นมากกว่าในการตัดสินใจและวางแผนในการทำงาน | ผู้รับเหมาช่วงมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า เนื่องจากต้องทำงานตามช่วงเวลาที่กำหนดและระบบการทำงานที่กำหนด |
การควบคุมและการกำหนดงาน | ผู้รับเหมาค่าแรงมีอิสระในการกำหนดวิธีการทำงานและการจัดการและมีความเสรีในการตัดสินใจในกระบวนการทำงาน | ผู้รับเหมาช่วงต้องปฏิบัติตามคำสั่งและข้อกำหนดที่กำหนดไว้จากลูกจ้าง |
การจ่ายค่าตอบแทนและประสบการณ์การทำงาน | ผู้รับเหมาค่าแรงจะได้รับค่าตอบแทนที่มากกว่าและมีโอกาสที่จะได้สร้างรายได้เพิ่มจากการทำงานรายวันหรือรายโครงการ | ผู้รับเหมาช่วงจะได้รับค่าตอบแทนตามช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้นและไม่มีโอกาสที่จะได้สร้างรายได้เพิ่มจากงานเสริม |
โดยทั่วไปแล้วผู้รับเหมาค่าแรงมักมีความเสี่ยงและความรับผิดชอบที่มากกว่าผู้รับเหมาช่วง แต่ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง ทั้งสองรูปแบบสามารถมีประโยชน์และความเหมาะสมตามเงื่อนไขและความต้องการของโครงการและองค์กรที่เกี่ยวข้อง
การจ้างเหมาค่าแรง มีกี่ประเภท
การจ้างเหมาค่าแรงมีหลายประเภท โดยส่วนใหญ่แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้
-
การจ้างเหมางานงานแบบ Lump Sum ประเภทนี้เป็นการจ้างเหมาค่าแรงที่กำหนดราคาคงที่สำหรับงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งราคาที่ตกลงกันเป็นราคาทั้งหมดที่ผู้รับเหมาต้องปฏิบัติงานตามขอบเขตและข้อกำหนดที่กำหนดไว้ในสัญญา ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบในการจัดหาวัสดุและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำงาน และรับผิดชอบในความเสี่ยงและความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในระหว่างการปฏิบัติงาน แต่ราคาตกลงไม่รวมค่าเพิ่มเติมใดๆที่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงหรืองานเพิ่มเติม
-
การจ้างเหมางานแบบรายจ่าย (Cost Plus) ประเภทนี้เป็นการจ้างเหมาค่าแรงที่เน้นการชำระเงินตามค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นในการทำงาน ผู้ว่าจ้างจะจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาเป็นตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งสามารถรวมถึงวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในงานได้ มักมีการกำหนดจำนวนค่าใช้จ่ายสูงสุดที่ผู้ว่าจ้างยินยอมจ่าย (ceiling price) และรายละเอียดการชำระเงินเพิ่มเติมที่ผู้รับเหมาจะได้รับ เช่น ค่าแรงต่างหากในช่วงเวลาพิเศษ
-
การจ้างเหมางานแบบหน่วยราคา (Unit Price) ประเภทนี้เป็นการจ้างเหมาค่าแรงตามหน่วยงานหรือหน่วยงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยราคาจะถูกกำหนดตามราคาหน่วยงานที่กำหนดไว้ในสัญญา ผู้ว่าจ้างจะจ่ายเงินตามจำนวนหน่วยงานที่ผู้รับเหมาปฏิบัติ โดยผู้รับเหมาจะต้องรับผิดชอบในการจัดหาวัสดุและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำงาน รวมถึงความเสี่ยงและความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในระหว่างการปฏิบัติงาน
เราสามารถเลือกใช้ประเภทการจ้างเหมาค่าแรงที่เหมาะสมกับลักษณะงานและความต้องการของโครงการที่กำลังดำเนินอยู่
ผู้รับเหมาค่าแรง คือ
ผู้รับเหมาค่าแรง หมายถึง บุคคลหรือบริษัทที่ได้รับสัญญาจากผู้ว่าจ้างในการทำงานตามขอบเขตและข้อกำหนดที่กำหนดไว้ในสัญญา ส่วนใหญ่จะรับผิดชอบในการจัดหาแรงงานที่จำเป็นตลอดจนวัสดุและอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการปฏิบัติงาน รวมถึงการควบคุมและดูแลคุณภาพและเวลาการทำงาน เป็นต้น
ตัวอย่างของผู้รับเหมาค่าแรงสามารถเป็นหน่วยงานก่อสร้าง, บริษัทรับเหมางานไฟฟ้า, โปรแกรมเมอร์ซอฟต์แวร์, หน่วยงานจัดซื้อหรือผู้รับเหมาบริการอื่น ๆ ที่ทำงานตามสัญญาเพื่อผลิตผลงานหรือบริการตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการ
ตัวอย่างการจ้างเหมาค่าแรง
ตัวอย่างการจ้างเหมาค่าแรงในโครงการก่อสร้างอาจมีดังนี้
ลักษณะงาน | รายละเอียด | ราคาค่าแรง (บาท) |
---|---|---|
งานก่อสร้างบ้าน | ก่อสร้างบ้าน 2 ชั้นขนาด 150 ตารางเมตร | 2,000,000 |
รวมการติดตั้งระบบไฟฟ้าและประปา | ||
---|---|---|
งานติดตั้งระบบไฟฟ้า | ติดตั้งระบบไฟฟ้าในอาคารที่มี 5 ชั้น | 500,000 |
รวมการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ |
---|
งานติดตั้งระบบประปา | ติดตั้งระบบประปาในอาคารที่มี 10 ชั้น | 800,000 |
---|
โดยในตัวอย่างนี้ มีการจ้างเหมาค่าแรงในงานก่อสร้างบ้าน งานติดตั้งระบบไฟฟ้า และงานติดตั้งระบบประปา โดยระบุราคาค่าแรงที่ตกลงกันในแต่ละงาน แต่อย่างไรก็ตาม ราคาค่าแรงสามารถแปรผันได้ตามสถานการณ์และสภาพตลาดในแต่ละช่วงเวลา คุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านก่อสร้างหรือทนายความเพื่อคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดราคาค่าแรงที่เหมาะสมสำหรับโครงการของคุณ
ตารางรายรับรายจ่าย ผู้รับเหมาค่าแรง
สามารถใช้รูปแบบตารางดังนี้เพื่อแสดงรายรับและรายจ่ายของผู้รับเหมาค่าแรง
วันที่ | รายการ | รายรับ (บาท) | รายจ่าย (บาท) |
---|---|---|---|
1 ม.ค. | เงินเดือน | 10,000 | |
5 ม.ค. | ค่าแรงงานจ้าง | 5,000 | |
10 ม.ค. | เงินเดือน | 10,000 | |
15 ม.ค. | ค่าแรงงานจ้าง | 5,000 | |
1 ก.พ. | เงินเดือน | 10,000 | |
5 ก.พ. | ค่าแรงงานจ้าง | 5,000 | |
10 ก.พ. | เงินเดือน | 10,000 | |
15 ก.พ. | ค่าแรงงานจ้าง | 5,000 | |
… | … | … | … |
ในตารางข้างต้น คอลัมน์แรกเป็นวันที่ของรายการ คอลัมน์ที่สองเป็นรายการรายรับหรือรายจ่าย คอลัมน์ที่สามเป็นจำนวนเงินรายรับ และคอลัมน์ที่สี่เป็นจำนวนเงินรายจ่าย
วิเคราะห์ SWOT Analysis ผู้รับเหมาค่าแรง
การวิเคราะห์ SWOT (Strengths, Weaknesses, Opportunities, Threats) เป็นกระบวนการที่ช่วยให้เราสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและตัวบุคคลหรือองค์กรในมุมของปัจจัยที่เป็นข้อได้เปรียบ (Strengths) และปัจจัยที่เป็นข้อเสีย (Weaknesses) ภายในองค์กร รวมถึงโอกาส (Opportunities) และอุปสรรค (Threats) ที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมภายนอกองค์กร
ต่อไปนี้คือตัวอย่างของตาราง SWOT Analysis สำหรับผู้รับเหมาค่าแรง
Strengths (ข้อได้เปรียบ) | Weaknesses (ข้อเสีย) | |
---|---|---|
ชื่อเรื่อง/เรื่อง | – มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในงาน | – ขาดความสามารถในการจัดการทางธุรกิจ |
– ประสิทธิภาพและความสามารถในการทำงานรวดเร็ว | – ขาดทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ |
– คุณภาพการทำงานและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ |
---|
Opportunities (โอกาส) | Threats (อุปสรรค) | |
---|---|---|
ชื่อเรื่อง/เรื่อง | – การเติบโตของตลาดในอุตสาหกรรม | – การแข่งขันจากผู้ประกอบการอื่น ๆ |
– ความต้องการใช้งานงานรับเหมาเพิ่มขึ้น | – ปัญหาในการหาแรงงานที่มีความชำนาญ | |
– นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ | – การเปลี่ยนแปลงในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง | |
– การขยายตลาดไปยังภูมิภาคหรือต่างประเทศ |
ในตารางข้างต้น มีส่วนประกอบหลัก 4 ส่วน คือ Strengths, Weaknesses, Opportunities, และ Threats ซึ่งแบ่งออกเป็นคอลัมน์ที่สองสำหรับแต่ละส่วน เพื่อแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแต่ละปัจจัยใน SWOT Analysis ของผู้รับเหมาค่าแรง
คําศัพท์พื้นฐาน ผู้รับเหมาค่าแรง ที่ควรรู้
นี่คือคำศัพท์พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับผู้รับเหมาค่าแรงที่คุณควรรู้
-
ผู้รับเหมาค่าแรง (Contractor) – บุคคลหรือองค์กรที่ได้รับสัญญาจ้างเพื่อทำงานหรือให้บริการในรูปแบบของค่าแรงตามที่กำหนดในสัญญา
-
งานรับเหมา (Contract work) – งานที่ผู้รับเหมาตกลงที่จะดำเนินการตามสัญญาและรับค่าแรงเป็นตอบแทน
-
ราคาเสนอ (Bid price) – จำนวนเงินที่ผู้รับเหมาเสนอในการจ้างงานหรือโครงการ
-
สัญญา (Contract) – เอกสารที่มีผลผูกมัดระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้รับเหมาค่าแรงซึ่งระบุขอบเขตของงานที่ต้องทำ ข้อกำหนดเงื่อนไขการจ้างงาน รายละเอียดค่าแรง รวมถึงเงื่อนไขการชำระเงิน
-
การประมูล (Bidding) – กระบวนการที่ผู้ว่าจ้างเปิดรับการเสนอราคาจากผู้สนใจในการรับเหมางาน และเลือกผู้รับเหมาตามเกณฑ์ที่กำหนด
-
ค่าแรง (Labor cost) – จำนวนเงินที่ต้องจ่ายให้กับผู้รับเหมาค่าแรงเป็นตอบแทนการทำงาน
-
สิทธิและความรับผิดชอบตามสัญญา (Rights and responsibilities under the contract) – สิทธิและหน้าที่ที่ผู้รับเหมาต้องปฏิบัติตามที่ระบุในสัญญา
-
งบประมาณ (Budget) – การกำหนดจำนวนเงินที่สามารถใช้ได้สำหรับโครงการหรืองานที่ได้รับการเหมา
-
ความชำนาญ (Expertise) – ความรู้ความสามารถในงานที่ผู้รับเหมามีเป็นพิเศษ และเชี่ยวชาญในการดำเนินงาน
-
การควบคุมคุณภาพ (Quality control) – กระบวนการตรวจสอบและตรวจวัดคุณภาพของงานที่ผู้รับเหมาค่าแรงทำขึ้นเพื่อให้ตรงตามมาตรฐานและความต้องการ
-
การจัดการเวลา (Time management) – การวางแผนและควบคุมการใช้เวลาให้เหมาะสมเพื่อสำเร็จการทำงานในเวลาที่กำหนด
-
การควบคุมต้นทุน (Cost control) – การวางแผนและควบคุมค่าใช้จ่ายในการทำงานเพื่อให้เข้ากับงบประมาณที่กำหนดไว้
-
การประเมินผล (Performance evaluation) – กระบวนการตรวจสอบและประเมินผลการทำงานของผู้รับเหมาค่าแรงเพื่อตรวจสอบว่ามีความสอดคล้องกับความต้องการของโครงการหรือไม่
-
การบริหารความเสี่ยง (Risk management) – กระบวนการวางแผนและดำเนินการเพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการรับเหมาค่าแรง
-
ความรับผิดชอบต่อความปลอดภัย (Responsibility for safety) – ความรับผิดชอบของผู้รับเหมาค่าแรงในการรักษาความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน
โดยคำศัพท์เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้น การศึกษาและเรียนรู้เพิ่มเติมในสาขาที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้คุณเข้าใจและเสริมความรู้ในด้านนี้ได้อีกมากขึ้น
ผู้รับเหมาค่าแรง เสียภาษี อะไร
ผู้รับเหมาค่าแรงอาจมีการเสียภาษีตามกฎหมายภาษีของแต่ละประเทศ ภาษีที่ผู้รับเหมาค่าแรงอาจต้องเสียได้แก่
-
ภาษีเงินได้บุคคล (Personal Income Tax) – ผู้รับเหมาค่าแรงอาจต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลตามรายได้ที่ได้รับจากงานรับเหมาค่าแรง การเสียภาษีเงินได้บุคคลขึ้นอยู่กับระบบภาษีของแต่ละประเทศ ซึ่งอาจมีการกำหนดอัตราภาษีต่าง ๆ ตามระดับรายได้
-
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax, VAT) – ในบางประเทศ ผู้รับเหมาค่าแรงอาจต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT เมื่อทำธุรกิจและออกใบกำกับภาษีตามกฎหมายท้องถิ่น ภาษีนี้จะเรียกเก็บจากผู้ซื้อบริการหรือสินค้าและจ่ายให้กับหน่วยงานภาษี
-
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) – บางประเทศอาจกำหนดให้ผู้จ่ายเงินแก่ผู้รับเหมาค่าแรงหักภาษีเงินได้และส่งเงินให้กับหน่วยงานภาษี ภาษีที่ถูกหักอาจเป็นเงินบางส่วนหรือทั้งหมดของค่าแรงที่ได้รับ
-
ภาษีอื่น ๆ – อย่างอื่นที่ผู้รับเหมาค่าแรงอาจต้องเสียภาษีอาจมีการกำหนดเพิ่มเติมตามกฎหมายท้องถิ่นหรือกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ควรระบุว่าการเสียภาษีเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนและขึ้นอยู่กับกฎหมายและระเบียบของแต่ละประเทศ ผู้รับเหมาค่าแรงควรปรึกษาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือทนายความเพื่อให้ได้ข้อมูลและคำแนะนำที่ถูกต้องสำหรับสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง
ปริญญาตรี บัญชี นักบัญชี ที่ชอบทำบทความ รักการทำบทความมากว่า 20 ปี