สำหรับแนวคิดและพื้นฐานในการทำบัญชี จำเป็นต้องมีการนำเสนองบการเงินต่างๆเพื่อให้บุคคลภายนอกนั้นได้รับรู้ โดยใช้แนวคิดตามหลักการในการทำบัญชีดังต่อไปนี้
1.ข้อสมมติ จะต้องมีทั้งเกณฑ์คงค้าง เพื่อลำดับเหตุการณ์และรายการต่างๆที่เกิดขึ้นในบัญชีทุกเมื่อ ไม่ใช่แค่รับหรือว่าจ่ายเงินเท่านั้น แต่ทุกรายการจะเป็นการเทียบเท่ากับเงินสดทันที โดยจะต้องมีการดำเนินการที่ต่อเนื่อง พร้อมมีกิจการที่ดำเนินมาอย่างยาวนานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายจนสำเร็จ ทั้งนี้หากต้องยกเลิกกิจการก็ต้องใช้งบการเงินและหลักเกณฑ์ในการทำบัญชี
2.ลักษณะในเรื่องของคุณภาพงบการเงิน จำเป็นต้องมีความเข้าใจในเรื่องของการใช้งบการเงินด้วย พร้อมทั้งต้องมีการตัดสินใจที่ดี ต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะต่างๆได้ ต้องใช้นัยยะที่สำคัญเข้ามาช่วย เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกัสิ่งที่เกี่ยวข้องทางเศรษฐกิจ ในการประเมินเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งในอดีต ในปัจจุบัน และในอนาคตนั่นเองผ่านบทบาทของข้อมูลต่างๆโดยจะนำมาคาดคะเนเพื่อความถูกต้อง จนบัญชีมีความสัมพันธ์กัน ส่วนข้อมูลทางฐานะการเงินนั้นก็จะเน้นในเรื่องของการดำเนินงานเป็นหลักทั้งในปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้เอง
ความเชื่อถือได้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการอธิบายงบการเงินที่มีประโยชน์ต่อการตัดสินใจ ไม่ให้มีความผิดพลาด เพราะว่าตรงนี้ต้องมีการนำเสนอบัญชีอย่างไม่ลำเอียง เพราะว่าต้องมีความเที่ยงธรรมในการเป็นตัวแทน, ต้องมีรูปแบบที่เป็นรองเนื้อหา, ต้องมีความเป็นกลาง, ต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ และต้องมีความครบถ้วน จากนั้นก็ทำการเปรียบเทียบในส่วนต่างๆของบัญชี
และนำข้อมูลต่างๆมาเทียบกับงบการเงินในการทำบัญชีต่อไป ในส่วนของรายการบัญชีพื้นฐานก็จะมีหลัดๆต่อไปนี้คือ สินทรัพย์ หรือ Assets เป็นทรัพยากรต่างๆของกิจการ ทำให้ได้รับผลประโยชน์จากตรงนี้ ( แบ่งออกเป็นสินทรัพย์หมุนเวียน, สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ) หนี้สิน หรือ Liability คือภาระต่างๆที่ผูกพันกับกิจการซึ่งมีลักษณะเป็นการผุกันในปัจจุบัน ผลที่มาจากในอดีตและในอนาคต ( แบ่งออกเป็นหนี้สินหมุนเวียน, หนี้สินไม่หมุนเวียน )
ส่วนของเจ้าของ หรือ Stockholder’s Equit คือส่วนได้ส่วนเสียนั่นเอง เมื่อหักหนี้สินออกแล้ว นี่จะเป็นส่วนของเจ้าของ รายได้ หรือ Revenue คือประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ วึ่งจะช่วยลดหนี้สินลงได้ โดยมีเกณฑ์การพิจารณาในแบบต่างๆ ค่าใช้จ่าย คือผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจนั่นเอง ซึ่งจะลดลงทำให้บางทีหนี้สินอาจจะเพิ่มขึ้น