หลายท่านมีแนวคิดที่ว่าเงินไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต กล่าวคือ “เงินไม่ใช่พระเจ้า” แต่ในความจริงแล้วแนวคิดดังกล่าวก็ไม่ถูกไปทั้งหมด เนื่องจากว่าเงินเป็นสิ่งที่มาขับเคลื่อนปัจจัยในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การจับจ่ายใช้สอยสำหรับการอุปโภคบริโภค(ซื้อของใช้, กินข้าวนอกบ้าน เป็นต้น) สิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า เราปล่อยให้เงินเข้ามาบงการชีวิต คือ เราไม่สามารถจัดการสถานการณ์การเงินในแต่ละเดือน หรือแต่ละรอบการใช้จ่ายให้อยู่มือ จนเกิดวิกฤติ เป็นหนี้สินรอบตัว อย่ารอให้ถึงวิกฤตเลย ลองมองหาสัญญาณอันตรายทางการเงินในกระเป๋าของเราเสียก่อน สำรวจดูซิว่าคุณกำลังตกอยู่ในภาวะอย่างนี้บ้างหรือไม่
– รายจ่ายสูงกว่ารายรับ
– ยอดหนี้ของบัตรเครดิตมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่ในขณะที่รายรับคงที่หรือลดลง
– คุณต้องชำระยอดบัตรเครดิตขั้นต่ำของทุกเดือน
– คุณคิดจะทำบัตรเครดิตเพิ่มอีกใบเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ค้างชำระในบัตรเครดิตใบเก่า ยอดเงินคงเหลือจากวงเงินบัตรเครดิตเหลือน้อยเต็มที แต่ละเดือนคุณต้องจ่ายค่าบัตรเครดิตเป็นจำนวนมากจนเหลือเงินไม่พอใช้จ่ายอย่างอื่น
– ฯลฯ
ถ้าหากว่าคุณอยู่ในลักษณะดังกล่าวข้างต้นมีเหล่านี้ตั้งแต่ 1 ข้อขึ้นไป ถือว่าเป็นลางบอกเหตุว่า สถานการณ์การเงินของคุณทำท่าจะมีปัญหาเสียแล้ว แม้คุณคิดว่า “พอจะหมุนเงินต่อไปได้ เดี๋ยวเอาโน่น นี่ นั่นไปขายฝาก(จำนำ)ก่อนก็ได้นะ” แต่อีกไม่นานเกลียวปัญหาก็จะรัดตัวเราแน่นขึ้นไปอีก จนกระทั่งคุณดิ้นไม่หลุด ดังนั้นให้ทบทวนว่าสาเหตุเป็นเพราะอะไร เป็นภาวะชั่วคราวเพราะมีเหตุอะไรบางอย่างเข้ามาทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หรือเราไม่ใส่ใจดูแลการเงินให้ดี ขอให้ตอบด้วยซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ถ้าเป็นอย่างหลังต้องยอมรับก่อนว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย
ถ้าพฤติกรรมที่เป็นปัญหานั้นมาจากคนอื่นในบ้าน ก็ต้องมานั่งพูดคุยกัน ขอให้ร่วมมือกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งความยากอยู่ตรงนี้เอง อาจทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของทุกคนในบ้าน แล้วเอามาดูกันให้รู้ปัญหาร่วมกัน หากทุกคนยอมรับได้ถือว่าการแก้ปัญหาเดินหน้าไปถึงครึ่งแล้วละ ต่อจากนั้นขอให้ทุกคนทำบัญชีค่าใช้จ่ายประจำวันของตัวเอง เพื่อจะได้ควบคุมการใช้จ่าย ที่สำคัญคนที่มีหน้าที่ดูแลค่าใช้จ่ายในบ้านต้องมีวินัยในการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่าเอาเงินส่วนต่างๆ มาใช้จ่ายกับเรื่องที่ไม่ได้วางแผนไว้
แต่ถ้าปัญหาของเราหนักหนาสาหัสจนมองไม่เห็นทางออก ที่ปรึกษาทางด้านการเงินเป็นอีกตัวช่วย ซึ่งในต่างประเทศเขาจะมีที่ปรึกษาทางด้านการจัดการการเงินมืออาชีพคอยให้บริการ ส่วนในบ้านเรายังไม่มี คงต้องมองหาคนรู้จักมักคุ้นที่มีความรู้ด้านการเงินการบัญชีให้คำปรึกษา เป็นต้น เรามาป้องกันเงินในกระเป๋าของเรากันตั้งแต่วันนี้ดีกว่านะคะ
อ่านเพิ่มเติม >> ข้อดีข้อเสียของบัญชีครัวเรือน