มีหลักเกณฑ์การกำหนดค่าล่วงเวลาหลังเที่ยงคืนหรือเปล่า

รับทำบัญชี.COM | วิธีคิดโอทีชั่วโมงละเท่าไหร่ 1.5 รายเดือน?

Click to rate this post!
[Total: 194 Average: 5]

วิธีคิดค่าล่วงเวลา

มีหลักเกณฑ์การกำหนดค่าล่วงเวลาหลังเที่ยงคืนหรือเปล่า

ค่าล่วงเวลา หลังเที่ยงคืน มีหลักเกณฑ์การกำหนดค่าล่วงเวลาหลังเที่ยงคืนหรือเปล่า บริษัทเปิด 8-5 โมงเย็น
– ในกรณีที่นายจ้างต้องจ่ายค่าล่วงเวลาในอัตราไม่น้อยกว่า 3 เท่า ต้องเป็นในกรณีที่เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด
– ถ้านายจ้างให้ลูกจ้างทำงานเกินวันละ 8 ชม นายจ้างต้องจ่ายค่าล่วงเวลา 15 เท่า ของค่าจ้างของลูกจ้าง พรบคุ้มครองแรงงาน พศ2541 มาตรา 61 ถ้านายจ้างให้ลูกจ้างทำงานเกินวันละ 8 ชม นายจ้างต้องจ่ายค่าล่วงเวลา 15 เท่า ของค่าจ้างของลูกจ้างค่ะ แต่ ถ้าในกรณที่ทำงานล่วงเวลาเกิน 8 ชม นายจ้างต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง และ นายจ้างต้องจ่ายค่าล่วงเวลาในอัตรา 30 เท่าของค่าจ้าง
พรบคุ้มครองแรงงาน พศ2541 มาตรา 61 การคำนวณค่าจ้างในการทำงานล่วงเวลา
การทำงานล่วงเวลา หรือทำงานพิเศษนั้น ผมขอจำแนกตามกฎหมายออกเป็น 3 ประเภทคือ
1 การทำงานล่วงเวลาในวันปกติ
2 การทำงานในวันหยุด
3 การทำงานล่วงเวลาในวันหยุด
ซึ่งจะขออธิบายการคิดคำนวณเป็นข้อๆ ดังนี้
1 การทำงานล่วงเวลา การทำงานที่เกินจากการทำงานเวลาปกติไปแล้ว พรบคุ้มครองแรงงานมาตรา 61 กำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างไม่น้อยกว่า 15 (หนึ่งเท่าครึ่ง) ของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง เช่น จากตัวอย่างข้างต้นเราได้มาแล้วว่า อัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงปกติของเรานั้นอยู่ที่ 4167 บาทต่อชั่วโมงดังนั้นหากเราอยากรู้ว่า วันนี้เราทำงานล่วงเวลาไปแล้ว 1 ชั่วโมง จะได้ค่าทำงานล่วงเวลาเท่าไร ก็สามารถคำนวณง่ายๆโดย ( อัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงปกติ คูณด้วย 15 เท่า) คุณ จำนวนชั่วโมงที่ทำงานล่วงเวลา สำหรับกรณีตัวอย่างข้างต้น อัตราทำงานล่วงเวลาในวันปกติจะอยู่ที่ (4167 X 15) X 1 ชั่วโมง = 6250 บาท
หมายเหตุ การทำงานล่วงเวลา นอกจากจะมีกฎหมายกำหนดค่าจ้างเอาไว้แล้ว ยังมีกฎหมายกำหนดวิธีการจัดการที่ลูกจ้างต้องรู้อีกด้วย เช่น – ห้ามนายจ้างบังคับลูกจ้างทำงานล่วงเวลา ยกเว้นลูกจ้างยินยอม (มาตรา 24) – การทำงานล่วงเวลาเกินจากเวลาปกติ นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างพักก่อนไม่น้อยกว่า 20 นาทีก่อนเริ่มทำงานล่วงเวลา (มาตรา 27 วรรค 4) – งานบางอย่าง บางหน้าที่ อาจไม่ได้รับค่าจ้างทำงานล่วงเวลา ที่ 15 เท่าตามมาตรา 61 แต่จะได้รับเพียง 1 เท่าเพียงเท่านั้น เช่น ลูกจ้างที่ทีหน้าที่กระทำการแทนนายจ้าง , งานเปิดปิดประตูระบายน้ำ ฯลฯ (มาตรา 65)
2 การมาทำงานในวันหยุด ประเด็นนี้ขอแยกออกเป็นข้อย่อย 2 ประเภทคือ พนักงานรายเดือน และพนักงานรายวัน เนื่องจาก
– พนักงานรายเดือน หรือพนักงานประจำ ถือเป็นลูกจ้างที่ได้รับค่าจ้างในวันหยุด นั้นคือตามกฎหมายแล้ว วันเสาร์อาทิตย์ที่ลูกจ้างหยุด ถือว่าได้รับค่าจ้างตามกฎหมายอยู่แล้ว
– พนักงานรายวัน พนักงานประเภทนี้ วันไหนมาทำงานจึงได้ค่าจ้าง วันไหนไม่มาทำงาน ไม่ได้รับค่าจ้าง ดังนั้นพนักงานรายวันถือว่าเป็นพนักงานที่ไม่ได้รับค่าจ้างในวันหยุด
ดังนั้นการคำนวณค่าทำงานล่วงเวลา สำหรับพนักงานสองประเภทนี้ จึงต่างกันออกไป ดังนี้
21 กรณีพนักงานรายเดือน หรือพนักงานประจำ ให้จ่ายค่าทำงานในวันหยุดไม่น้อยกว่า 1 เท่า (มาตรา 62 (1)
22 กรณีพนักงานรายวัน ให้ ให้จ่ายค่าทำงานในวันหยุดไม่น้อยกว่า 2 เท่า (มาตรา 62 (2) สำหรับประเด็นที่ดิฉันยกกฎหมายมาอ้างอิงนั้น เป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด เพราะฉะนั้นไม่ต้องมานั่งถกเถียงกันว่า บริษัทนี้ให้ที่ 1 เท่า บริษัทนั้นให้ที่ 2 เท่า เพราะพื้นฐานที่ให้อยู่เพียง 1 เท่าเท่านั้นหากบริษัทใดให้มากกว่า 1 เท่าแล้ว ถือว่าเป็นคุณต่อลูกจ้าง และไม่ได้ถือว่าผิดแต่อย่างใด
3 การทำงานล่วงเวลาในวันหยุด หลังจากที่ทำงานในวันหยุดครบ 8 ชั่วโมงไปแล้ว หรือหลังเวลาเลิกงานในวันหยุดไปแล้ว หากต้องทำงานล่วงเวลา การคำนวณค่าทำงานล่วงเวลาในวันหยุดจะคล้ายๆกับการคำนวณการทำงานล่วงเวลาในวันทำงานปกติ เพียงแต่เปลี่ยนจาก 15 เท่า เป็นอัตราชั่วโมงละไม่น้อยกว่า 3 (สาม) เท่า เท่านั้นเองคะ (มาตรา 63)
ดังนั้น ตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นเลย การคำนวณค่าทำงานล่วงเวลาในวันหยุดจะเท่ากับ ( อัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงปกติ คูณด้วย 30 เท่า) คุณ จำนวนชั่วโมงที่ทำงานล่วงเวลา เช่น อัตราทำงานล่วงเวลาในวันปกติจะอยู่ที่ (4167 X 30) X 1 ชั่วโมง = 125 บาท

ค่าล่วงเวลาหรือโอที (Overtime) คือ เงินที่จ่ายเพิ่มในการทำงานเวลาที่เกินเวลาทำงานปกติตามระเบียบหรือข้อกำหนดของการจ้างงาน มักจะมีในกรณีที่พนักงานทำงานเกินชั่วโมงที่กำหนดในสัญญาจ้างงานหรือเกินเวลาทำงานปกติที่กำหนดไว้ในนโยบายของบริษัท โดยทั่วไปมีข้อกำหนดและกฎหมายที่กำหนดเรื่องการจ่ายค่าล่วงเวลา โอที ดังนี้

  1. อัตราค่าล่วงเวลา อัตราค่าล่วงเวลาโอทีมักถูกกำหนดเป็นเท่าไรต่อชั่วโมงที่ทำงานเกินเวลาปกติ ส่วนใหญ่อัตราค่าล่วงเวลาจะสูงกว่าค่าจ้างปกติของชั่วโมงงานปกติ เช่น 15 เท่า หรือ 2 เท่าของค่าจ้างปกติ
  2. เวลาที่ถือว่าเป็นโอที เวลาที่ถือว่าเป็นโอทีมักถูกกำหนดในสัญญาจ้างงานหรือนโยบายของบริษัท โดยทั่วไปเวลาที่เกินเวลาทำงานปกติจะถือเป็นโอที เช่น หากเวลาทำงานปกติคือ 8 ชั่วโมงต่อวัน แล้วการทำงานเกิน 8 ชั่วโมงจะถือว่าเป็นโอที
  3. กฎหมายและข้อกำหนด การจ่ายค่าล่วงเวลาโอทีมักถูกควบคุมโดยกฎหมายแรงงานและข้อกำหนดการจ้างงานของแต่ละประเทศ หรือแต่ละสถานที่ ท่านควรตรวจสอบกฎหมายแรงงานและข้อกำหนดของบริษัทที่ท่านทำงานอยู่เพื่อทราบรายละเอียดเกี่ยวกับโอที
  4. การจัดเก็บข้อมูลและรายงาน บริษัทมักจะจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานโอทีและจ่ายค่าล่วงเวลาโอทีในบัญชีและระบบของพนักงาน เพื่อให้สามารถติดตามและรายงานค่าล่วงเวลาโอทีได้อย่างถูกต้องและเป็นระบบ

ค่าล่วงเวลาโอทีเป็นสิ่งที่สามารถให้ประโยชน์แก่พนักงานที่ทำงานเกินเวลาและยินดีที่จะทำงานพิเศษ แต่สำหรับบริษัทควรใส่ใจในการจัดการโอทีและค่าล่วงเวลาโอทีอย่างถูกต้องตามกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายและการเงินในอนาคต

การคิดค่าล่วงเวลา (โอที) สามารถใช้สูตรง่าย ๆ ได้โดยพิจารณาอัตราค่าล่วงเวลาและเวลาการทำงานเกินเวลาของพนักงาน เพื่อคำนวณค่าล่วงเวลาที่จะจ่ายให้กับพนักงาน ตัวอย่างการคิดค่าล่วงเวลาโอทีดังนี้

สมมุติว่า

  • ค่าจ้างปกติต่อชั่วโมงของพนักงานคือ 100 บาท
  • อัตราค่าล่วงเวลาโอทีคือ 15 เท่าของค่าจ้างปกติ

และพนักงานทำงานเกินเวลา 2 ชั่วโมง

วิธีคำนวณค่าล่วงเวลาโอที

  1. คำนวณค่าจ้างปกติที่พนักงานจะได้รับในชั่วโมงปกติ 100 บาท/ชั่วโมง x 2 ชั่วโมง = 200 บาท
  2. คำนวณค่าล่วงเวลาโอที 200 บาท (ค่าจ้างปกติ) x 15 (อัตราค่าล่วงเวลาโอที) = 300 บาท

ดังนั้น พนักงานจะได้รับค่าล่วงเวลาโอทีเป็นจำนวน 300 บาท สำหรับการทำงานเกินเวลา 2 ชั่วโมง

หากเวลาการทำงานเกินเวลาไม่ครบชั่วโมงหรือเกิน 1 ชั่วโมง สามารถคิดค่าล่วงเวลาโอทีเป็นบาทเต็มได้ แต่หากเกิน 1 ชั่วโมงก็ควรคิดให้ถูกนาที เช่น 1 ชั่วโมง 15 นาทีคิดเป็น 125 ชั่วโมง หรือ 1 ชั่วโมง 30 นาทีคิดเป็น 15 ชั่วโมง และต่อเมื่อเกิน 15 ชั่วโมงก็คิดเป็นเวลาที่ถัดไป เช่น 2 ชั่วโมง 15 นาทีคิดเป็น 225 ชั่วโมง และอัตราค่าล่วงเวลาโอทียังคงเป็น 15 เท่าของค่าจ้างปกติ

มีหลักเกณฑ์การกำหนดค่าล่วงเวลาหลังเที่ยงคืนหรือเปล่า
มีหลักเกณฑ์การกำหนดค่าล่วงเวลาหลังเที่ยงคืนหรือเปล่า

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )