บัญชีแบล็คลิสคืออะไร 9 ที่ต้องมีการตรวจสอบประวัติทางเครดิตจบ?

บัญชีแบล็คลิสคืออะไร?

บัญชีแบล็คลิส คือรายการที่บันทึกประวัติทางการเงินของบุคคลที่มีพฤติกรรมการชำระหนี้ไม่สม่ำเสมอ หรือมีการผิดนัดชำระหนี้บ่อยครั้งจนส่งผลต่อความน่าเชื่อถือทางการเงิน การอยู่ในบัญชีแบล็คลิส นั้นอาจเป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อหรือการทำธุรกรรมการเงินที่ต้องมีการตรวจสอบประวัติทางเครดิต

ตัวอย่าง: หากมีการค้างชำระบัตรเครดิตเกิน 90 วัน ข้อมูลการค้างชำระนี้จะถูกรายงานไปยัง เครดิตบูโร ทำให้ธนาคารและสถาบันการเงินสามารถเห็นประวัติการค้างชำระนี้ได้

สาเหตุที่ทำให้เกิดบัญชีแบล็คลิส

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมถึงถูกขึ้นบัญชีแบล็คลิส สาเหตุหลัก ๆ มีดังนี้:

  • การผิดนัดชำระหนี้ เช่น บัตรเครดิต, สินเชื่อบุคคล, หรือสินเชื่อรถยนต์
  • การค้างชำระเงินกู้ โดยเฉพาะในกรณีที่มียอดค้างชำระต่อเนื่องเกิน 3 เดือน
  • การล้มละลาย หรือการถูกฟ้องร้องทางการเงิน

การกระทำเหล่านี้ทำให้เกิด “รอยด่าง” ในประวัติทางการเงิน ซึ่งจะถูกบันทึกและเผยแพร่ให้สถาบันการเงินทราบ ส่งผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคต

ผลกระทบจากการอยู่ในบัญชีแบล็คลิส

การอยู่ในบัญชีแบล็คลิสส่งผลกระทบหลายประการ เช่น:

  • การขอสินเชื่อไม่ผ่าน สถาบันการเงินอาจปฏิเสธคำขอสินเชื่อหรือกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น
  • ข้อจำกัดในการสมัครบัตรเครดิต หลายธนาคารจะพิจารณาประวัติในบัญชีแบล็คลิสก่อนอนุมัติบัตรเครดิตใหม่
  • ขาดความเชื่อมั่นจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะส่งผลให้มีเงื่อนไขการให้สินเชื่อที่ยากขึ้นในอนาคต

ตัวอย่าง: นายสมชายต้องการซื้อบ้านหลังแรก แต่พบว่าการขอสินเชื่อของเขาถูกปฏิเสธเพราะเคยมีประวัติค้างชำระบัตรเครดิต ทำให้เขาต้องชำระหนี้ทั้งหมดและฟื้นฟูเครดิตเสียก่อน

วิธีการตรวจสอบว่าตนเองอยู่ในบัญชีแบล็คลิสหรือไม่

การตรวจสอบสถานะของตนเองเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ทราบว่ามีประวัติเสียหายทางการเงินหรือไม่ ขั้นตอนง่าย ๆ ในการตรวจสอบคือ:

  1. ติดต่อหน่วยงาน เครดิตบูโร โดยสามารถตรวจสอบได้ที่ ศูนย์ข้อมูลเครดิตบูโรแห่งประเทศไทย ซึ่งจะมีค่าบริการเล็กน้อย
  2. ขอข้อมูลจากธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เคยขอสินเชื่อหรือบัตรเครดิต

ขั้นตอนการแก้ไขเมื่ออยู่ในบัญชีแบล็คลิส

หากพบว่าตนเองมีประวัติอยู่ในบัญชีแบล็คลิส สามารถดำเนินการ แก้ไขปัญหา ได้ตามขั้นตอนดังนี้:

  • ชำระหนี้ค้างทั้งหมด เพื่อทำให้ประวัติการเงินกลับมาเป็นปกติ
  • เจรจาปรับโครงสร้างหนี้ กับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ เพื่อให้สามารถชำระหนี้ได้ตามกำลัง
  • ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่สถาบันการเงินกำหนด เพื่อปรับปรุงประวัติทางการเงิน เช่น การชำระเงินตรงเวลาและสม่ำเสมอ

วิธีป้องกันไม่ให้กลับมาอยู่ในบัญชีแบล็คลิสอีกครั้ง

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ซ้ำ ควรมีการจัดการทางการเงินอย่างระมัดระวังดังนี้:

  • ตั้งงบประมาณการใช้จ่าย และหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายเกินตัว
  • ชำระหนี้ตามกำหนด โดยไม่ค้างชำระ หรือหากชำระล่วงหน้าได้จะยิ่งดี
  • ตรวจสอบสถานะการเงินของตนเองสม่ำเสมอ เพื่อให้ทราบสถานะทางการเงินและป้องกันการตกอยู่ในภาวะค้างชำระ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบัญชีแบล็คลิส

  • ใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะหลุดจากแบล็คลิส?
    โดยทั่วไปแล้ว การแก้ไขข้อมูลในเครดิตบูโรจะใช้เวลา ประมาณ 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามเงื่อนไขและนโยบายของธนาคาร
  • จะขอสินเชื่อได้อีกครั้งเมื่อไหร่?
    เมื่อประวัติการเงินกลับมาสะอาดและสถาบันการเงินยอมรับว่าสามารถให้เครดิตได้อีกครั้ง

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการปรึกษาด้านการเงิน

หากต้องการปรึกษาหรือขอคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถติดต่อหน่วยงานภาครัฐที่ให้ข้อมูลและคำปรึกษาด้านการเงิน เช่น ศูนย์ปรึกษาหนี้สาธารณะ เพื่อรับข้อมูลและแนวทางในการแก้ไขปัญหาการเงิน

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?

คลิกที่ดาวเพื่อให้คะแนน!

เฉลี่ยได้กี่คะแนน 5 / 5. จำนวนโหวต: 1

ยังไม่มีคะแนนโหวต! เป็นคนแรกที่ให้คะแนนโพสต์นี้

จำนวนคอมเมนต์ของโพสต์ ID 317298: 118