เงื่อนไขการมัดจำสินค้า: สิ่งที่ผู้ซื้อ–ผู้ขายควรรู้ ก่อนทำสัญญา
การมัดจำสินค้า เป็นข้อตกลงสำคัญทางธุรกิจที่ใช้เพื่อแสดงเจตจำนงในการซื้อ–ขายสินค้า โดยเฉพาะในกรณีที่มีการสั่งผลิตล่วงหน้า หรือสินค้าที่มีมูลค่าสูง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการยกเลิกคำสั่งซื้อโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
มัดจำสินค้า คืออะไร?
มัดจำสินค้า คือ จำนวนเงินที่ผู้ซื้อจ่ายให้ผู้ขายล่วงหน้า เพื่อยืนยันความประสงค์ในการซื้อสินค้าตามข้อตกลงที่ตกลงกันไว้ โดยมักคิดเป็น เปอร์เซ็นต์ของราคารวม และมีเงื่อนไขว่าหากมีการผิดสัญญาเกิดขึ้น ไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะมีผลต่อการ คืนเงินมัดจำหรือไม่คืนมัดจำ ตามที่ระบุในข้อตกลง
เงื่อนไขการมัดจำสินค้า ที่ควรระบุอย่างชัดเจน
เพื่อป้องกันปัญหาในภายหลัง ควรระบุเงื่อนไขการมัดจำในใบเสนอราคาหรือสัญญาซื้อขายให้ครบถ้วน ดังนี้:
-
จำนวนเงินที่มัดจำ (% ของราคารวม)
-
วันที่ครบกำหนดการชำระเงินส่วนที่เหลือ
-
เงื่อนไขการคืนเงินมัดจำ (เช่น คืนเต็มจำนวน, คืนบางส่วน, ไม่คืนเลย)
-
ผลกรณีมีการยกเลิกคำสั่งซื้อ
-
กรณีที่ผู้ขายไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ตามกำหนด จะมีผลต่อเงินมัดจำอย่างไร
มัดจำ กับ จ่ายล่วงหน้า แตกต่างกันอย่างไร?
รายการ | มัดจำสินค้า | การจ่ายล่วงหน้า |
---|---|---|
วัตถุประสงค์ | เพื่อรักษาสิทธิในการซื้อ | เป็นการชำระค่าสินค้าบางส่วนล่วงหน้า |
สิทธิการคืนเงิน | อาจไม่คืน หากผู้ซื้อยกเลิกโดยไม่มีเหตุผล | มักคืนเต็ม หากไม่ได้รับสินค้าตามสัญญา |
การบันทึกบัญชี | ลงเป็น เงินมัดจำ | ลงเป็น ลูกหนี้เงินล่วงหน้า |
Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการมัดจำสินค้า
Q: ผู้ขายสามารถเรียกเก็บเงินมัดจำได้กี่เปอร์เซ็นต์ของราคาสินค้า?
A: โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 30–50% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า และความเสี่ยงในการผลิต
Q: ถ้าผู้ซื้อยกเลิกการสั่งซื้อ มีสิทธิได้เงินมัดจำคืนหรือไม่?
A: ขึ้นอยู่กับ เงื่อนไขในสัญญา หากไม่ได้กำหนดไว้ ผู้ขายอาจยึดเงินมัดจำได้ตามกฎหมาย
Q: การไม่ทำเอกสารสัญญามัดจำ ถือว่าฟ้องร้องได้หรือไม่?
A: ได้ หากมีหลักฐานชัดเจน เช่น ใบโอนเงิน หรือใบเสนอราคาที่มีข้อความชัดเจนเรื่องมัดจำ
(แนะนำให้ทำเป็นหนังสืออย่างชัดเจนเพื่อลดปัญหาทางกฎหมาย)
คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ
-
จัดทำ หนังสือสัญญามัดจำ ที่มีข้อกำหนดชัดเจน
-
ระบุข้อมูลทุกอย่างเป็น ลายลักษณ์อักษร
-
ให้ผู้ซื้อและผู้ขายลงนามรับรองร่วมกัน
เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับข้อกฎหมาย สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับ แนวทางการทำธุรกรรมที่โปร่งใสและปลอดภัย
สรุป
การมัดจำสินค้า ไม่ใช่เพียงการ “จ่ายล่วงหน้า” เท่านั้น แต่เป็นการสร้างหลักประกันทั้งสองฝ่าย การกำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจน จะช่วยลดปัญหาความขัดแย้งและเสริมสร้างความเชื่อมั่นในธุรกิจอย่างยั่งยืน