💡 คุณรู้หรือไม่ว่า… รายได้จากการขายของออนไลน์ต้องเสียภาษีด้วย!
ไม่ว่าจะขายผ่าน Facebook, Shopee, Lazada หรือแม้แต่ LINE OA หากมีรายได้เกินเกณฑ์ที่กำหนด ก็อยู่ภายใต้การเสียภาษีเช่นเดียวกับพ่อค้าแม่ค้าออฟไลน์ทั่วไป
ทำไมแม่ค้าออนไลน์ต้องเสียภาษี?
เพราะตามกฎหมายของกรมสรรพากร รายได้จากการขายสินค้า หรือบริการ ถือเป็น “เงินได้” ที่ต้องนำมายื่นภาษีประจำปี ไม่ว่าจะเปิดร้านเองหรือขายผ่านแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ ก็ตาม
💬 “ขายของออนไลน์ไม่ได้หนีภาษีได้นะจ๊ะ”
หากไม่ยื่นภาษี อาจโดนตรวจสอบย้อนหลัง เสียค่าปรับและเบี้ยปรับย้อนหลังอีกด้วย
ประเภทของภาษีที่แม่ค้าออนไลน์ต้องรู้
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90/91)
- หากรายได้ทั้งปีเกิน 120,000 บาท/ปี (โสด) หรือ 220,000 บาท/ปี (สมรส) ต้องยื่นภาษี
- หักค่าใช้จ่ายแบบเหมาได้ 60% หรือใช้วิธี บันทึกบัญชีรายรับรายจ่าย
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- หากรายได้รวมต่อปี เกิน 1.8 ล้านบาท ต้อง จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- จะต้องออกใบกำกับภาษีและนำส่งภาษีทุกเดือน
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ในบางกรณี เช่น ขายผ่านบริษัทที่หักภาษีให้ก่อน)
วิธีจัดการภาษีอย่างมืออาชีพ
- บันทึกรายรับ-รายจ่าย อย่างสม่ำเสมอ เช่น
👉 รายรับ: ขายเสื้อผ้าผ่าน TikTok 1,200 บาท, ขายสินค้าผ่าน Shopee 5,500 บาท
👉 รายจ่าย: ค่ากล่องไปรษณีย์ 200 บาท, ค่าขนส่ง Kerry 350 บาท, ค่าซื้อของจากโรงงาน 2,000 บาท
(แนะนำให้ทำใน Google Sheet หรือระบบบัญชีออนไลน์) - แยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีธุรกิจ
เพื่อให้ตรวจสอบง่าย และไม่ปะปนกับรายจ่ายส่วนตัว - ใช้บริการสำนักงานบัญชีมืออาชีพ
👉 ตัวอย่างบริการบัญชีสำหรับแม่ค้าออนไลน์ คลิกที่นี่
(ช่วยให้การจัดการภาษีง่ายขึ้น ถูกต้องตามกฎหมาย)
แม่ค้าออนไลน์ต้องยื่นภาษีตอนไหน?
- ยื่นภาษีประจำปี (ภ.ง.ด. 90) ช่วง มกราคม – มีนาคม ของทุกปี
- กรณีจด VAT ต้อง ยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
✅ สามารถยื่นออนไลน์ได้ที่ เว็บไซต์กรมสรรพากร
แนะนำทำให้รวย: “ภาษี” ไม่ใช่ต้นทุน แต่คือโอกาส
หากวางแผนภาษีอย่างถูกต้อง
- คุณสามารถ “ลดหย่อนภาษี” ด้วยค่าลดหย่อนต่าง ๆ เช่น ประกันชีวิต, กองทุน RMF/SSF
- บันทึกรายจ่ายให้ครบ ก็ ลดภาษีได้มากขึ้น
- ทำบัญชีดี ๆ จะ “ขอสินเชื่อธุรกิจ” กับธนาคารก็ผ่านง่าย
Q&A ที่แม่ค้าออนไลน์สงสัยบ่อย
Q: ขายของออนไลน์แต่รายได้น้อย ต้องเสียภาษีไหม?
A: ถ้ารายได้รวมทั้งปีไม่ถึงเกณฑ์ ก็ไม่ต้องยื่นภาษี แต่แนะนำให้บันทึกรายรับไว้ เพราะอนาคตอาจเติบโตขึ้น
Q: ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ไหม?
A: แนะนำให้จด หากมียอดขายต่อเดือนต่อเนื่องเกิน 30,000 บาท เพื่อความน่าเชื่อถือ
Q: ใช้บัญชีส่วนตัวรับเงินลูกค้าได้ไหม?
A: ได้ แต่แนะนำให้แยกบัญชีเพื่อป้องกันความสับสนและเตรียมพร้อมเรื่องภาษี