ออกใบหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นไว้เป็นหลักฐานหลังจากที่ได้รับเงินค่าหุ้นครบแล้ว
บริษัทจะออกใบหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นไว้เป็นหลักฐานหลังจากที่ได้รับเงินค่าหุ้นครบแล้ว ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ (บริษัทมหาชน)
(1). หุ้นที่ออกให้แก่ผู้ถือหุ้น คือ หุ้นชนิดที่ไม่ระบุชื่อผู้ถือหุ้นลงในใบหุ้น
(2). หุ้นที่ระบุชื่อผู้ถือหุ้น คือ หุ้นที่ระบุชื่อผู้ลงไว้ในใบหุ้น โดยปกติมักจะออกใบหุ้นแบบนี้ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่ขอจองทันทีในวันจองโดยไม่คำนึงว่า ผู้จองนั้นจะชำระค่าหุ้นครบแล้วหรือไม่ (กรณีบริษัทมหาชน มีใบหุ้นชนิดเดียวคือ หุ้นชนิดระบุชื่อผู้ถือหุ้น)
การรับเงินค่าหุ้นจะต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับทางการบัญชีและกฎหมาย เพื่อป้องกันการทุจริตและสร้างความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ. หลักฐานรับเงินค่าหุ้นที่สำคัญมีดังนี้
-
ใบเสร็จรับเงิน (Receipt) ใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานหลักที่ระบุจำนวนเงินที่ลูกค้าจ่ายให้กับบริษัท และรายละเอียดของการรับเงิน เช่น วันที่รับเงิน รายละเอียดของค่าหุ้นที่ถูกซื้อ และจำนวนเงินที่จ่าย
-
สมุดบัญชี (Accounting Records) บริษัทควรบันทึกข้อมูลการรับเงินค่าหุ้นในสมุดบัญชีของตน โดยระบุรายละเอียดของการรับเงินแต่ละรายการ เช่น รหัสค่าหุ้น จำนวนหุ้นที่ถูกซื้อ ราคาหุ้น และวันที่รับเงิน
-
สลิปการโอนเงิน (Bank Transfer Receipt) หากการชำระเงินค่าหุ้นเป็นผ่านการโอนเงินผ่านธนาคาร ให้ใช้สลิปการโอนเงินเป็นหลักฐาน ซึ่งระบุจำนวนเงินที่ถูกโอน และข้อมูลเฉพาะการโอนเงิน เช่น เลขบัญชีผู้รับเงินและชื่อบัญชี
-
เอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง (Related Documents) การรับเงินค่าหุ้นอาจมีเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สัญญาซื้อขายหุ้น หรือเอกสารทางกฎหมายที่ระบุเงื่อนไขการซื้อขายหุ้น
-
รายงานการรับเงิน (Receipt Report) บริษัทอาจรายงานการรับเงินค่าหุ้นในรูปแบบรายงานเพื่อให้สรุปข้อมูลในระดับสูง โดยระบุรายละเอียดของการรับเงินค่าหุ้นที่สำคัญ เช่น จำนวนเงินรวมที่ได้รับในวันนั้น
การรับเงินค่าหุ้นควรมีกระบวนการทางการบัญชีที่เรียบร้อยและตรงตามกฎหมายและข้อบังคับที่มีผลบังคับใช้ในสถานที่นั้น การรักษาเอกสารและบันทึกข้อมูลที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สามารถตรวจสอบและติดตามข้อมูลการรับเงินได้อย่างถูกต้องและเป็นระเบียบ