แนวข้อสอบบัญชีเบื้องต้นฐานของโลก 9 ธุรกิจประเภทสรุปทางการของ
แนวข้อสอบบัญชีเบื้องต้น พื้นฐานของโลกธุรกิจ ที่เน้นการ บันทึก-จัดประเภท-สรุปผลทางการเงิน ของกิจการ ผู้เรียนต้องเข้าใจ บัญชีเดบิต เครดิต งบการเงิน รายการ
ผังบัญชีมาตรฐาน หรือ Standard Chart of Accounts (SCA) เป็นการจัดระบบการบัญชีขององค์กรให้มีโครงสร้างเหมือนกัน โดยเป็นการจัดหมวดหมู่หรือระบบต่างๆ เพื่อให้การบันทึกข้อมูลการเงินและการเดินบัญชีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้อง โดย SCAs มีหลักการจัดกลุ่มบัญชีอยู่ 3 ระดับหลัก ได้แก่
SCAs สามารถปรับแต่งได้ตามความเหมาะสมและความต้องการขององค์กร โดยต้องไม่ละเว้นหรือเปลี่ยนแปลงหมวดหมู่หลัก และหมวดหมู่ย่อยที่กำหนดไว้ โดยสามารถปรับเปลี่ยนรายการบัญชีได้เท่านั้น ซึ่งจะช่วยให้องค์กรมีระบบการบัญชีที่สอดคล้องกับหลักการสากลและสามารถนำไปใช้กับการบัญชีที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ผังบัญชี (Chart of Accounts) คือ การจัดลำดับของบัญชีที่ใช้ในการบัญชีขององค์กร โดยปกติแล้วจะมีการจัดกลุ่มบัญชีตามลักษณะของรายการเงินหรือรายการทางการเงิน เพื่อความสะดวกในการเดินบัญชี และใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลการเงินและสรุปผลกำไรขาดทุนขององค์กร
แต่ละบัญชีจะมีรหัสบัญชี (Account Code) เพื่อให้สามารถระบุแต่ละบัญชีได้อย่างชัดเจน โดยทั่วไปแล้ว รหัสบัญชีจะประกอบด้วยหลักหมายเลข หมวดหมู่หลัก หมวดหมู่ย่อย และรายการบัญชี ตัวอย่างเช่น หากมีบัญชีเงินสด รหัสบัญชีอาจจะเป็น ดังนี้
1-1-101 เงินสด
โดยหลักหมายเลข 1 แทนบัญชีสินทรัพย์ หมวดหมู่หลักหมายเลข 1 แทนสินทรัพย์หมุนเวียน หมวดหมู่ย่อยหมายเลข 1 แทนเงินสด และรายการบัญชีเป็นเงินสด
การใช้ผังบัญชีและรหัสบัญชีสามารถช่วยให้การบันทึกข้อมูลการเงินและการเดินบัญชีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้อง โดยสามารถปรับแต่งผังบัญชีและรหัสบัญชีให้เหมาะสมกับกิจกรรมและธุรกิจขององค์กรได้ด้วย
นี่คือตัวอย่างผังบัญชีที่มีอยู่ในธุรกิจเล็กๆ ซึ่งประกอบด้วยหมวดหมู่หลัก หมวดหมู่ย่อย และรายการบัญชี:
หมวดหมู่หลัก 1: สินทรัพย์
– หมวดหมู่ย่อย 1.1: สินทรัพย์หมุนเวียน
– รายการบัญชี 1.1.1: เงินสด
– รายการบัญชี 1.1.2: เงินฝากธนาคาร
– รายการบัญชี 1.1.3: ลูกหนี้การค้า
– รายการบัญชี 1.1.4: สินค้าคงเหลือ
– หมวดหมู่ย่อย 1.2: สินทรัพย์ถาวร
– รายการบัญชี 1.2.1: อาคารสิ่งปลูกสร้าง
– รายการบัญชี 1.2.2: อุปกรณ์และเครื่องมือ
– รายการบัญชี 1.2.3: รถยนต์และรถบรรทุก
– รายการบัญชี 1.2.4: เครื่องจักรและอุปกรณ์
หมวดหมู่หลัก 2: หนี้สินและทุน
– หมวดหมู่ย่อย 2.1: หนี้สิน
– รายการบัญชี 2.1.1: เจ้าหนี้การค้า
– รายการบัญชี 2.1.2: เจ้าหนี้ธนาคาร
– รายการบัญชี 2.1.3: เจ้าหนี้อื่นๆ
– หมวดหมู่ย่อย 2.2: ทุน
– รายการบัญชี 2.2.1: ทุนจดทะเบียน
– รายการบัญชี 2.2.2: ทุนเรือนหุ้น
– รายการบัญชี 2.2.3: กำไรสะสม
หมวดหมู่หลัก 3: รายได้
– หมวดหมู่ย่อย 3.1: รายได้
– รายการบัญชี 3.1.1: รายได้จากการขายสินค้า
– รายการบัญชี 3.1.2: รายได้จากการให้บริการ
– รายการบัญชี 3.1.3: รายได้จากการลงโฆษณา
– หมวดหมู่ย่อย 3.2: ค่าใช้จ่าย
– รายการบัญชี 3.2.1: ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อสินค้า
– รายการบัญชี 3.2.2: ค่าใช้จ่ายในการให้บริการ
– รายการบัญชี 3.2.3: ค่าใช้จ่ายในการลงโฆษณา
– หมวดหมู่ย่อย 3.3: ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
– รายการบัญชี 3.3.1: ค่าเช่าอาคารสำนักงาน
– รายการบัญชี 3.3.2: ค่าไฟฟ้าและน้ำประปา
– รายการบัญชี 3.3.3: ค่าใช้จ่ายในการส่งสินค้า
ผังบัญชีตัวอย่างนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น องค์กรสามารถปรับแต่งผังบัญชีให้เหมาะสมกับลักษณะธุรกิจและความต้องการของตนเองได้ โดยอาจมีหมวดหมู่หลักและหมวดหมู่ย่อยเพิ่มเติม หรือรายการบัญชีที่แตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจ แต่ผู้ใช้งานควรรักษาหลักการของผังบัญชีและรักษาความถูกต้องของการบันทึกข้อมูลบัญชีเสมอ เพื่อให้ผลการวิเคราะห์และเอียดและสรุปผลการเงินที่ได้มาอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการนำไปใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานควรทบทวนและปรับปรุงผังบัญชีเป็นระยะๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในธุรกิจและสภาพแวดล้อมโดยรวม เช่น การเพิ่มหรือลดบริการ การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างบริษัท หรือการประกอบการในพื้นที่ใหม่
ในการจัดทำผังบัญชีและรหัสบัญชี องค์กรสามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการสร้างผังบัญชีและรหัสบัญชีได้ โดยมีหลายๆ โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการจัดทำผังบัญชีและรหัสบัญชี เช่น QuickBooks, Xero, Wave Accounting ฯลฯ ซึ่งเป็นโปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่ใช้งานได้อย่างสะดวกและมีความสามารถหลากหลายในการจัดทำผังบัญชีและรหัสบัญชีให้เหมาะสมกับธุรกิจของตนเอง นอกจากนี้ ยังมีบริการจัดทำผังบัญชีและรหัสบัญชีโดยบริษัทที่เชี่ยวชาญในด้านการบัญชีและการเงิน ซึ่งองค์กรสามารถเลือกใช้บริการดังกล่าวเพื่อให้แน่ใจว่าผังบัญชีและรหัสบัญชีขององค์กรได้รับการจัดทำอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการนำไปใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจของตนเอง
สำหรับผังบัญชี 5 หมวด จะเป็นผังบัญชีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในธุรกิจ เพราะมีความง่ายและชัดเจน และเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง โดยประกอบด้วยหมวดหมู่หลัก 5 หมวด ดังนี้
1. สินทรัพย์ (Assets)
– สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Assets) เช่น เงินสด ลูกหนี้การค้า สินค้าคงเหลือ และเงินฝากธนาคาร
– สินทรัพย์ถาวร (Fixed Assets) เช่น อาคารสิ่งปลูกสร้าง รถยนต์และรถบรรทุก และเครื่องจักรและอุปกรณ์
2. หนี้สินและทุน (Liabilities and Equity)
– หนี้สิน (Liabilities) เช่น เจ้าหนี้การค้า บัตรเครดิต และเงินกู้ธนาคาร
– ทุน (Equity) เช่น ทุนจดทะเบียน ทุนเรือนหุ้น และกำไรสะสม
3. รายได้ (Revenue)
– รายได้จากการขายสินค้า
– รายได้จากการให้บริการ
– รายได้จากการลงโฆษณา
4. ค่าใช้จ่าย (Expenses)
– ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อสินค้า
– ค่าใช้จ่ายในการให้บริการ
– ค่าใช้จ่ายในการลงโฆษณา
5. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (Other Expenses)
– ค่าเช่าอาคารสำนักงาน
– ค่าไฟฟ้าและน้ำประปา
– ค่าใช้จ่ายในการส่งสินค้า
ผังบัญชี 5 หมวดนี้มีความง่ายและชัดเจน จึงเหมาะสำหรับการใช้ในธุรกิจขององค์กร
ผังบัญชี ภาษาอังกฤษ chart of account รายการบัญชีแยกประเภทเกี่ยวกับสินสันทรัพย์ หนี้สิน ทุน รายได้ และค่าใช้จ่าย ที่กิจการมีอยู่ในระบบบัญชีของกิจการ โดยจัดให้มีชื่อและหมวดหมู่บัญชีอย่างเป็นระเบียบ โครงสร้างบัญชีต่าง ๆ ที่ใช้ในระบบบัญชี โดยการให้ ชื่อและเลข ของบัญชีที่มีอยู่ทั้งหมด ของกิจการ จัดให้เป็นหมวดหมู่ อย่างมีระเบียบ บัญชีทั้งหมดแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ดังนี้
จากตัวอย่างนี้ จะใช้รหัสบัญชี เป็นตัวเลข 5 ตัว
ชื่อบัญชีแยกประเภท | ขึ้นต้นด้วยเลข |
---|---|
สินทรัพย์ | 1 |
หนี้สิน | 2 |
ส่วนของเจ้าของ (ทุน) | 3 |
รายได้ | 4 |
ค่าใช้จ่าย | 5 |
ผังบัญชี
ตัวเลขถัดไปหลังจากนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการกำหนดชนิดของบัญชีว่าเป็นประเภทใด แต่ควรแบ่ง ไล่จาก หมุนเวียน และตามด้วย ไม่หมุนเวียน เผื่อให้เป็นไปตามมาตราฐานบัญชี
ยกตัวอย่าง เช่น บัญชีแยกประเภท สินทรัพย์
หมายเหตุ : ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกิจการแต่ละประเภทว่าควร มีการแบ่งรายการออกเป็นปลีกย่อย จำนวนเท่าใด กี่หลัก กี่เลขบัญชี
หมวดบัญชี
เลขที่บัญชี | ชื่อบัญชี |
---|---|
11000 | บัญชีเงินสด |
12000 | บัญชีลูกหนี้การค้า-ในประเทศ |
12100 | บัญชีลูกหนี้การค้า-ต่างประเทศ |
13000 | บัญชีวัสดุสิ้นเปลือง |
14000 | บัญชีเครื่องตกแต่งสำนักงาน |
15000 | บัญชีอุปกรณ์สำนักงาน |
16000 | บัญชีรถยนต์ |
17000 | บัญชีอาคาร |
เลขที่บัญชี | ชื่อบัญชี |
---|---|
21000 | บัญชีเจ้าหนี้การค้า (ระยะสั้น) |
21100 | บัญชีเจ้าหนี้การค้า (ระยะยาว) |
22000 | บัญชีเงินเดือนและค่าแรงค้างจ่าย |
23000 | บัญชีค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ค้างจ่าย |
เลขที่บัญชี | ชื่อบัญชี |
---|---|
31000 | บัญชีเบิกใช้ส่วนตัว |
32000 | บัญชีกำไรขาดทุน |
เลขที่บัญชี | ชื่อบัญชี |
---|---|
41000 | บัญชีรายได้จากการให้บริการ |
42000 | บัญชีรายได้เบ็ดเตล็ด |
เลขที่บัญชี | ชื่อบัญชี |
---|---|
51000 | บัญชีเงินเดือนและค่าแรง |
52000 | บัญชีค่าเบี้ยประกันภัย |
53000 | บัญชีค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด |
54000 | บัญชีค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ |
55000 | บัญชีวัสดุสิ้นเปลืองใช้ไป |
56100 | บัญชีค่าเสื่อมราคา-อุปกรณ์สำนักงาน |
56200 | บัญชีค่าเสื่อมราคา-รถยนต์ |
56300 | บัญชีค่าเสื่อมราดา-อาคาร |
ผังบัญชีของแต่ละกิจการไม่จำเป็นต้องเหมือนกันอยู่ที่ลักษณะของการดำเนินงาน ความละเอียดของแต่ละองค์กร การกำหนดตัวเลขนี้เป็นที่นิยมใช้กัน และสามารถใช้ในการตัดสินใจในการบริหารงาน
ตัวอย่าง ที่จัดทำขึ้น เป็นตัวอย่าง ผังบัญชีบริษัทจํากัด ผังบัญชีร้านอาหาร ผังบัญชีอุตสาหกรรม ผังบัญชีโรงแรม เป็นผังบัญชีมาตรฐาน เนื่องจากแผนผังบัญชีที่จัดทำขึ้นใช้ชื่อตามผังบัญชีมาตรฐานการบัญชี คือ
ตัวอย่างผังบัญชี
การกำหนดรหัสบัญชีในช่องที่ 3 ของสมุดรายวันทั่วไป เป็นช่องที่ใช้บันทึกเลขที่บัญชีของบัญชีต่างๆที่บันทึกไว้ในสมุดรายวันทั่วไป ซึ่งเลขที่บัญชีนี้จะต้องถูกกำหนดอย่างมีระบบโดยตามมาตรฐานโดยปกติทั่วไปแล้วเลขที่บัญชีจะต้องถูกกำหนดตามหมวดบัญชี โดยบัญชีทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็น 5 หมวด ดังนี้
หมวดที่ 1 หมวดสินทรัพย์ รหัสบัญชี คือ 1
หมวดที่ 2 หมวดหนี้สิน รหัสบัญชี คือ 2
หมวดที่ 3 หมวดส่วนของเจ้าของ รหัสบัญชี คือ 3
หมวดที่ 4 หมวดรายได้ รหัสบัญชี คือ 4
หมวดที่ 5 หมวดค่าใช้จ่าย รหัสบัญชี คือ 5
แต่สำหรับเลขที่บัญชีจะมีจำนวนกี่หลักนั้น ขึ้นอยู่กับกิจการแต่ละกิจการ หากกิจการใดเป็นกิจการขนาดเล็กที่มีบัญชีต่างๆ อยู่เป็นจำนวนไม่มาก ก็อาจจะใช้เลขที่บัญชีจำนวน 2 หลัก โดยหลักแรกแสดงถึง หมวดของบัญชี และ หลักหลังแสดงถึงบัญชีต่าง ๆ ในหมวดนั้น ๆ เช่น เงินสด เลขที่บัญชี 11 เงินฝากธนาคาร เลขที่บัญชี 12 เป็นต้น
หากกิจการใดเป็นกิจการที่มีขนาดใหญ่และมีบัญชีต่างๆ เป็นจำนวนมากก็อาจจะกำหนดเลขที่บัญชีให้มีหลายๆ หลัก อาจจะเป็น 3 หลัก 4 หลัก หรือ มากกว่านั้นก็ได้ ซึ่งหลักแรกแสดงถึงหมวดของบัญชี หลักกลางแสดงถึงประเภทของบัญชีในหมวดนั้น ๆ หรืออาจจะไม่มีการแบ่งประเภทบัญชีก็ได้แต่ที่ต้องมีมากกว่า 2 หลักนั้น เนื่องจากว่าบัญชีต่างๆ ของกิจการมีจำนวนมาก สำหรับหลักหลังแสดงถึงบัญชีต่างๆ ในหมวดบัญชีและประเภทบัญชีนั้นๆ เช่น เงินสด เลขที่บัญชี 101 ที่ดิน เลขที่บัญชี 151 เป็นต้น
ตัวอย่างผังบัญชีบริษัท
โดยที่ 1 แสดงให้เห็นว่าเป็นบัญชีหมวดสินทรัพย์ 0 แสดงให้เห็นว่าเป็นสินทรัพย์หมุนเวียน และ 1 แสดงให้เห็นว่าเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนอันดับที่ 1 คือ เงินสด สำหรับหลักหลังของเลขที่บัญชีในแต่ละหมวดนั้นก็จะถูกกำหนดด้วยหลักเกณฑ์แตกต่างกันไป
โดย หมวดสินทรัพย์นั้น หลักหลังของเลขที่บัญชีจะเรียงตามสภาพคล่องของสินทรัพย์ โดยเรียงจากสภาพคล่องมากไปหาสภาพคล่องน้อย เช่น เลขที่บัญชีของเงินสด จะมาก่อนเลขที่บัญชีของลูกหนี้ เป็นต้น
สำหรับ หมวดหนี้สิน หลักหลังของเลขที่บัญชีก็จะเรียงตามสภาพคล่องของหนี้สินเช่นกัน เช่น เลขที่บัญชีของเจ้าหนี้ จะมาก่อนเลขที่บัญชีของเงินกู้ระยะยาว เป็นต้น
สำหรับ หมวดส่วนของเจ้าของ หลักหลังของเลขที่บัญชีจะเรียงตามการเกิดขึ้นก่อนหลัง เช่นการที่เจ้าของนำสินทรัพย์มาลงทุนทำให้เกิดบัญชีทุน ก่อนที่เจ้าของกิจการจะถอนเงินออกไปใช้ จึงทำให้เลขที่บัญชีของบัญชีทุน มาก่อนเลขที่บัญชีถอนใช้ส่วนตัว
สำหรับ หมวดรายได้และหมวดค่าใช้จ่าย หลักหลังของเลขที่บัญชีจะเรียงความสำคัญของรายได้และค่าใช้จ่าย นั่นก็คือว่ารายได้และค่าใช้จ่ายหลักของกิจการที่เกิดขึ้นบ่อยๆ จะมากก่อนรายได้และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นนานๆ ครั้ง ซึ่งมีความสำคัญน้อยกว่า เช่น เลขที่บัญชีรายได้ค่าเช่าซึ่งเป็นรายได้หลักของกิจการให้เช่ารถ จะมาก่อนเลขที่บัญชีดอกเบี้ยรับซึ่งเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นจากการที่กิจการนำเงินไปฝากธนาคาร เป็นต้น หรือเลขที่บัญชีของเงินเดือน จะมาก่อนเลขที่บัญชีของค่ารับรอง เป็นต้น
บัญชี เป็นหัวใจสำคัญของทุกธุรกิจ เพราะช่วยให้บริษัทสามารถตรวจสอบสถานะทางการเงิน วางแผนการดำเนินงาน และตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างแม่นยำ ซึ่ง ผังบัญชีมาตรฐาน เป็นโครงสร้างที่กำหนดประเภทบัญชีต่าง ๆ เพื่อให้สามารถบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ
ช่วยควบคุมรายรับ-รายจ่าย
การทำบัญชีที่ดีทำให้บริษัทสามารถตรวจสอบ รายรับ-รายจ่าย ได้อย่างละเอียด ซึ่งช่วยป้องกันการใช้จ่ายเกินตัว และสามารถควบคุมงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สนับสนุนการวางแผนธุรกิจ
ข้อมูลทางบัญชีช่วยให้ผู้บริหารสามารถคาดการณ์แนวโน้มทางการเงิน วางแผนการลงทุน และประเมินผลประกอบการของบริษัทในระยะยาว
เป็นหลักฐานทางกฎหมาย
บริษัทต้องจัดทำบัญชีตามกฎหมายเพื่อนำส่งภาษีและเอกสารทางการเงินต่อหน่วยงานภาครัฐ การจัดทำบัญชีอย่างถูกต้องช่วยลดความเสี่ยงในการถูกตรวจสอบและปรับจากกรมสรรพากร
ผังบัญชีมาตรฐาน เป็นโครงสร้างที่กำหนดประเภทของบัญชีในองค์กร โดยทั่วไปประกอบด้วย 5 หมวดหลัก ได้แก่
การมี ผังบัญชีมาตรฐาน ที่ชัดเจนช่วยให้การบันทึกบัญชีเป็นระบบ มีมาตรฐาน และสามารถนำไปใช้เปรียบเทียบข้อมูลทางการเงินของบริษัทได้ง่ายขึ้น
สำหรับธุรกิจที่ต้องการจัดระบบบัญชีให้มีประสิทธิภาพ การทำบัญชีรายรับรายจ่าย บริษัท เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ต้นทุน กำไร และความสามารถทางการเงินของบริษัทได้ดีขึ้น
บัญชีและ ผังบัญชีมาตรฐาน มีบทบาทสำคัญในการบริหารธุรกิจ เพราะช่วยให้บริษัทสามารถควบคุมรายรับ-รายจ่าย วางแผนการเงิน และปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง หากบริษัทต้องการระบบบัญชีที่มีประสิทธิภาพ ควรให้ความสำคัญกับการออกแบบ ผังบัญชีมาตรฐาน ที่เหมาะสมกับธุรกิจของตน
บทความจากเว็บ รับทำบัญชี.COM
อ่านบทความทั้งหมด https://รับทําบัญชี.com/accounting-services
รับทำบัญชี โทร.081-931-8341 (คุณจ๋า)
แนวข้อสอบบัญชีเบื้องต้น พื้นฐานของโลกธุรกิจ ที่เน้นการ บันทึก-จัดประเภท-สรุปผลทางการเงิน ของกิจการ ผู้เรียนต้องเข้าใจ บัญชีเดบิต เครดิต งบการเงิน รายการ
สมัครงานตำแหน่งบัญชี เนื่องจากทุกธุรกิจ ต้องมีการจัดการทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็กหรือองค์กรใหญ่ นักบัญชี คือหัวใจในการควบคุมงบประมาณ บันทึก
Brought Forward บัญชี ยอดยกมา หรือยอดคงเหลือจากงวดก่อนหน้า ที่ถูกนำมาตั้งต้นเป็นยอดเริ่มต้นในงวดปัจจุบัน เช่น หากคุณมียอดเงินสดในเดือนมิถุนายน
บัญชีบัตรเครดิต บัญชีทางบัญชีประเภทเจ้าหนี้การค้า (Accounts Payable) ที่บันทึกภาระหนี้สินของผู้ถือบัตรกับสถาบันการเงินเจ้าของบัตร เมื่อคุณใช้บัตรเครดิตซื้อ
บัญชีโก: พลิกชีวิตเจ้าของธุรกิจด้วยการจัดการบัญชีอย่างม […]
บัญชีธนาคาร Shopee การบัญชีให้ถูกต้อง เพิ่มยอดขายแบบมือโปร! หรือเพิ่งเริ่มต้นขายของในแพลตฟอร์มนี้ คำว่า “บัญชีธนาคาร Shopee” ไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก ๆ