แผนธุรกิจของกิน
การเริ่มต้นธุรกิจของกินเป็นกระบวนการที่ต้องการการเตรียมการและขั้นตอนที่ชัดเจนเพื่อให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสประสบความสำเร็จ. นี่คือขั้นตอนเบื้องต้นที่คุณควรพิจารณาเมื่อเริ่มต้นธุรกิจของกิน
-
วางแผนธุรกิจ (Business Planning)
- การวางแผนธุรกิจเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้คุณรู้ว่าคุณจะดำเนินธุรกิจแบบใด มีเป้าหมายอะไร และวิธีการทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ.
- วางแผนธุรกิจควรรวมถึงการวิเคราะห์ตลาด, กลยุทธ์การตลาด, แผนการเงิน, และแผนดำเนินธุรกิจรายวัน.
-
การศึกษาตลาด (Market Research)
- ศึกษาตลาดเป็นการสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับตลาดที่คุณเลือกที่จะเข้าสู่ รวมถึงการรับรู้ความต้องการและความพร้อมในตลาดนั้น.
- ทำการวิเคราะห์การแข่งขันและการเติบโตของตลาดเพื่อหาโอกาสทางธุรกิจ.
-
เลือกสถานที่ (Choose a Location)
- การเลือกสถานที่ที่เหมาะสมสำคัญมาก เนื่องจากสถานที่ที่ดีสามารถช่วยเพิ่มยอดขายและลดค่าใช้จ่ายได้.
- พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น สถานที่ที่ติดต่อสะดวก, ประชากรเป้าหมาย, ค่าเช่า, และความเหมาะสมกับธุรกิจของคุณ.
-
สร้างและพัฒนาสินค้าหรือบริการ (Develop Your Product or Service)
- สร้างหรือพัฒนาสินค้าหรือบริการที่มีคุณค่าและเป็นที่ต้องการในตลาด.
- ตรวจสอบว่าสินค้าหรือบริการของคุณมีคุณสมบัติและคุณภาพที่สามารถแข่งขันได้.
-
เริ่มต้นธุรกิจของคุณ (Start Your Business)
- ลงทะเบียนธุรกิจและประกาศสถานะกฎหมายของคุณ เช่น บริษัทจดทะเบียนหรือธุรกิจร้านค้าขายของเดี่ยว.
- จัดการการเงิน, ซื้อของเล่น, และสร้างการตลาดเริ่มต้น.
-
ติดตามและปรับปรุง (Track and Improve)
- ติดตามผลของธุรกิจของคุณโดยตรง และปรับปรุงกลยุทธ์หรือการดำเนินธุรกิจตามผล.
- ฟังความคิดเสนอแนะจากลูกค้าและพัฒนาการบริการหรือสินค้าของคุณต่อไป.
-
สร้างแบรนด์และการตลาด (Build Your Brand and Marketing)
- สร้างแบรนด์ของคุณและกลยุทธ์การตลาดที่มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความรู้สึกและความสนใจจากลูกค้า.
- ใช้สื่อสังคม, เว็บไซต์, โฆษณา, และโปรโมชั่นเพื่อเติบโตในตลาด.
-
การจัดการการเงิน (Manage Finances)
- จัดการการเงินของธุรกิจของคุณอย่างรอบด้าน เพื่อให้คุณสามารถใช้ทรัพยากรทางการเงินอย่างประหยัดและมีกำไร.
- สร้างแผนการเงินและตรวจสอบค่าใช้จ่ายอย่างเป็นระบบ.
-
ประกาศและสร้างลูกค้า (Advertise and Build Customer Base)
- ใช้กลยุทธ์การโฆษณาและการตลาดเพื่อสร้างความรู้สึกและแบรนด์สินค้าหรือบริการของคุณ.
- สร้างฐานลูกค้าและรักษาความพึงพอใจของลูกค้า.
-
ปฏิบัติตามกฎหมายและการสอบบัญชี (Comply with Legal and Accounting Requirements)
- สามารถปฏิบัติตามกฎหมายธุรกิจและเงื่อนไขการบัญชีของธุรกิจของคุณ.
- ตรวจสอบว่าคุณปฏิบัติตามระเบียบการเสียภาษีและความต้องการทางกฎหมายอื่น ๆ ของธุรกิจของคุณ.
นี่คือขั้นตอนเบื้องต้นในการเริ่มต้นธุรกิจของกิน ระยะเริ่มต้นอาจมีความท้าทาย แต่การวางแผนและปรับปรุงตลอดเวลาจะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จในระยะยาวได้มากยิ่งขึ้น.
ตารางรายรับรายจ่าย ตัวอย่างบัญชี ธุรกิจของกิน
นี่คือตัวอย่างรายรับและรายจ่ายสำหรับธุรกิจของกินในรูปแบบ comparison table
รายการ | รายรับ (บาท) | รายจ่าย (บาท) |
---|---|---|
รายรับจากการขายอาหาร | 100,000 | |
รายรับจากการบริการส่งถึงบ้าน | 30,000 | |
รายรับจากการจัดงานอีเวนต์ | 20,000 | |
รายรับอื่นๆ | 10,000 | |
รายรับรวม | 160,000 |
รายการ | รายรับ (บาท) | รายจ่าย (บาท) |
---|---|---|
ค่าเช่าสถานที่ | 25,000 | |
ค่าพนักงานและค่าจ้างงาน | 40,000 | |
ค่าวัตถุดิบและสินค้า | 35,000 | |
ค่าโฆษณาและการตลาด | 10,000 | |
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา | 5,000 | |
ค่าน้ำ ค่าไฟ และสาธารณูปโภค | 8,000 | |
ค่าอุปกรณ์และเครื่องมือ | 12,000 | |
ค่าประกันและค่าธรรมเนียมอื่นๆ | 3,000 | |
รายจ่ายรวม | 138,000 |
| กำไรสุทธิ | 22,000 | (รายรับรวม – รายจ่ายรวม) |
ในตารางข้างบนนี้เป็นตัวอย่างของรายรับและรายจ่ายสำหรับธุรกิจของกิน โดยรายรับแต่ละรายการและรายจ่ายแต่ละรายการถูกแสดงเป็นจำนวนเงินในหน่วยบาท สุทธิกำไรสุทธิคำนวณโดยหักรายจ่ายรวมจากรายรับรวม ซึ่งในตัวอย่างนี้กำไรสุทธิคือ 22,000 บาท
อาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจของกิน
ธุรกิจของกินเชื่อมโยงกับหลายอาชีพและกิจกรรมต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม นี่คือบางอาชีพที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของกิน
-
เชฟ (Chef) เชฟเป็นผู้สร้างเมนูและทำอาหารในร้านอาหารหรือธุรกิจของกิน พวกเขาเป็นผู้คุ้นเคยกับกระบวนการทำอาหารและมีความเชี่ยวชาญในการสร้างเมนูและการปรุงอาหาร.
-
บาริสต้า (Barista) บาริสต้าเป็นผู้ชำระชามกาแฟและเครื่องดื่มอื่น ๆ ในร้านกาแฟ พวกเขามีความเชี่ยวชาญในการชงกาแฟและการตกแต่งเครื่องดื่ม.
-
ผู้ปรุงอาหาร (Cook) ผู้ปรุงอาหารเป็นบุคคลที่ทำอาหารในร้านอาหาร ร้านอาหารรวมถึงที่รับจ้างในงานเลี้ยงและงานอีเวนต์อื่น ๆ.
-
เจ้าของร้านอาหาร (Restaurant Owner) เจ้าของร้านอาหารเป็นคนที่ครอบครองและจัดการร้านอาหารเอง พวกเขามีบทบาทในการดำเนินธุรกิจทั้งด้านบริหารและการตัดสินใจเกี่ยวกับเมนูและบริการ.
-
ผู้จัดการร้านอาหาร (Restaurant Manager) ผู้จัดการร้านอาหารรับผิดชอบในการบริหารร้านอาหารที่มีขนาดใหญ่และจัดการทรัพยากรบุคคลและการดำเนินธุรกิจประจำวัน.
-
นักบริหารโรงแรมและรีสอร์ท (Hotel and Resort Manager) นักบริหารโรงแรมและรีสอร์ทรับผิดชอบในการจัดการและดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารและการบริการในโรงแรมและรีสอร์ท.
-
ผู้ผลิตอาหาร (Food Producer) ผู้ผลิตอาหารคือคนที่ประกอบธุรกิจการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม เช่น การผลิตอาหารแปรรูป, การผลิตเครื่องดื่ม, และการประกอบอาหารสำเร็จรูป.
-
ผู้จัดการงานบริการอาหาร (Food Service Manager) ผู้จัดการงานบริการอาหารรับผิดชอบในการจัดการระบบบริการอาหารและดำเนินธุรกิจในร้านอาหารและสถานที่อื่น ๆ ที่ให้บริการอาหาร.
-
ผู้ขายส่งอาหาร (Food Distributor) ผู้ขายส่งอาหารรับผิดชอบในการจัดหาและจัดส่งอาหารและวัตถุดิบให้แก่ร้านอาหารและธุรกิจของกินอื่น ๆ.
-
นักเรียนที่เรียนในสาขาอาหารและกุ๊ก (Culinary and Culinary Arts Students) นักเรียนที่เรียนในสาขาอาหารและกุ๊กเรียนรู้ทักษะและความรู้เกี่ยวกับการทำอาหารและบริหารร้านอาหารในระดับมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนเฉพาะสาขา.
ธุรกิจของกินเปิดโอกาสอาชีพและงานที่หลากหลายในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม โดยคนที่ทำงานในธุรกิจนี้สามารถมีอาชีพที่หลากหลายและได้รับความนิยมในด้านอาหารและการบริการ.
วิเคราะห์ SWOT ธุรกิจของกิน
การวิเคราะห์ SWOT เป็นเครื่องมือทางธุรกิจที่ช่วยในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยภายนอกและภายในที่ส่งผลต่อธุรกิจของคุณ ต่อไปนี้คือการวิเคราะห์ SWOT สำหรับธุรกิจของกิน
Strengths (จุดแข็ง)
- เมนูหลากหลาย มีเมนูที่หลากหลายและคุณภาพดีที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้มาก.
- คุณภาพอาหาร อาหารมีคุณภาพสูงและมีรสชาติที่อร่อยที่สามารถมอบประสบการณ์รับประทานอาหารที่ยอดเยี่ยม.
- ตำแหน่งที่ตั้งดี ตำแหน่งที่ตั้งในสถานที่ที่เหมาะสมและเยี่ยมชมซึ่งทำให้มีลูกค้าที่มาใช้บริการอยู่เสมอ.
- บริการดี การบริการลูกค้าที่ดีและพนักงานที่ชำนาญสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า.
Weaknesses (จุดอ่อน)
- ค่าใช้จ่ายสูง ค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจอาหารมีแนวโน้มที่สูง ซึ่งอาจส่งผลให้กำไรต่ำ.
- การจัดการการเงิน การจัดการการเงินไม่ดีอาจทำให้ธุรกิจไม่มีความมั่นคงทางการเงิน.
- ความขาดแคลนของบุคคลที่ชำนาญ การหาบุคคลที่มีความชำนาญในการทำอาหารและบริหารร้านอาหารอาจเป็นที่ยาก.
- ความไว้วางใจในความสำเร็จของร้านอาหาร การวางแผนที่ไม่ดีอาจทำให้ธุรกิจขาดความยืดหยุ่นในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาด.
Opportunities (โอกาส)
- การขยายธุรกิจ มีโอกาสในการขยายธุรกิจเพิ่มเติมโดยการเปิดสาขาร้านอาหารใหม่หรือการส่งถึงบ้าน.
- การเปิดร้านในตลาดใหม่ การเปิดร้านอาหารในพื้นที่หรือตลาดใหม่สามารถเพิ่มฐานลูกค้าได้.
- แนวโน้มสุขภาพ ความสนใจในอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถสร้างเมนูที่เน้นสุขภาพได้.
Threats (ภัยคุกคาม)
- การแข่งขันสูง อุตสาหกรรมอาหารและร้านอาหารมีการแข่งขันสูง และความแข่งขันนี้อาจส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายสูง.
- สภาวะเศรษฐกิจ สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนอาจส่งผลให้การบริโภคลดลง.
- ประชาสัมพันธ์เสียเรื่อง ประชาสัมพันธ์เสียเรื่องหรือข่าวร้านอาหารที่ไม่ดีอาจส่งผลให้ธุรกิจได้รับความเสียหาย.
การวิเคราะห์ SWOT ช่วยให้คุณสามารถพิจารณาและวางแผนกิจกรรมที่เหมาะสมเพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตและประสบความสำเร็จ ควรทำการปรับปรุงข้อจำกัดและใช้โอกาสในการพัฒนาธุรกิจของคุณอย่างเหมาะสมตามการวิเคราะห์ SWOT ของคุณ
คําศัพท์พื้นฐาน ธุรกิจของกิน ที่ควรรู้
นี่คือ 10 คำศัพท์พื้นฐานที่เฉพาะในธุรกิจของกินพร้อมคำอธิบายเพิ่มภาษาไทยและคำแปลเป็นอังกฤษ
-
เมนู (Menu)
- คำอธิบายเพิ่ม เมนูคือรายการอาหารและเครื่องดื่มที่ร้านอาหารหรือร้านกาแฟมีเสนอให้ลูกค้าเลือก.
-
เชฟ (Chef)
- คำอธิบายเพิ่ม เชฟคือผู้ที่มีความชำนาญในการปรุงอาหารและสร้างเมนู.
-
บาริสต้า (Barista)
- คำอธิบายเพิ่ม บาริสต้าคือคนที่ชำระชามกาแฟและเครื่องดื่มในร้านกาแฟ.
-
คอนเซปต์ร้าน (Restaurant Concept)
- คำอธิบายเพิ่ม คอนเซปต์ร้านคือรูปแบบและแนวคิดของร้านอาหารที่กำหนดลักษณะและบรรยากาศ.
-
ส่วนผสม (Ingredients)
- คำอธิบายเพิ่ม ส่วนผสมคือวัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหาร.
-
ระบบการบริหาร (Management System)
- คำอธิบายเพิ่ม ระบบการบริหารคือกระบวนการและการวางแผนในการจัดการธุรกิจของกิน.
-
บุคคลากร (Staff)
- คำอธิบายเพิ่ม บุคคลากรคือคนที่ทำงานในร้านอาหาร เช่น เชฟและพนักงานบริการ.
-
อาหารคาว (Savory Food)
- คำอธิบายเพิ่ม อาหารคาวคืออาหารที่มีรสชาติเค็มหรือรสจืด เช่น เนื้อสัตว์และผัก.
-
ขนมหวาน (Dessert)
- คำอธิบายเพิ่ม ขนมหวานคืออาหารหรือของหวานที่รับประทานหลังจากรายการหลัก.
-
เมล็ดพันธุ์ (Ingredients)
- คำอธิบายเพิ่ม เมล็ดพันธุ์คือวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหาร และมักเป็นส่วนสำคัญของเมนู เช่น เมล็ดพันธุ์ของพืชและเครื่องเทศ.
คำศัพท์เหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของภาษาอาหารและร้านอาหาร และมีความสำคัญในการเข้าใจและดำเนินธุรกิจของกินอย่างมีประสิทธิภาพ.
ธุรกิจ ของกิน ต้อง จดทะเบียนบริษัท หรือไม่
การจดทะเบียนธุรกิจของกินขึ้นอยู่กับกฎหมายและกำหนดการในท้องถิ่นที่คุณต้องการเปิดธุรกิจของคุณ แต่ในทั่วไป ธุรกิจของกินจะต้องจดทะเบียนหรือได้รับอนุญาตตามรายละเอียดต่อไปนี้
-
จดทะเบียนธุรกิจ คุณต้องจดทะเบียนธุรกิจของคุณกับหน่วยงานท้องถิ่นที่รับผิดชอบในการจดทะเบียนธุรกิจ เช่น สำนักงานพาณิชย์หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเขตท้องถิ่นของคุณ.
-
สิทธิบัตรการดำเนินธุรกิจ คุณอาจต้องได้รับสิทธิบัตรการดำเนินธุรกิจหรือใบอนุญาตพิเศษในกรณีที่ธุรกิจของคุณมีลักษณะเฉพาะ เช่น การบริการสุขภาพหรือการผลิตอาหาร.
-
รับรองสุขภาพอาหาร (Food Health Certificate) ถ้าคุณประกอบธุรกิจของกิน คุณอาจต้องได้รับรับรองสุขภาพอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกในการเตรียมอาหารจากหน่วยงานสุขภาพท้องถิ่น.
-
ใบอนุญาตการขายสุรา (Alcohol License) ถ้าคุณต้องการจำหน่ายสุราในธุรกิจของกิน คุณจะต้องได้รับใบอนุญาตการขายสุราจากหน่วยงานที่รับผิดชอบในการควบคุมสุรา.
-
การสานักงานสาธารณสุข (Health Department Permit) คุณอาจต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานสาธารณสุขหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบสุขลักษณะของสถานที่ที่ทำอาหารเพื่อให้แน่ใจว่ามีมาตรฐานสุขลักษณะที่ถูกต้อง.
-
การลงทะเบียนในหน่วยงานการเกษตร (Agriculture Department Registration) ถ้าคุณมีการผลิตเกี่ยวกับการเกษตร เช่น ผลิตผลไม้หรือผัก คุณอาจต้องลงทะเบียนในหน่วยงานการเกษตรท้องถิ่น.
-
สิทธิบัตรสิ่งอำนวยความสะดวก (Facility Permit) ในกรณีที่คุณมีสิ่งอำนวยความสะดวกเช่น ระบบไฟฟ้าหรือระบบประปา คุณจะต้องได้รับสิทธิบัตรในการใช้งานเหล่านี้.
-
รับรองความปลอดภัย (Safety Certification) คุณควรให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เช่น การติดตั้งระบบดับเพลิงและอุปกรณ์ความปลอดภัย.
-
การลงทะเบียนเพื่อเสียภาษี (Tax Registration) คุณต้องลงทะเบียนในการเสียภาษีและเข้าข่ายในระบบภาษีตามกฎหมายภาษีท้องถิ่นและกฎหมายภาษีรายได้.
-
การประกันภัย (Insurance) คุณควรพิจารณาการซื้อประกันธุรกิจเพื่อป้องกันความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในธุรกิจของคุณ.
การจดทะเบียนและอนุญาตในธุรกิจของกินจะแตกต่างกันตามท้องถิ่นและประเทศ คุณควรติดต่อหน่วยงานท้องถิ่นและหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายและการจดทะเบียนที่เป็นที่ยอมรับในพื้นที่ของคุณ.
บริษัท ธุรกิจของกิน เสียภาษีอย่างไร
ภาษีที่ธุรกิจของกินต้องเสียอาจแตกต่างกันตามประเภทของธุรกิจ และกฎหมายภาษีที่ใช้ในพื้นที่ที่คุณทำธุรกิจ นี่คือภาษีที่ธุรกิจของกินส่วนใหญ่ต้องเสีย
-
ภาษีร้านอาหาร (Restaurant Tax) ร้านอาหารจะต้องเสียภาษีร้านอาหารที่คิดจากยอดขายของอาหารและเครื่องดื่มที่จะบริการ ภาษีนี้อาจแตกต่างกันตามท้องถิ่นและประเทศ.
-
ภาษีขาย (Sales Tax) ในบางท้องถิ่นและประเทศ มีภาษีขายที่เรียกว่า VAT (Value Added Tax) หรือ GST (Goods and Services Tax) ซึ่งจะถูกคิดจากยอดขายทั้งหมดของสินค้าและบริการที่ร้านของคุณให้บริการ.
-
ภาษีขายสุรา (Alcohol Tax) ถ้าคุณจำหน่ายสุราในร้านอาหารของคุณ คุณอาจต้องเสียภาษีขายสุรา.
-
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (Property Tax) ถ้าคุณเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในธุรกิจของคุณ เช่น ร้านอาหาร คุณจะต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง.
-
ภาษีเงินได้ (Income Tax) ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการธุรกิจของกินและได้รับรายได้จากธุรกิจนี้ คุณจะต้องรายงานรายได้นี้ในการเสียภาษีเงินได้.
-
สิ่งที่ซื้อสำหรับธุรกิจ (Business Purchases) คุณอาจถูกยกเว้นจากการเสียภาษีสำหรับสิ่งที่คุณซื้อสำหรับการใช้ในธุรกิจของคุณ เช่น วัตถุดิบอาหาร อุปกรณ์ครัว เป็นต้น.
-
ภาษีพนักงาน (Employee Taxes) หากคุณมีพนักงานในธุรกิจของคุณ คุณต้องเสียภาษีจากรายได้ของพนักงานและรายได้ที่คุณจ่ายให้พนักงาน.
-
สิทธิประกันสังคม (Social Security) คุณจะต้องจ่ายสิทธิประกันสังคมสำหรับพนักงานของคุณตามกฎหมาย.
-
ภาษีสิ่งแวดล้อม (Environmental Tax) บางท้องถิ่นและประเทศอาจมีภาษีสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติหรือกิจกรรมสิ่งแวดล้อมในธุรกิจของคุณ.
-
อื่น ๆ อาจมีภาษีหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณตามกฎหมายและกำหนดการในพื้นที่ของคุณ.
ควรติดต่อหน่วยงานท้องถิ่นและรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษีที่คุณต้องเสียในธุรกิจของคุณ การปฏิบัติตามกฎหมายภาษีมีความสำคัญเพื่อประสบความสำเร็จและป้องกันปัญหาทางกฎหมายในอนาคต.
อ่านบทความทั้งหมด >>> รับทำบัญชี.com

บัญชีปริญญาตรี สาขาบัญชี มหาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ นักบัญชี ที่ชอบทำบทความ รักการทำบทความมากว่า 10 ปี
รับทำบัญชี โทร.081-931-8341 (คุณจ๋า)
ดอกเบี้ยจ่าย คือ หมวดบัญชี คิดยังไง
ซื้อขายสินค้าในต่างประเทศ ต้องผ่านทางเรือหรือเครื่อง
หาวิธีไหนดี ที่จะทำบัญชีเพื่อให้สรรพากรยอมรับ!!
ร้านอาหาร รายรับ รายจ่าย โอกาส !
แจ้งงบการเงินผิด ต้องแจ้งลงลายมือชื่อ
เช่ากิจการโรงแรม ในนามกรรมการ หรือ บริษัท
แม่ค้าออนไลน์ คู่แข่ง ความเสี่ยง โอกาส !
แปรรูปสินค้าเกษตร กิจการค้า รายรับ รายจ่าย !