รับทำบัญชี.COM | อยากเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก StartUp ใหม่?

Click to rate this post!
[Total: 26 Average: 5]

แผนธุรกิจขนาดเล็ก

การเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็กสามารถทำได้โดยมีขั้นตอนเบื้องต้นต่อไปนี้

  1. การศึกษาและการวางแผน
    • ศึกษาตลาดและความต้องการของลูกค้าในพื้นที่ที่คุณต้องการเปิดธุรกิจ.
    • วางแผนธุรกิจโดยรวมที่ระบุเป้าหมาย, โครงสร้างราคา, การตลาด, และการเงิน.
  2. สร้างแผนธุรกิจ
    • รวมข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณในแผนธุรกิจเพื่อให้มีภาพรวมถึงรายละเอียดทางธุรกิจ, กำไร, การเงิน, และการตลาด.
  3. การเลือกประเภทของธุรกิจ
    • ตรวจสอบกฎหมายและข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประเภทธุรกิจของคุณ เช่น การจดทะเบียนบริษัทหรือร้านค้า.
  4. การจัดหาทุน
    • กำหนดวิธีการจัดหาทุนสำหรับธุรกิจของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเงินตัวทองสด, การกู้ยืม, หรือน้ำทุนร่วมกันกับผู้ลงทุน.
  5. การเลือกสถานที่
    • เลือกสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ โดยพิจารณาปัจจัยเช่น ราคาเช่า, การเข้าถึงลูกค้า, และความเหมาะสมกับประเภทธุรกิจของคุณ.
  6. การจัดหาอุปกรณ์และทรัพยากร
    • หาอุปกรณ์, เครื่องมือ, และทรัพยากรที่คุณจำเป็นต้องใช้ในการดำเนินธุรกิจ.
  7. การจัดการการเงิน
    • สร้างระบบบัญชีและการบัญชีเพื่อติดตามรายรับและรายจ่ายของธุรกิจของคุณ.
  8. การตลาดและโฆษณา
    • สร้างแผนการตลาดและโฆษณาเพื่อเริ่มโปรโมตธุรกิจของคุณและดึงดูดลูกค้า.
  9. การปฏิบัติตามกฎหมาย
    • ทำการจดทะเบียนธุรกิจและปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง.
  10. การเตรียมพร้อมในกรณีฉุกเฉิน
    • ควรมีแผนการดำเนินการกรณีเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ปัญหาในการจัดส่งสินค้าหรือสภาวะฉุกเฉินอื่นๆ.
  11. การทดลองและปรับปรุง
    • ทดลองดำเนินธุรกิจขนาดเล็กก่อนเริ่มขยายธุรกิจ เพื่อปรับปรุงกระบวนการและสินค้าหรือบริการของคุณ.
  12. การสร้างภาพแบรนด์
    • สร้างและสรรค์ภาพแบรนด์ของธุรกิจของคุณเพื่อสร้างความได้รับรู้และความไว้วางใจจากลูกค้า.
  13. การเริ่มต้นดำเนินธุรกิจ
    • เมื่อคุณเตรียมพร้อมทั้งทางธุรกิจและการเงิน คุณสามารถเริ่มต้นดำเนินธุรกิจของคุณได้.
  14. การติดตามและประเมินผล
    • ติดตามและประเมินผลการดำเนินธุรกิจของคุณเพื่อทราบความก้าวหน้าและปรับปรุงตามความต้องการ.

ควรจดบันทึกและทำงานอย่างรอบคอบในขั้นตอนเหล่านี้เพื่อให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ดีขึ้น.

ตารางรายรับรายจ่าย ตัวอย่างบัญชี ธุรกิจขนาดเล็ก

นี่คือตัวอย่างรูปแบบของตารางเปรียบเทียบรายรับและรายจ่ายสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

รายการ รายรับ (บาท) รายจ่าย (บาท)
ยอดขายสินค้าหรือบริการ 500,000
รายได้จากการลงทุนหรือดอกเบี้ย 10,000
รายรับรวม 510,000
ค่านายหน้า 30,000
ค่าพันธบัตรหรือรายได้ครั้งเดียว 5,000
ค่าจ้างพนักงานหรือค่าจ้างงาน 100,000
ค่าเช่าสถานที่หรือออฟิศ 20,000
ค่าพลังงานและสาธารณูปโภค 15,000
ค่าสื่อโฆษณาและการตลาด 10,000
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 5,000
รายจ่ายรวม 185,000
กำไร (กำไรสุทธิ) 510,000 – 185,000 = 325,000

ในตารางนี้, รายรับและรายจ่ายของธุรกิจขนาดเล็กถูกแสดงในหลักคอลัมน์แยกต่างหาก และกำไรสุทธิถูกคำนวณโดยลบรายจ่ายจากรายรับ เพื่อให้คุณสามารถดูว่าธุรกิจของคุณได้กำไรหรือขาดทุนในช่วงเวลาที่ระบุในตาราง.

อาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจขนาดเล็ก

ธุรกิจขนาดเล็กมีความหลากหลายและสามารถเกี่ยวข้องกับอาชีพหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะและกลยุทธ์ของธุรกิจเฉพาะ ดังนั้น อาชีพที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขนาดเล็กอาจรวมถึง

  1. ผู้ประกอบธุรกิจของตนเอง (Entrepreneurship) ผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กเป็นผู้ก่อตั้งและจัดการธุรกิจของตนเอง พวกเขาต้องมีความสามารถในการวางแผนธุรกิจ, การจัดการ, การตลาด, และการเสี่ยงโดยมีไอเดียสร้างรายได้ในหลายๆ สาขาอาชีพ.
  2. การค้าปลีก (Retailing) การค้าปลีกเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่มีเจ้าของหรือผู้จัดการเปิดร้านค้าเพื่อขายสินค้าแก่ลูกค้าที่มาชโรงร้าน ตัวอย่างเช่น ร้านขายเสื้อผ้า, ร้านอาหาร, หรือร้านสะดวกซื้อ.
  3. การบริการทางเทคโนโลยี (Technology Services) ธุรกิจขนาดเล็กทางเทคโนโลยีสามารถเกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร เช่น การสร้างเว็บไซต์, การพัฒนาซอฟต์แวร์, หรือบริการควบคุมเครือข่ายคอมพิวเตอร์.
  4. การผลิตสินค้า (Manufacturing) ธุรกิจขนาดเล็กที่ผลิตสินค้าเชิงนิติบุคคล อาจเกี่ยวข้องกับอาชีพเช่นการผลิตอาหาร, เครื่องดื่ม, สินค้าแต่งกาย, หรือผลิตภัณฑ์แพร่หลายอื่น ๆ.
  5. การบริการและครีเอทีฟ (Service and Creative Professions) ธุรกิจขนาดเล็กที่ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ อาชีพเช่น การออกแบบกราฟิก, การตัดเย็บ, การสอนเพลง, หรือการให้บริการที่เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม.
  6. การแปรรูปอาหาร (Food Processing) ธุรกิจขนาดเล็กที่ผลิตหรือแปรรูปอาหาร เช่น การผลิตขนมปัง, การทำเบเกอรี่, หรือการผลิตอาหารสำเร็จรูป.
  7. การท่องเที่ยวและบริการด้านการเดินทาง (Tourism and Travel Services) ธุรกิจขนาดเล็กที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว อาชีพเช่นการจัดทริปท่องเที่ยว, การจองโรงแรม, หรือการให้บริการด้านการเดินทาง.
  8. การศึกษาและการสอน (Education and Tutoring) ธุรกิจขนาดเล็กที่ให้บริการการศึกษาและการสอน อาชีพเช่น การสอนพิเศษ, การสอนออนไลน์, หรือการจัดสัมมนาและคอร์สอบรม.
  9. การขายสินค้าออนไลน์ (E-Commerce) การขายสินค้าหรือบริการผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นอาชีพที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และธุรกิจขนาดเล็กสามารถเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ได้ง่ายและรวดเร็ว.
  10. การแปรรูปและการผลิตที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรม (Agricultural Processing and Farming) ธุรกิจขนาดเล็กที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลสินค้าเกษตร, การผลิตผลผลิตเกษตร, หรือการจัดการฟาร์ม.

นอกเหนือจากนี้, ยังมีหลายธุรกิจขนาดเล็กที่เกี่ยวข้องกับการบริการด้านการเช่า, การบริการด้านการเดินทาง, การผลิตสินค้าแบบแพร่หลาย, การให้บริการด้านการขนส่ง, การผลิตผลิตภัณฑ์บ้านเครื่อง, และอื่น ๆ อีกมาก สิ่งสำคัญคือการเลือกธุรกิจที่สอดคล้องกับความสนใจ, ความเชี่ยวชาญ, และทักษะของคุณเพื่อความประสบความสำเร็จในธุรกิจขนาดเล็กของคุณ.

วิเคราะห์ SWOT ธุรกิจขนาดเล็ก

การวิเคราะห์ SWOT เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจทราบแนวทางและกลยุทธ์ที่เหมาะสมต่อธุรกิจของตนเอง โดย SWOT หมายถึง Strengths (จุดแข็ง), Weaknesses (จุดอ่อน), Opportunities (โอกาส), และ Threats (อุปสรรคหรืออันตราย) ดังนั้นเมื่อคุณทำการวิเคราะห์ SWOT สำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณ คุณจะได้รับภาพรวมที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันและการเติบโตของธุรกิจของคุณ ต่อไปนี้คือตัวอย่างของวิเคราะห์ SWOT สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

จุดแข็ง (Strengths)

  1. ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง สินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพสูงอาจเป็นจุดแข็งที่ช่วยสร้างความไว้วางใจในลูกค้า.
  2. ความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ไม่เหมือนใครอาจช่วยสร้างช่องทางตลาดใหม่.
  3. พื้นที่ทำงานและสถานที่ที่ดี สถานที่ทำงานที่เหมาะสมและตำแหน่งที่ตั้งที่ดีอาจช่วยในการเพิ่มยอดขาย.
  4. ความสามารถในการตลาด การสร้างและบริหารจัดการแคมเปญการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ.

จุดอ่อน (Weaknesses)

  1. ข้อจำกัดทางการเงิน ข้อจำกัดในการมีทุนทรัพย์หรือเงินทุนสำรองสำหรับการขยายธุรกิจ.
  2. ความเข้าใจในตลาดน้อย ความเข้าใจในตลาดหรือกลุ่มลูกค้าไม่เพียงพอ.
  3. ข้อจำกัดทางทรัพยากรบุคคล ข้อจำกัดในจำนวนแรงงานหรือความสามารถของบุคคลในธุรกิจ.
  4. การแข่งขันรุนแรง มีคู่แข่งที่มีความแข่งขันรุนแรงที่ทำให้ยากต่อการเจริญเติบโต.

โอกาส (Opportunities)

  1. ตลาดเพิ่มขึ้น การเจริญเติบโตของตลาดหรือตลาดใหม่ที่เปิดขึ้น.
  2. เทคโนโลยีใหม่ โอกาสในการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาในธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ.
  3. ความร่วมมือกับพันธมิตร โอกาสในการร่วมมือกับพันธมิตรหรือบริษัทในการขยายธุรกิจ.
  4. เปลี่ยนแปลงในกฎหมายหรือข้อบังคับ เปลี่ยนแปลงในกฎหมายหรือข้อบังคับที่อาจช่วยในการเพิ่มรายได้หรือลดความเสี่ยง.

อุปสรรคหรืออันตราย (Threats)

  1. การเปลี่ยนแปลงในตลาด การเปลี่ยนแปลงในความต้องการหรือความพึงพอใจของลูกค้า.
  2. คู่แข่งรุนแรง การแข่งขันจากคู่แข่งที่มีความแข่งขันรุนแรง.
  3. การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีที่อาจทำให้ธุรกิจของคุณตกหล่น.
  4. ข้อจำกัดในการเชื่อมต่อทางสังคม การปัญหาในการเชื่อมต่อทางสังคมหรือการกระจายของข้อมูลอาจเป็นอุปสรรค.

การวิเคราะห์ SWOT จะช่วยให้คุณสามารถกำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อให้ธุรกิจของคุณมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในตลาดที่แข็งแกร่งและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา.

คําศัพท์พื้นฐาน ธุรกิจขนาดเล็ก ที่ควรรู้

นี่คือ 10 คำศัพท์พื้นฐานเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กที่คุณควรรู้

  1. ธุรกิจ (Business) ธุรกิจคือกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มุ่งหวังผลกำไร โดยการให้บริการหรือผลิตสินค้าหรือบริการใด ๆ.
  2. เจ้าของธุรกิจ (Business Owner) บุคคลหรือกลุ่มคนที่ครอบครองและจัดการธุรกิจของตนเอง.
  3. การวางแผนธุรกิจ (Business Planning) กระบวนการวางแผนและกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อให้ธุรกิจมีความสำเร็จ.
  4. การตลาด (Marketing) กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณาและการสร้างความต้องการให้กับสินค้าหรือบริการ.
  5. รายรับ (Revenue) จำนวนเงินที่รับเข้ามาจากการขายสินค้าหรือบริการ.
  6. รายจ่าย (Expense) จำนวนเงินที่จ่ายออกเพื่อดำเนินธุรกิจ, เช่น ค่าจ้างพนักงาน, ค่าเช่า, และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ.
  7. กำไร (Profit) ความต่างระหว่างรายรับและรายจ่าย, หรือเงินที่เหลือหลังจากหักค่าใช้จ่าย.
  8. การระดมทุน (Funding) กระบวนการหาเงินทุนสำหรับธุรกิจ, ซึ่งอาจมาจากเงินออมส่วนตัว, การขอสินเชื่อ, หรือการหาผู้ลงทุน.
  9. กฎหมายธุรกิจ (Business Law) กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการก่อตั้งและการดำเนินธุรกิจ, เช่น กฎหมายสัญญา, การจดทะเบียนธุรกิจ, และการป้องกันจากความรับผิดชอบ.
  10. การศึกษาตลาด (Market Research) กระบวนการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดและกลุ่มลูกค้าเพื่อให้ข้อมูลที่สมบูรณ์แก่การตัดสินใจธุรกิจ.

คำอธิบายเพิ่มเติม ความเข้าใจคำศัพท์เหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและบริหารจัดการธุรกิจขนาดเล็กของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ.

ธุรกิจ ขนาดเล็ก ต้อง จดทะเบียนบริษัท หรือไม่

การจดทะเบียนธุรกิจขนาดเล็กจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับในประเทศที่คุณตั้งธุรกิจ รายละเอียดเกี่ยวกับการจดทะเบียนธุรกิจสามารถแตกต่างกันไปตามประเทศและประเภทของธุรกิจที่คุณต้องการเปิด แต่ต่อไปนี้คือรายการทั่วไปของสิ่งที่คุณอาจจะต้องจดทะเบียนเมื่อเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็กในประเทศไทย

  1. การจดทะเบียนธุรกิจ คุณจะต้องจดทะเบียนธุรกิจกับหน่วยงานที่รับผิดชอบในการจดทะเบียนธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งอาจเป็นกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DIT) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเขตพื้นที่ท้องถิ่น การจดทะเบียนนี้จะให้คุณสิทธิ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย.
  2. การจดทะเบียนสถานประกอบการ คุณอาจต้องจดทะเบียนสถานประกอบการที่คุณจะใช้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น ร้านค้า, โรงงาน, หรือสำนักงาน เพื่อให้ความโปร่งใสและปฏิบัติตามกฎหมาย.
  3. การขอใบอนุญาตหรือใบอนุญาตพิเศษ บางธุรกิจอาจต้องขอใบอนุญาตหรือใบอนุญาตพิเศษจากหน่วยงานรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การขายอาหาร, การบริการทางการแพทย์, หรือการขายเครื่องแบบที่ต้องมีการอนุญาต.
  4. การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หากธุรกิจของคุณมีรายได้มากพอ คุณจะต้องจดทะเบียนในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เพื่อชำระภาษีและสามารถถูกเรียกเก็บภาษี VAT จากลูกค้าได้.
  5. การลงทะเบียนสถานประกอบการทางอาหาร (Food Establishment Registration) หากคุณมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหาร เช่น ร้านอาหาร ครัวเรือน หรือการผลิตอาหาร คุณจะต้องลงทะเบียนสถานประกอบการทางอาหารกับกระทรวงสาธารณสุข.
  6. การจดทะเบียนแรงงาน หากคุณมีพนักงาน คุณจะต้องจดทะเบียนแรงงานและปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน เพื่อให้ความสิทธิและความปลอดภัยของพนักงาน.
  7. การจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property Registration) หากคุณมีสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา เช่น การลงทะเบียนชื่อสินค้าหรือเครื่องหมายการค้า คุณควรจดทะเบียนเพื่อปกป้องสิทธิของคุณ.
  8. การขอใบอนุญาตการใช้พื้นที่ (Zoning Permit) การขอใบอนุญาตการใช้พื้นที่เป็นสิ่งสำคัญเมื่อคุณต้องการใช้สถานที่ที่ไม่ได้มีการใช้เป็นทางธุรกิจมาก่อน.
  9. การลงทะเบียนทางภาษีสถานที่ (Property Tax Registration) คุณอาจต้องจดทะเบียนทางภาษีสถานที่เพื่อชำระภาษีสถานที่ของสถานประกอบการ.
  10. การจัดเตรียมบัญชีและรายงานภาษี คุณต้องปฏิบัติตามกฎหมายภาษีท้องถิ่นและภาษีรายได้โดยการจัดเตรียมบัญชีและรายงานภาษีตามกฎหมาย.

โปรดทราบว่ารายละเอียดและความจำเป็นในการจดทะเบียนอาจแตกต่างกันไปตามประเทศและพื้นที่ คุณควรรับคำปรึกษาจากทนายความหรือที่ปรึกษาทางธุรกิจเพื่อให้แน่ใจว่าคุณปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องและครบถ้วน.

บริษัท ธุรกิจขนาดเล็ก เสียภาษีอย่างไร

ภาษีที่ธุรกิจขนาดเล็กต้องเสียจะขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ, รายได้, และกฎหมายของประเทศที่คุณตั้งธุรกิจ ต่อไปนี้คือภาษีที่บางธุรกิจขนาดเล็กอาจต้องเสีย

  1. ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax) ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและไม่ได้จดทะเบียนธุรกิจเป็นนิติบุคคล รายได้จากธุรกิจอาจถือเป็นรายได้ส่วนบุคคล และคุณจะต้องเสียภาษีรายได้บุคคลตามอัตราที่กำหนดในกฎหมายภาษีของประเทศ.
  2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax – VAT) หากธุรกิจของคุณมีรายได้สูงพอ คุณอาจต้องจดทะเบียนในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และเสียภาษี VAT จากการขายสินค้าหรือบริการ.
  3. ภาษีธุรกิจร้านค้า (Business Tax) บางประเภทของธุรกิจขนาดเล็กอาจต้องเสียภาษีธุรกิจร้านค้า ซึ่งคือภาษีที่คำนวณจากรายได้หรือมูลค่าเพิ่มตามกฎหมายท้องถิ่น.
  4. ภาษีอากรหมู่บ้าน (Local Property Tax) หากคุณมีสถานประกอบการที่ต้องการจดทะเบียน เช่น ร้านค้าหรือโรงงาน คุณอาจต้องเสียภาษีอากรหมู่บ้านตามมูลค่าของสถานประกอบการนั้น.
  5. ภาษีท้องถิ่น (Local Taxes) บางท้องที่อาจมีภาษีท้องถิ่นเสริมอื่น ๆ ที่ต้องเสีย เช่น ภาษีการใช้พื้นที่, ภาษีสิ่งแวดล้อม, หรือภาษีอื่น ๆ ที่รัฐบาลท้องถิ่นกำหนด.
  6. ภาษีสถานประกอบการ (Business License Tax) บางพื้นที่อาจกำหนดภาษีสถานประกอบการที่ต้องเสียในการดำเนินธุรกิจ.
  7. ภาษีแรงงาน (Payroll Tax) หากคุณมีพนักงาน คุณจะต้องเสียภาษีแรงงานตามกฎหมายแรงงานของประเทศ.
  8. อื่น ๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจและกฎหมายท้องถิ่น อาจมีภาษีและค่าธรรมเนียมเสริมที่ต้องเสีย.

ควรระวังและปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณเพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายและรัฐบาลอาจเรียกเก็บค่าปรับหรือโทษหากคุณไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง. แนะนำให้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญหรือทนายความเพื่อข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับภาษีและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณในพื้นที่ของคุณ.

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )