รับทำบัญชี.COM | เปิดบริษัทใหม่ต้องทําบัญชีอะไรบ้าง?

เปิดบริษัทใหม่ ต้องทําบัญชีอะไรบ้าง

เมื่อคุณต้องการเปิดบริษัทใหม่ การทำบัญชีเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรดูแลให้เรียบร้อยเพื่อให้ธุรกิจของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ ตามด้านล่างนี้คือบัญชีที่คุณควรพิจารณาเมื่อต้องการเปิดบริษัทใหม่

  1. บัญชีเงินสด (Cash Account) เริ่มต้นโดยบันทึกรายการเงินสดที่คุณนำมาใช้เพื่อเริ่มธุรกิจ เช่น เงินสดที่คุณนำมาจากการนำทุนเข้าหรือการกู้ยืมเพื่อใช้ในธุรกิจ.

  2. บัญชีลูกหนี้การค้า (Accounts Receivable Account) บันทึกรายการเงินที่คุณค้างรับจากลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรือบริการจากคุณ.

  3. บัญชีเจ้าหนี้การค้า (Accounts Payable Account) บันทึกรายการเงินที่คุณค้างจ่ายให้กับซัพพลายเออร์หรือผู้ให้บริการที่คุณได้รับสินค้าหรือบริการจากนั้น.

  4. บัญชีสินค้าคงเหลือ (Inventory Account) บันทึกรายการสินค้าที่คุณมีคงเหลือในสต็อก เป็นส่วนสำคัญในธุรกิจซื้อขายสินค้า.

  5. บัญชีค่าใช้จ่าย (Expense Account) บันทึกรายการค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ เช่น ค่าเช่าพื้นที่ ค่าจ้างงาน ค่าโฆษณา และอื่น ๆ.

  6. บัญชีรายได้ (Revenue Account) บันทึกรายการรายได้ที่คุณได้รับจากการขายสินค้าหรือบริการ.

  7. สมุดรายวัน (General Journal) บันทึกรายละเอียดของทุกธุรกรรมการเงินที่เกิดขึ้นในธุรกิจ เช่น การซื้อขาย การรับเงิน การจ่ายเงิน และกิจกรรมอื่น ๆ.

  8. สมุดบัญชี (General Ledger) รวบรวมข้อมูลจากสมุดรายวันและจัดเรียงตามบัญชีต่าง ๆ เพื่อบันทึกรายการบัญชีทั้งหมด.

  9. งบทดลอง (Trial Balance) สรุปยอดเครดิตและเดบิตของทุกบัญชีเพื่อตรวจสอบว่ายอดเดบิตและเครดิตเท่ากัน.

  10. งบการเงิน (Financial Statements) จัดทำเพื่อรายงานสถานะการเงินของบริษัท รวมถึงรายงานกำไรขาดทุน งบดุล และงบการเงินอื่น ๆ.

  11. รายงานรายปี (Year-End Financial Reports) สรุปผลการเงินและกิจกรรมทางการเงินของบริษัทในรอบปี.

ควรทราบว่าการทำบัญชีสามารถซับซ้อนขึ้นตามลักษณะและขนาดของธุรกิจ คุณอาจต้องมีบัญชีเพิ่มเติมหรือรายงานที่เฉพาะเจาะจงในการบันทึกและรายงานกิจกรรมของธุรกิจของคุณ. แนะนำให้คุณปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการบัญชีเพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมต่อบริษัทของคุณ.

ตัวอย่าง การทำบัญชีบริษัท

นี่คือตัวอย่างการทำบัญชีของบริษัทเล็กที่ดำเนินธุรกิจซื้อขายสินค้า

บริษัท ABC Trading Co., Ltd. – ตัวอย่างการทำบัญชี

  1. บัญชีเงินสด (Cash Account)

    • วันที่ 1 มกราคม 2023 เริ่มต้นมีเงินสด 100,000 บาท
  2. บัญชีลูกหนี้การค้า (Accounts Receivable Account)

    • วันที่ 5 มกราคม 2023 ขายสินค้าให้ลูกค้า A ราคา 10,000 บาท (ค้างรับ)
    • วันที่ 10 มกราคม 2023 ขายสินค้าให้ลูกค้า B ราคา 15,000 บาท (ค้างรับ)
  3. บัญชีเจ้าหนี้การค้า (Accounts Payable Account)

    • วันที่ 20 มกราคม 2023 ซื้อสินค้าจาก Supplier X ราคา 8,000 บาท (ค้างจ่าย)
    • วันที่ 25 มกราคม 2023 ซื้อสินค้าจาก Supplier Y ราคา 5,000 บาท (ค้างจ่าย)
  4. บัญชีสินค้าคงเหลือ (Inventory Account)

    • วันที่ 1 มกราคม 2023 ยอดสินค้าคงเหลือ 50,000 บาท
    • วันที่ 31 มกราคม 2023 ยอดสินค้าคงเหลือ 45,000 บาท
  5. บัญชีค่าใช้จ่าย (Expense Account)

    • วันที่ 15 มกราคม 2023 จ่ายค่าเช่าโรงเรียน 2,000 บาท
    • วันที่ 28 มกราคม 2023 จ่ายค่าน้ำประปา 500 บาท
  6. บัญชีรายได้ (Revenue Account)

    • วันที่ 5 มกราคม 2023 รับรายได้จากลูกค้า A 10,000 บาท
    • วันที่ 10 มกราคม 2023 รับรายได้จากลูกค้า B 15,000 บาท
  7. สมุดรายวัน (General Journal)

    • วันที่ 5 มกราคม 2023 บันทึกการขายสินค้าให้ลูกค้า A ราคา 10,000 บาท
    • วันที่ 10 มกราคม 2023 บันทึกการขายสินค้าให้ลูกค้า B ราคา 15,000 บาท
    • วันที่ 20 มกราคม 2023 บันทึกการซื้อสินค้าจาก Supplier X ราคา 8,000 บาท
    • วันที่ 25 มกราคม 2023 บันทึกการซื้อสินค้าจาก Supplier Y ราคา 5,000 บาท
  8. สมุดบัญชี (General Ledger)

    • บัญชีเงินสด 100,000 (ค่าเริ่มต้น) + 25,000 (รับรายได้) – 2,500 (จ่ายค่าน้ำประปา) = 122,500 บาท
    • บัญชีลูกหนี้การค้า 0 (ค่าเริ่มต้น) + 10,000 (ค้างรับ) + 15,000 (ค้างรับ) = 25,000 บาท
    • บัญชีเจ้าหนี้การค้า 0 (ค่าเริ่มต้น) + 8,000 (ค้างจ่าย) + 5,000 (ค้างจ่าย) = 13,000 บาท
    • บัญชีสินค้าคงเหลือ 50,000 (ค่าเริ่มต้น) – 5,000 (ขาย) = 45,000 บาท
    • บัญชีค่าใช้จ่าย 0 (ค่าเริ่มต้น) + 2,000 (ค่าเช่าโรงเรียน) + 500 (ค่าน้ำประปา) = 2,500 บาท
    • บัญชีรายได้ 0 (ค่าเริ่มต้น) + 10,000 (รับรายได้) + 15,000 (รับรายได้) = 25,000 บาท
  9. งบทดลอง (Trial Balance)

    • ยอดเครดิตรวม = 25,000 + 13,000 + 45,000 + 2,500 = 85,500 บาท
    • ยอดเดบิตรวม = 122,500 + 25,000 = 147,500 บาท

ตัวอย่างการทำบัญชีข้างต้นเป็นเพียงการแสดงตัวอย่างเบื้องต้นเท่านั้น การทำบัญชีจริงของบริษัทอาจซับซ้อนมากขึ้นโดยขึ้นอยู่กับลักษณะและขนาดของธุรกิจ การปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการบัญชีเป็นสิ่งสำคัญเมื่อคุณต้องการเริ่มธุรกิจและต้องทำบัญชีอย่างถูกต้องและเป็นระเบียบ.

การบันทึกบัญชี ตอน เปิดบริษัท

การบันทึกบัญชีเมื่อเปิดบริษัทเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะเริ่มทำให้ระบบบัญชีของคุณเป็นระเบียบและถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น. นี่คือขั้นตอนการบันทึกบัญชีเมื่อเปิดบริษัท

  1. สร้างแผนบัญชี กำหนดรายการบัญชีที่จำเป็นตามลักษณะของธุรกิจของคุณ เช่น บัญชีเงินสด, บัญชีลูกหนี้การค้า, บัญชีเจ้าหนี้การค้า, บัญชีสินค้าคงเหลือ, บัญชีค่าใช้จ่าย, บัญชีรายได้, และอื่น ๆ.

  2. เปิดบัญชี เปิดบัญชีในสมุดบัญชีสำหรับแต่ละบัญชีที่คุณต้องการ ระบุชื่อบัญชีและรหัสบัญชีที่เป็นไปตามแผนบัญชีของคุณ.

  3. บันทึกรายละเอียดธุรกรรม เมื่อคุณมีธุรกรรมการเงิน เช่น การรับเงิน, การจ่ายเงิน, การขายสินค้า หรือการซื้อสินค้า ให้บันทึกรายละเอียดของธุรกรรมนั้นในสมุดรายวัน.

  4. บันทึกสมุดรายวัน บันทึกข้อมูลที่คุณบันทึกในสมุดรายวันลงในสมุดบัญชีสมุดต่าง ๆ ตามรหัสบัญชีที่เปิดไว้.

  5. สรุปยอดบัญชี สรุปยอดเดบิตและเครดิตของแต่ละบัญชีจากสมุดบัญชีในสมุดบัญชีตามที่เกิดขึ้น.

  6. ทำงบทดลอง (Trial Balance) สรุปยอดเครดิตและเดบิตของทุกบัญชีเพื่อตรวจสอบว่ายอดเดบิตและเครดิตเท่ากัน.

  7. ทำงบการเงิน (Financial Statements) จัดทำงบการเงินเพื่อรายงานสถานะการเงินของบริษัท เช่น งบดุล, งบกำไรขาดทุน, และรายงานการเงินอื่น ๆ.

  8. บันทึกรายละเอียดเพิ่มเติม ในขั้นตอนแรก เราให้บันทึกรายละเอียดพื้นฐานของธุรกรรมเท่านั้น แต่เมื่อธุรกิจเริ่มเติบโตคุณอาจต้องบันทึกรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น การจัดทำใบแจ้งหนี้ ใบเสนอราคา รายงานการเบิกจ่าย และอื่น ๆ.

  9. ตรวจสอบความถูกต้อง ตรวจสอบรายละเอียดการบันทึกบัญชีเพื่อตระหนักถึงความถูกต้องและเป็นระเบียบของข้อมูล.

  10. ประกาศการเงิน ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อจัดทำรายงานการเงินอย่างถูกต้องสำหรับต้นปีทางการเงิน.

การทำบัญชีเมื่อเปิดบริษัทเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน และอาจต้องการความรอบคอบ คุณอาจต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการบัญชีช่วยคุณในขั้นตอนเริ่มต้นเพื่อให้แน่ใจว่าระบบบัญชีของคุณถูกต้องและเป็นระเบียบอย่างเหมาะสม.

บริษัทจำกัด ต้อง ทำ บัญชี อะไร บ้าง

บริษัทจำกัดต้องทำบัญชีหลายรายการเพื่อบันทึกและรายงานกิจกรรมการเงินของบริษัท ซึ่งรายการเหล่านี้สามารถแบ่งออกเป็นหลายหมวดหลัก ตามนี้คือรายการบัญชีหลักที่บริษัทจำกัดต้องทำ

  1. บัญชีทางการเงิน

    • บัญชีเงินสด
    • บัญชีธนาคาร
    • บัญชีลูกหนี้การค้า
    • บัญชีเจ้าหนี้การค้า
    • บัญชีสินค้าคงเหลือ
    • บัญชีเงินลงทุน
    • บัญชีหนี้สินต่าง ๆ
    • บัญชีหนี้จากภาษี
    • บัญชีรายได้
  2. บัญชีค่าใช้จ่าย

    • บัญชีค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งบริษัท
    • บัญชีค่าใช้จ่ายทั่วไป (ค่าเช่า, ค่าน้ำ, ค่าไฟฟ้า เป็นต้น)
    • บัญชีค่าใช้จ่ายในการผลิตและจำหน่ายสินค้า
    • บัญชีค่าใช้จ่ายในการโฆษณาและการตลาด
    • บัญชีค่าใช้จ่ายในการจ้างงานและเงินเดือน
  3. บัญชีส่วนของเจ้าของ

    • บัญชีเงินทุน
    • บัญชีส่วนของผู้ถือหุ้น
    • บัญชีส่วนของผู้ร่วมบริหาร
    • บัญชีเงินที่ลงทุนในบริษัท
  4. บัญชีรายงานผล

    • บัญชีกำไรขาดทุน
    • บัญชีประกันรายได้
    • บัญชีส่วนแบ่งผลกำไร
    • บัญชีส่วนแบ่งผลขาดทุน
  5. บัญชีภาษี

    • บัญชีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
    • บัญชีภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
    • บัญชีภาษีเงินได้นิติบุคคล
    • บัญชีภาษีหัก ณ ที่จ่าย
    • บัญชีภาษีเงินได้ต่างประเทศ
  6. บัญชีรายการอื่น ๆ

    • บัญชีสมุดรายวัน (General Journal)
    • บัญชีสมุดบัญชี (General Ledger)
    • บัญชีสมุดบัญชีย่อย (Subsidiary Ledger)
    • บัญชีสรุปยอด (Trial Balance)
    • รายงานการเงิน (Financial Statements)
    • งบทดลอง (Trial Balance)

บริษัทจำกัดจะต้องทำบัญชีเหล่านี้เพื่อระบุและรายงานกิจกรรมทางการเงินของบริษัทให้แก่เจ้าของกิจการ นักลงทุน องค์กรต่าง ๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )