ค่ารับรองจ่ายทำให้ไม่เป็นรายจ่ายต้องห้าม 3 วางแผนค่ารับรอง?

ค่ารับรองสามารถทีจ่ายไปนั้นถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้

                  ค่ารับรองสามารถทีจ่ายไปนั้นถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ หากเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 143 ค่ารับรองนั้นไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (4) แห่งประมวลรัษฎากร ดังต่อไปนี้ เป็นค่ารับรองตามธรรมเนียมประเพณีทางธุรกิจทั่วๆไป และบุคคลที่ได้รับการรับรองไม่ใช่ลูกจ้างของบริษัท/ห้างหุ้นส่วนจำกัด(หจก.) เว้นแต่ลูกจ้างมีหน้าที่เข้าร่วมการรับรองนั้น เป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับค่ารับรอง เช่น อาหารเครื่องดื่ม ที่พัก ค่าดูมหรสพ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกีฬา ถ้าให้เป็นสิ่งของ ต้องไม่เกินคนละ 2,000 บาทในแต่ละคราวที่มีการรับรอง

เป็นการจ่ายเพื่ออำนวยประโยชน์ให้แก่กิจการให้นำมาหักเป็นรายจ่ายได้เท่ากับจำนวนที่จ่าย แต่รวมกันไม่เกินร้อยละ 0.3 ของจำนวนเงินรายได้ หรือเงินทุนที่ได้ชำระแล้ว ซึ่งแล้วแต่จำนวนใดจะ มากกว่า ทั้งนี้สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท ค่ารับรองนั้นต้องมีกรรมการ หรือผู้ที่เป็นหุ้นส่วน ผู้จัดการ หรือผู้ได้รับมอบหมายเป็นผู้อนุมัติสั่งจ่ายค่ารับรอง และมีหลักฐานการจ่ายประกอบ ขั้นตอนการวางแผนค่ารับรอง มีดังต่อไปนี้

  • ค่ารับรองต้องมีหลักฐานการจ่ายเงิน เช่น ใบเสร็จรับเงิน
  • ต้องระบุได้ว่ามีการพาบุคคลภายนอก ที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยประโยชน์ต่อกิจการไปรับรองด้วย ยกตัวอย่างเช่น ระบุชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อไว้ในใบเบิกเงิน หรือใบสำคัญจ่ายด้วย
  • ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับกิจการ หรือเอื้อประโยชน์ต่อกิจการอย่างไร (ในการจ่ายค่ารับรอง)

ค่ารับรอง (Certification Fee) คือค่าใช้จ่ายที่ผู้สมัครต้องจ่ายให้กับหน่วยงานหรือองค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบและรับรองว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของผู้สมัครมีคุณภาพและเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ค่ารับรองนี้เป็นการรับรองว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการมีความเหมาะสมและปลอดภัยตามกฎหมายหรือข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง การรับรองสามารถเป็นเรื่องสำคัญในหลายธุรกิจและสาขาอาชีพ เช่น

  1. การรับรองสินค้า ในกรณีสินค้า เช่น อาหาร, เครื่องดื่ม, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, ยานยนต์, ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์เด็กและเด็กทารก การรับรองสินค้าสามารถทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าที่พวกเขาใช้
  2. การรับรองบริการ ในบางกรณีบริการ เช่น บริการด้านการแพทย์, บริการที่เชื่อมโยงกับความปลอดภัย, การบริการทางการเงิน การรับรองสามารถให้ความมั่นใจว่าบริการมีมาตรฐานสูงและปลอดภัยตามกฎหมาย
  3. การรับรองระบบการบริหาร บริษัทหรือองค์กรบางแห่งอาจรับรองระบบการบริหารต่าง ๆ เช่น ระบบควบคุมคุณภาพ, ระบบการบริหารสิ่งแวดล้อม, ระบบการจัดการความปลอดภัย เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจกับลูกค้าและสถาบันการเงิน
  4. การรับรองความรู้และทักษะ ในบางกรณีหลักสูตรการฝึกอบรมและการศึกษาสามารถรับรองความรู้และทักษะของผู้เรียน ทำให้พวกเขามีคุณค่าในตลาดแรงงาน

ค่ารับรองสามารถเป็นรายเดือน, รายปี, หรือรายครั้ง ขึ้นอยู่กับประเภทของการรับรองและองค์กรหรือหน่วยงานที่ทำการรับรอง การจ่ายค่ารับรองส่วนใหญ่มักเป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้สมัครต้องรับผิดชอบและมีประกันคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่รับรอง

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?

คลิกที่ดาวเพื่อให้คะแนน!

เฉลี่ยได้กี่คะแนน 5 / 5. จำนวนโหวต: 1

ยังไม่มีคะแนนโหวต! เป็นคนแรกที่ให้คะแนนโพสต์นี้

จำนวนคอมเมนต์ของโพสต์ ID 1831: 91