รับทำบัญชี.COM | ธุรกิจการตลาดมีอะไรบ้างวิธีสร้างธุรกิจใหม่?

Click to rate this post!
[Total: 17 Average: 5]

แผนธุรกิจการตลาด

การเริ่มต้นธุรกิจการตลาดเป็นกระบวนการที่คุณต้องวางแผนและดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อให้การตลาดของคุณมีประสิทธิภาพและสามารถเป็นประสบการณ์ที่เติบโตได้อย่างเร็ว นี่คือขั้นตอนเบื้องต้นในการเริ่มต้นธุรกิจการตลาด

  1. วางแผนธุรกิจการตลาด (Market Business Plan) กำหนดเป้าหมายของธุรกิจการตลาดของคุณ รวมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดที่คุณจะนำเสนอ รวมถึงกลยุทธ์ทางการเงิน และการกำหนดแผนการดำเนินธุรกิจ
  2. ศึกษาตลาดและคู่แข่งค้า (Market Research and Competition Analysis) ศึกษาตลาดและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายของคุณ รวมถึงการวิเคราะห์คู่แข่งค้าที่มีอยู่ในตลาด เพื่อทราบข้อแข็งและอ่อนของคู่แข่งค้า
  3. กำหนดกลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) สร้างกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ รวมถึงวิธีการสร้างแบรนด์ โฆษณา และการสื่อสารกับลูกค้า
  4. การเลือกช่องทางการตลาด (Channel Selection) เลือกช่องทางการตลาดที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ เช่น การขายออนไลน์ การจัดทำร้านค้าสาขา หรือการทำธุรกิจผ่านตัวแทนจำหน่าย
  5. การสร้างและการแปลงผู้ซื้อ (Lead Generation and Conversion) สร้างกลยุทธ์เพื่อดึงดูดและเก็บข้อมูลผู้สนใจ (ลีด) และแปลงเขาเป็นลูกค้าจริง
  6. การสร้างแบรนด์และโฆษณา (Branding and Advertising) สร้างแบรนด์ที่เต็มเติมความรู้สึกและคุณค่าให้กับผู้บริโภค และวางแผนโฆษณาเพื่อสร้างความรู้จักกับธุรกิจของคุณ
  7. การวิเคราะห์และปรับปรุง (Analysis and Optimization) วิเคราะห์ผลการตลาดของคุณและปรับปรุงกลยุทธ์ตามความสำเร็จและข้อผิดพลาด
  8. การติดตามและวัดผล (Tracking and Measuring) ติดตามและวัดผลการตลาดเพื่อให้คุณเข้าใจว่ากลยุทธ์ที่คุณนำมาใช้มีประสิทธิภาพหรือไม่

การเริ่มต้นธุรกิจการตลาดต้องการความรอบคอบและการวางแผนที่ดี เพื่อให้คุณสามารถสร้างธุรกิจที่เป็นที่ยอมรับในตลาดและเติบโตได้อย่างเร็วและมั่นคง

ตารางรายรับรายจ่าย ตัวอย่างบัญชี ธุรกิจการตลาด

นี่คือตัวอย่างของตารางเปรียบเทียบรายรับและรายจ่ายในธุรกิจการตลาด

รายการ รายรับ (บาท) รายจ่าย (บาท)
การคิดค้นและวางแผนกลยุทธ์การตลาด 50,000
การวิจัยตลาดและการเรียนรู้จากคู่แข่งค้า 10,000
การสร้างและพัฒนาแบรนด์ 20,000
โฆษณาและการตลาดออนไลน์ 30,000
การจัดทำโปรโมชั่นและส่วนลด 5,000
ค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ 8,000
ค่าใช้จ่ายในการจ้างงานเจ้าหน้าที่ 15,000
ค่าเช่าสำนักงานและอุปกรณ์ 7,000
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและพรมแดนต์ 3,000
ค่าใช้จ่ายสำหรับการฝึกอบรมและพัฒนา 4,000
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 5,000
รวมรายรับ 155,000
รวมรายจ่าย 5,000
กำไรสุทธิ 150,000

โปรดทราบว่าตารางนี้เป็นตัวอย่างเพียงแบบหนึ่ง และคุณอาจต้องปรับแต่งตามธุรกิจและสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนั้นของคุณ การรวมรายรับและรายจ่ายจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของธุรกิจการตลาดของคุณและวางแผนในการจัดการทางการเงินในระยะยาว

อาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจการตลาด

ธุรกิจการตลาดเป็นอาชีพที่เชื่อมโยงกับหลายอาชีพและสาขางานที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและดำเนินการในด้านการตลาดและโฆษณา นี่คืออาชีพที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการตลาด

  1. ผู้จัดการการตลาด (Marketing Manager) ควบคุมและบริหารงานการตลาดทั้งหมด รวมถึงวางแผนกลยุทธ์การตลาดและควบคุมงบประมาณ
  2. ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ (Brand Specialist) พัฒนาและบริหารจัดการกับแบรนด์เพื่อสร้างความจำ impression และความคุ้นเคยในตลาด
  3. ผู้เชี่ยวชาญด้านการโฆษณา (Advertising Specialist) วางแผนและดำเนินการโครงการโฆษณา รวมถึงการสร้างแนวคิดโฆษณาและการเลือกช่องทางโฆษณา
  4. ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing Specialist) พัฒนาและดำเนินกิจกรรมการตลาดออนไลน์เช่น SEO, SEM, โซเชียลมีเดีย และอีเมล์มาร์เก็ตติ้ง
  5. นักวิเคราะห์การตลาด (Market Analyst) วิเคราะห์ข้อมูลตลาดและข้อมูลลูกค้าเพื่อให้ข้อมูลและข้อเสนอแนะในการดำเนินกิจกรรมตลาด
  6. นักการตลาดอีเวนต์ (Event Marketer) วางแผนและจัดการกิจกรรมและอีเวนต์ที่เกี่ยวข้องกับการตลาด เช่น งานแสดงสินค้า กิจกรรมโปรโมชั่น
  7. เว็บมาสเตอร์ (Webmaster) ดูแลและจัดการเว็บไซต์ของบริษัทหรือองค์กร เพื่อให้ข้อมูลและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตลาด
  8. ผู้บริหารสื่อสารองค์กร (Corporate Communications Manager) จัดการกิจกรรมสื่อสารองค์กรทั้งภายในและภายนอกเพื่อสร้างความเข้าใจและความน่าเชื่อถือ
  9. นักเขียนเนื้อหาการตลาด (Marketing Content Writer) สร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการตลาด เช่น บทความบนเว็บไซต์ โพสต์สื่อสังคม และบทความบนบล็อก
  10. นักประชาสัมพันธ์ (Public Relations Specialist) จัดการกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความรู้สึกที่ดีกับสื่อมวลชนและประชาชน

เหล่าอาชีพเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและสร้างความสำเร็จในด้านการตลาดและโฆษณาของธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ ทั้งในลักษณะที่เป็นเอกชนและภาครัฐ

วิเคราะห์ SWOT ธุรกิจการตลาด

การวิเคราะห์ SWOT เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์ปัจจัยภายในและภายนอกที่มีผลต่อธุรกิจการตลาดของคุณ ด้วยการพิจารณาความแข็งแกร่ง (Strengths), ความอ่อนแอ (Weaknesses), โอกาส (Opportunities), และอุปสรรค (Threats) นี่คือวิเคราะห์ SWOT ของธุรกิจการตลาด

ความแข็งแกร่ง (Strengths)

  • ความเชี่ยวชาญในการสร้างและพัฒนาแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
  • ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการตลาดและโฆษณา
  • การใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียเพื่อเสริมสร้างและเชื่อมโยงกับลูกค้า
  • ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณภาพและความสอดคล้องกับความต้องการของตลาด

ความอ่อนแอ (Weaknesses)

  • ขาดทรัพยากรที่เพียงพอในการทำการตลาดในองค์กรขนาดใหญ่
  • ความยากลำบากในการปรับตัวเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาด
  • การบริหารจัดการที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพในการตลาด

โอกาส (Opportunities)

  • การขยายตลาดไปยังภูมิภาคหรือประเทศใหม่
  • การเติบโตของตลาดออนไลน์และการตลาดผ่านโฆษณาออนไลน์
  • การใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อสร้างกลยุทธ์ตลาดที่ปรับตัวมากขึ้น
  • ความเจริญรุ่งเรืองของเศรษฐกิจที่อาจส่งผลในการเพิ่มความต้องการในตลาด

อุปสรรค (Threats)

  • การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากคู่แข่งค้าในตลาด
  • การเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มและความต้องการของลูกค้าที่อาจทำให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณไม่เหมาะสม
  • การเปลี่ยนแปลงในกฎหมายที่อาจมีผลต่อกิจการการตลาด
  • ความเสี่ยงจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

การวิเคราะห์ SWOT จะช่วยให้คุณเข้าใจดีขึ้นเกี่ยวกับแง่มุมต่าง ๆ ของธุรกิจการตลาดของคุณ และช่วยในการวางแผนกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถใช้ความแข็งแกร่งในการนำมาใช้กับโอกาส และรับมือกับอุปสรรคในตลาดอย่างเหมาะสม

คําศัพท์พื้นฐาน ธุรกิจการตลาด ที่ควรรู้

  1. Target Audience (กลุ่มเป้าหมาย) กลุ่มคนที่เป็นเป้าหมายของการตลาด คือผู้ที่คาดหวังว่าจะกลายเป็นลูกค้าหรือผู้ใช้บริการของธุรกิจของคุณ
  2. Market Segmentation (การแบ่งกลุ่มตลาด) กระบวนการแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็นกลุ่มย่อยๆ ที่มีคุณสมบัติหรือความต้องการที่คล้ายคลึงกัน เพื่อให้การตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  3. Brand Identity (เอกลักษณ์แบรนด์) คุณลักษณะที่แยกแยะและระบุแบรนด์ของธุรกิจของคุณ เช่น โลโก้ สี และแบบอักษร
  4. Marketing Campaign (แคมเปญการตลาด) กิจกรรมการตลาดที่วางแผนและดำเนินการในเวลาหนึ่งเพื่อสร้างความตระหนักและเพิ่มยอดขาย
  5. Call to Action (คำเรียกเชิญ) ข้อความหรือสิ่งที่สร้างแรงจูงใจให้กับผู้รับบริการเพื่อกระตุ้นให้พวกเขาดำเนินการ เช่น สั่งซื้อสินค้า สมัครสมาชิก เป็นต้น
  6. Market Research (การวิจัยตลาด) กระบวนการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้า
  7. SWOT Analysis (การวิเคราะห์ SWOT) กระบวนการวิเคราะห์ความแข็งแกร่ง (Strengths) ความอ่อนแอ (Weaknesses) โอกาส (Opportunities) และอุปสรรค (Threats) ของธุรกิจ
  8. Conversion Rate (อัตราการแปลง) สัดส่วนของลูกค้าหรือผู้ที่ดำเนินการตามคำเรียกเชิญในการตลาด เช่น การซื้อสินค้าหรือลงทะเบียน
  9. Market Trend (แนวโน้มตลาด) แนวทางที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในความต้องการของลูกค้า แนวโน้มของโครงสร้างตลาด หรือเหตุการณ์ที่มีผลต่อการตลาด
  10. Competitive Analysis (การวิเคราะห์คู่แข่งค้า) การศึกษาและวิเคราะห์คู่แข่งค้าในตลาดเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งและอ่อนแอของตนเองในสถานการณ์การแข่งขัน

ธุรกิจ การตลาด ต้อง จดทะเบียนบริษัท หรือไม่

ธุรกิจการตลาดในประเทศไทยอาจต้องจดทะเบียนและได้แก่

  1. จดทะเบียนนิติบุคคล (Company Registration) หากคุณต้องการเป็นนิติบุคคลเพื่อดำเนินกิจการการตลาดในรูปแบบของบริษัท คุณจำเป็นต้องจดทะเบียนบริษัทที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระหว่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์
  2. การลงทะเบียนเพื่อทำธุรกิจ (Business Registration) หากคุณต้องการเป็นผู้ประกอบการเดี่ยวหรือนิติบุคคลที่ไม่จำเป็นต้องมีนิติบุคคล คุณจะต้องลงทะเบียนเพื่อทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการตลาดที่สำนักงานพาณิชย์ในพื้นที่ของคุณ
  3. การขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ (Business License) บางกรณีคุณอาจต้องขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจเฉพาะกับกิจกรรมการตลาดที่คุณจะดำเนินการ เช่น การจัดงานแสดงสินค้าหรืออีเวนต์
  4. การลงทะเบียนเป็นผู้เสียภาษี (Tax Registration) คุณจำเป็นต้องลงทะเบียนเพื่อขอหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเมื่อคุณต้องการออกใบกำกับภาษีหรือสร้างรายได้จากกิจการการตลาด

โดยอย่างรวมแล้ว ความต้องการทางกฎหมายสำหรับการจดทะเบียนธุรกิจการตลาดอาจแตกต่างกันไปตามลักษณะของธุรกิจและประเทศที่คุณกำลังดำเนินกิจกรรม ควรตรวจสอบกฎหมายและข้อกำหนดท้องถิ่นเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่คุณต้องการดำเนินธุรกิจการตลาด

บริษัท ธุรกิจการตลาด เสียภาษีอย่างไร

ธุรกิจการตลาดอาจมีการเสียภาษีต่างๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจและกฎหมายในประเทศที่คุณดำเนินกิจกรรม ต่อไปนี้คือบางประเภทของภาษีที่อาจมีผลกับธุรกิจการตลาด

  1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax) หากคุณเป็นบุคคลธรรมดาและมีรายได้จากกิจกรรมการตลาด เช่น รายได้จากการทำงานอิสระหรืออื่น ๆ คุณอาจต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามอัตราภาษีที่ถูกกำหนดในประเทศของคุณ
  2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax, VAT) บางประเภทของการตลาดอาจต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อขายสินค้าหรือบริการ ภาษี VAT อัตราต่าง ๆ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอาจแตกต่างกันไปตามประเทศ
  3. ภาษีธุรกิจ (Business Tax) บางประเภทของธุรกิจการตลาดอาจต้องเสียภาษีธุรกิจตามกฎหมายท้องถิ่นหรือประเทศ ภาษีธุรกิจอาจเป็นค่าธรรมเนียมสำหรับการดำเนินกิจการที่กำหนดโดยรัฐบาล
  4. ภาษีอื่น ๆ ธุรกิจการตลาดอาจเสียภาษีอื่น ๆ อาทิเช่น อากรขาออก หรืออื่น ๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจและกฎหมายในประเทศของคุณ

ควรทราบว่าประเภทและอัตราภาษีที่ต้องเสียอาจแตกต่างกันไปตามประเทศและพื้นที่ คุณควรพิจารณาการปรึกษากับทนายความหรือที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเสียภาษีสำหรับธุรกิจการตลาดของคุณ

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )