รับทำบัญชี.COM | แฟรนไชส์กาแฟสด ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ลงทุน?

แผนธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์

การเริ่มธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์ต้องผ่านขั้นตอนหลายขั้นตอนเพื่อให้คุณมีความเตรียมพร้อมและสามารถดำเนินธุรกิจไปในทิศทางที่ถูกต้องได้ ดังนี้คือขั้นตอนเบื้องต้นในการเริ่มธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์

  1. การศึกษาและวิจัยตลาด เริ่มต้นด้วยการศึกษาและวิจัยตลาดเพื่อเข้าใจความต้องการของลูกค้าในพื้นที่ที่คุณต้องการเปิดร้านกาแฟ วิเคราะห์การแข่งขันและโอกาสในตลาดเช่นกัน รู้จักกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เช่น ว่าเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือคนทำงานออฟฟิศ

  2. การเลือกแบรนด์และแฟรนไชส์ เลือกแบรนด์และแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับแนวความคิดและรูปแบบธุรกิจของคุณ ตรวจสอบว่าแฟรนไชส์มีความเสถียรและมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างไรบ้าง

  3. การศึกษาและเรียนรู้ เข้าร่วมคอร์สอบรมหรือฝึกอบรมจากแฟรนไชส์เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการเตรียมความพร้อมในด้านการจัดการร้านค้าและการบริหารงาน

  4. การเลือกตำแหน่งที่ตั้ง การเลือกตำแหน่งที่ตั้งเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากจะมีผลต่อการเข้าถึงลูกค้าและผู้มาใช้บริการ คิดให้รอบคอบเรื่องการจราจร การเดินทาง และศึกษาเรื่องการเช่าพื้นที่

  5. การวางแผนการเงิน วางแผนงบประมาณเพื่อประมาณการค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเช่าพื้นที่ เงินเดือนพนักงาน วัสดุอุปกรณ์ เป็นต้น คำนวณราคาขายสินค้าและบริการเพื่อให้ได้กำไรตามเป้าหมาย

  6. การจัดหาอุปกรณ์และวัสดุ จัดหาอุปกรณ์และวัสดุที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ เช่น เครื่องชงกาแฟ เครื่องประดับแก้ว เฟอร์นิเจอร์ วัสดุปรุงสำหรับเมนูอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ

  7. การตรวจสอบกฎหมายและการรับรอง ตรวจสอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเปิดกาแฟแฟรนไชส์ในพื้นที่ของคุณ เช่น การขอใบอนุญาตทางธุรกิจ การปฏิบัติตามมาตรฐานคุณภาพอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น

  8. การสร้างแผนการตลาด วางแผนกิจกรรมทางการตลาดเพื่อโปรโมตธุรกิจของคุณ เช่น การใช้สื่อโฆษณา การใช้โซเชียลมีเดีย และกิจกรรมโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า

  9. การเริ่มต้นดำเนินธุรกิจ เมื่อคุณเตรียมพร้อมทุกสิ่ง คุณสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจได้ ระหว่างการดำเนินธุรกิจ ควรทำการติดตามและปรับปรุงการดำเนินงานอยู่เสมอ

การเริ่มต้นธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์จะต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจไปอย่างประสบความสำเร็จได้อย่างมีความมั่นใจและสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าของคุณได้

ตารางรายรับรายจ่าย ตัวอย่างบัญชี ธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์

ตัวอย่างของตารางเปรียบเทียบรายรับและรายจ่ายสำหรับธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์

รายการ รายรับ (บาท) รายจ่าย (บาท)
รายรับสุทธิ ช่วงระดับ  
– ยอดขายเครื่องดื่ม ระบุ  
– บริการอาหารและเครื่องดื่ม ระบุ  
รายรับรวม ระบุ  
     
รายจ่ายสุทธิ    
– ค่าเช่าพื้นที่   ระบุ
– ค่าเช่าอุปกรณ์และเครื่องมือ   ระบุ
– เงินเดือนพนักงาน   ระบุ
– ค่าส่วนแบ่งแฟรนไชส์   ระบุ
– ค่าโฆษณาและการตลาด   ระบุ
– ค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ   ระบุ
– ค่าสินค้าและวัตถุดิบ   ระบุ
รายจ่ายรวม   ระบุ
     
กำไรสุทธิ (รายรับ – รายจ่าย)    

กรุณาจำไว้ว่าข้อมูลในตารางนี้เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้น การดำเนินธุรกิจจริงๆ จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของธุรกิจ สถานที่ตั้ง ความเสี่ยง และสภาพเศรษฐกิจที่มีผลต่อผลประกอบการของคุณ

อาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์

การดำเนินธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์เป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับหลายด้านและอาชีพต่างๆ ดังนี้

  1. ผู้ประกอบการหรือเจ้าของกาแฟแฟรนไชส์ คุณจะเป็นผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์ ซึ่งต้องดูแลการดำเนินงานทั้งหมด เช่น การจัดการพื้นที่ เลือกแบรนด์ เช่นสตาร์บัคส์ ดังกล่าว และปรับปรุงกระบวนการทำงานต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง

  2. บาริสต้าหรือบาริสต้าส่วนใหญ่ พนักงานที่ให้บริการกับลูกค้าในร้านกาแฟ ประกอบด้วยการชงกาแฟ และเติมเครื่องดื่มอื่นๆ ให้กับลูกค้า พวกเขาต้องมีความรู้เกี่ยวกับกาแฟและการบริการลูกค้า

  3. พนักงานบริการลูกค้า ความพอใจของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นพนักงานบริการลูกค้าจะต้องช่วยให้ลูกค้ารู้สึกอุ่นใจและพอใจกับการเข้าร้าน และให้ข้อมูลเกี่ยวกับเมนูและสินค้า

  4. พนักงานทำอาหารและเครื่องดื่ม คนที่เกี่ยวข้องในการเตรียมอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ที่จะให้กับลูกค้า พวกเขาต้องมีความชำนาญในการปรุงอาหารและเครื่องดื่มที่คุณภาพ

  5. ผู้จัดการบริหารและบุคคล สำหรับกาแฟแฟรนไชส์ขนาดใหญ่ อาจจำเป็นต้องมีผู้จัดการบริหารและบุคคลที่เฝ้าดูแลการจัดการบุคคล การฝึกอบรม และการเงิน

  6. ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด เพื่อให้กาแฟแฟรนไชส์มีการโปรโมตและการตลาดที่เหมาะสม คุณอาจจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดในทีม เพื่อช่วยในการสร้างยอดขายและกำลังซื้อ

  7. ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและบัญชี สำหรับการจัดการเรื่องการเงินและบัญชี คุณอาจจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและบัญชีเพื่อช่วยในการวางแผนงบประมาณและการบัญชีรายรับรายจ่าย

อาชีพที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์สามารถหลายสายงาน และต้องการความคุณสมบัติและทักษะที่แตกต่างกันเพื่อให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรืองและสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

วิเคราะห์ SWOT ธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์

การวิเคราะห์ SWOT เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณทำความเข้าใจถึงจุดแข็ง (Strengths), จุดอ่อน (Weaknesses), โอกาส (Opportunities), และอุปสรรค (Threats) ของธุรกิจของคุณ เพื่อใช้ในการวางแผนการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้คือการวิเคราะห์ SWOT ของธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์

จุดแข็ง (Strengths)

  • แบรนด์ที่รู้จักและเชื่อมั่น ถ้าคุณได้เลือกแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงและแบรนด์ที่นับถือ คุณจะมีความเปรียบเสมอในตลาดและการแข่งขัน
  • การสนับสนุนและคำแนะนำจากแฟรนไชส์ แฟรนไชส์อาจมีการส่งเสริมและคำแนะนำในด้านต่างๆ เช่น การจัดการ, การตลาด, และการบริหารทั้งหมด
  • กระบวนการทำงานมาตรฐาน แฟรนไชส์มักจะมีกระบวนการทำงานและคู่มือที่เข้าใจง่ายที่ช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปได้อย่างมีความเสถียรและมีประสิทธิภาพ

จุดอ่อน (Weaknesses)

  • ค่าใช้จ่ายสูง การเริ่มต้นในธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์อาจมีค่าใช้จ่ายสูง เช่น ค่าเช่าพื้นที่, ค่าเช่าอุปกรณ์ และค่าส่วนแบ่งแฟรนไชส์
  • ความเชื่อมั่นต่ำในการตัดสินใจ การดำเนินธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์เป็นการรับผิดชอบในการตัดสินใจและการจัดการเรื่องต่างๆ ที่อาจทำให้คุณรู้สึกไม่มั่นใจ
  • ความหวังว่าการดำเนินธุรกิจจะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว การบริหารธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์อาจต้องใช้เวลาในการสร้างลูกค้าและกำไร การคาดหวังว่าคุณจะได้ผลกำไรในเวลาสั้นๆ อาจทำให้รู้สึกผิดหวัง

โอกาส (Opportunities)

  • ตลาดเพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมกาแฟยังคงเติบโต โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจในการลองชิมกาแฟและประสบการณ์ใหม่ๆ
  • การขยายกิจการ คุณสามารถเพิ่มสาขาอื่นๆ หรือเปิดร้านใหม่ในพื้นที่ที่มีโอกาสทางธุรกิจได้ ทำให้คุณสามารถเพิ่มรายได้และความเจริญรุ่งเรือง
  • การพัฒนาเมนูและการสร้างประสบการณ์ใหม่ คุณสามารถพัฒนาเมนูใหม่, การบริการลูกค้า, หรือประสบการณ์ในร้านเพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างความพึงพอใจ

อุปสรรค (Threats)

  • การแข่งขันที่สูง ตลาดกาแฟแฟรนไชส์มีการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้คุณต้องหาวิธีเดิมพันในการเหลือแหละ
  • สภาพเศรษฐกิจ สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนอาจมีผลต่อการใช้จ่ายของลูกค้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของคุณ
  • ความเปลี่ยนแปลงในความต้องการของลูกค้า ความเปลี่ยนแปลงในรสชาติและความต้องการของลูกค้าอาจทำให้คุณต้องปรับเปลี่ยนเมนูและกลยุทธ์การตลาด

การวิเคราะห์ SWOT จะช่วยให้คุณเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อธุรกิจของคุณ และช่วยในการกำหนดกลยุทธ์และแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตให้เหมาะสมและมีความสำเร็จ

คําศัพท์พื้นฐาน ธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์ ที่ควรรู้

  1. บาริสต้า (Barista) – Barista คือ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการชงและเตรียมกาแฟ พวกเขาดูแลกระบวนการทำกาแฟต่างๆ และนำเสนอเครื่องดื่มกาแฟให้กับลูกค้า.

  2. เมนู (Menu) – เมนูเป็นรายการอาหารและเครื่องดื่มที่กาแฟแฟรนไชส์นำเสนอให้แก่ลูกค้า ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับราคาและคำอธิบายของสินค้า.

  3. ลาตเท (Latte) – ลาตเทเป็นเครื่องดื่มกาแฟที่ประกอบด้วยกาแฟเอสเพรสโซแฟรนช์และนมร้อน เมื่อชงกาแฟบนไอเอสเพรสโซแฟรนช์และใส่นมร้อนลงไป.

  4. อีสเพรสโซ (Espresso) – อีสเพรสโซเป็นกาแฟที่ชงด้วยการส่งน้ำร้อนผ่านกาแฟเมล็ดที่ถูกบดละเอียดมาก ส่วนหนึ่งของกระบวนการทำกาแฟหลังการบดเมล็ดคือการอัดแท่งกาแฟที่เกิดขึ้น.

  5. เครื่องชงกาแฟ (Coffee Machine) – เครื่องชงกาแฟเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการชงกาแฟ มีหลายรูปแบบเช่นเครื่องชงแบบอัตโนมัติและเครื่องชงแบบมือ.

  6. นมเรซิง (Milk Frothing) – การทำนมเรซิงคือกระบวนการที่ใช้นมให้มีฟองนมโดยใช้เครื่องชงกาแฟหรือเครื่องทำนมเรซิง.

  7. ร้านสาขา (Branch) – ร้านสาขาคือสถานที่สองของกาแฟแฟรนไชส์ที่เปิดในพื้นที่ที่แตกต่างจากร้านหลัก เช่น สาขาในห้างสรรพสินค้า.

  8. เมล็ดกาแฟ (Coffee Beans) – เมล็ดกาแฟเป็นเมล็ดพืชของพืชกาแฟ ที่ใช้ในกระบวนการชงกาแฟ เมล็ดกาแฟมีความสำคัญต่อคุณภาพและรสชาติของกาแฟ.

  9. เมล็ดกาแฟชั่งน้ำหนัก (Single-Origin Coffee Beans) – เมล็ดกาแฟชั่งน้ำหนักคือเมล็ดกาแฟที่มาจากพื้นที่เดียวกัน เช่น ประเทศหรือภูมิภาคเฉพาะ.

  10. บาริสต้าเมนู (Barista Menu) – บาริสต้าเมนูเป็นรายการเครื่องดื่มที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบาริสต้าหรือทีมคนในร้านเฉพาะสำหรับการโปรโมตและให้ประสบการณ์ที่สนุกสนานและพิเศษกับลูกค้า.

ธุรกิจ กาแฟแฟรนไชส์ ต้อง จดทะเบียนบริษัท หรือไม่

การจดทะเบียนธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์จะขึ้นอยู่กับกฎหมายและข้อกำหนดของแต่ละประเทศ และสถานที่ต่างๆ อย่างไรก็ตาม นี่คือบางข้อที่คุณอาจต้องจดทะเบียนเมื่อคุณต้องการเริ่มต้นธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์

  1. การจดทะเบียนพาณิชย์ คุณจะต้องจดทะเบียนพาณิชย์เพื่อให้ธุรกิจของคุณเป็นนิติบุคคลที่ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ การจดทะเบียนพาณิชย์ยังช่วยให้คุณมีสิทธิ์และความคุ้มครองในการดำเนินกิจการในชื่อธุรกิจของคุณ

  2. การรับอนุญาตทางธุรกิจ บางประเทศหรือพื้นที่อาจกำหนดให้ธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์ได้รับอนุญาตหรือใบอนุญาตเฉพาะ ก่อนที่คุณจะเริ่มดำเนินธุรกิจ คุณควรตรวจสอบกฎระเบียบและข้อกำหนดดังกล่าว

  3. ใบอนุญาตการขายอาหารและเครื่องดื่ม หากธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์ของคุณจะมีการบริการอาหารและเครื่องดื่ม คุณอาจต้องขอใบอนุญาตการขายอาหารและเครื่องดื่มจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจของคุณปฏิบัติตามข้อกำหนดสุขอนามัยและความปลอดภัย

  4. สิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญา หากคุณเลือกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์กาแฟแฟรนไชส์ที่มีสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ชื่อและโลโก้ คุณอาจต้องจดทะเบียนสิทธิบัตรทางปัญญาเพื่อปกป้องและคุ้มครองสิทธิ์ในการใช้ชื่อและสัญลักษณ์ของแบรนด์

  5. การจดทะเบียนทางภาษี คุณจะต้องลงทะเบียนทางภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือภาษีเงินได้ เพื่อให้คุณสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดภาษีและส่งเงินภาษีได้อย่างถูกต้อง

  6. สัญญากับแฟรนไชส์ หากคุณต้องการเปิดธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์ คุณจะต้องทำสัญญากับแฟรนไชส์นั้น เพื่อความเข้าใจและตกลงกันในเรื่องของสิทธิ์และความรับผิดชอบ

คำแนะนำที่ดีคือควรปรึกษากับทนายความหรือผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายท้องถิ่นเพื่อรับคำแนะนำและคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงสำหรับธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์ของคุณในพื้นที่ที่คุณต้องการดำเนินกิจการ.

บริษัท ธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์ เสียภาษีอย่างไร

ธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์อาจมีการเสียภาษีหลายประเภท ซึ่งขึ้นอยู่กับกฎหมายและข้อกำหนดทางภาษีของแต่ละประเทศ ต่อไปนี้เป็นบางประเภทของภาษีที่ธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์อาจต้องเสีย

  1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือภาษีขาย ภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีขายอาจถูกเสียในกรณีที่ธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์ขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้า ภาษีนี้จะเรียกเก็บจากผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าหรือบริการ และต้องส่งให้หน่วยงานภาษี

  2. ภาษีเงินได้ ธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์อาจต้องเสียภาษีเงินได้ตามกฎหมายท้องถิ่นหรือประเทศ ภาษีเงินได้จะคำนวณจากรายได้ของธุรกิจหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าใช้จ่ายที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย

  3. ภาษีที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ หากคุณเป็นเจ้าของพื้นที่หรืออสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในธุรกิจกาแฟแฟรนไชส์ เช่น ร้านหรือสถานที่สำหรับการขาย คุณอาจต้องเสียภาษีที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมายท้องถิ่น

  4. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจในรูปแบบของบุคคลธรรมดา คุณอาจต้องเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคลตามกฎหมายท้องถิ่นหรือประเทศ

  5. ภาษีอื่นๆ นอกเหนือจากภาษีที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังอาจมีภาษีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เช่น ภาษีหัก ณ ที่จ่าย หรือภาษีอื่นๆ ตามกฎหมายท้องถิ่น

ควรปรึกษากับทนายความหรือผู้เชี่ยวชาญด้านทางภาษีเพื่อให้คำแนะนำและคำแนะนำเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับภาษีที่คุณจะต้องเสียในประเทศหรือพื้นที่ที่คุณกำลังดำเนินธุรกิจ.

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )