รับทำบัญชี.COM | ของออนไลน์เริ่มต้นสต๊อคสินค้ายังไงคนซื้อ?

แผนธุรกิจของออนไลน์

การเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์เริ่มต้นด้วยขั้นตอนเบื้องต้นที่ช่วยให้คุณก้าวตามรอยธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ ต่อไปนี้คือขั้นตอนเบื้องต้นในการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์

  1. แนวคิดธุรกิจ
    • กำหนดแนวคิดธุรกิจของคุณ คุณควรรู้ว่าคุณจะขายสินค้าหรือบริการอะไร, ใครเป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณ, และวิธีการที่คุณจะตอบสนองความต้องการของลูกค้า
  2. ศึกษาตลาด
    • ศึกษาตลาดของคุณเพื่อเข้าใจความต้องการและการแข่งขันในกลุ่มธุรกิจของคุณ
  3. สร้างแบบแผนธุรกิจ
    • สร้างแผนธุรกิจที่รวมถึงกลยุทธ์การตลาด, โครงสร้างธุรกิจ, การเงิน, และแผนการดำเนินธุรกิจ
  4. เลือกชื่อธุรกิจและโดเมนเนม
    • เลือกชื่อธุรกิจที่สื่อความหมายและยาวนาน และตรวจสอบความพร้อมใช้งานของโดเมนเนมที่คุณต้องการ
  5. จดทะเบียนธุรกิจ
    • จดทะเบียนธุรกิจของคุณตามกฎหมายในประเทศหรือรัฐที่คุณต้องการดำเนินธุรกิจ
  6. สร้างเว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์
    • สร้างเว็บไซต์หรือใช้แพลตฟอร์มการขายออนไลน์ เช่น Shopify, WooCommerce, หรือ Etsy เพื่อเปิดร้านค้าออนไลน์ของคุณ
  7. การตลาดออนไลน์
    • พัฒนากลยุทธ์การตลาดออนไลน์ เริ่มต้นจากการสร้างเนื้อหามีคุณค่า, การใช้โซเชียลมีเดีย, การทำ SEO, และการโฆษณาออนไลน์
  8. ระบบการชำระเงิน
    • ติดตั้งระบบการชำระเงินออนไลน์ที่สะดวกสบายสำหรับลูกค้า เช่น PayPal, Stripe, หรือ Square
  9. การจัดส่งและการบริการลูกค้า
    • สร้างกระบวนการการจัดส่งสินค้าและบริการลูกค้าที่มีคุณภาพ
  10. การตรวจสอบและปรับปรุง
    • ตรวจสอบผลการดำเนินงานของธุรกิจของคุณและปรับปรุงตามความต้องการและข้อแนะนำจากลูกค้า
  11. เริ่มต้นดำเนินธุรกิจ
    • เมื่อทุกอย่างพร้อม, คุณสามารถเริ่มต้นดำเนินธุรกิจของคุณออนไลน์ และต้องรักษาการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
  12. การติดตามและวัดผล
    • ติดตามการประสบความสำเร็จและวัดผลด้วยตัวชี้วัดเชิงธุรกิจ เพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพ

ขั้นตอนเหล่านี้เป็นขั้นตอนเบื้องต้นในการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ แต่จะต้องมีความพร้อมในการลงทุนเวลาและแรงงานเพื่อสร้างธุรกิจที่เริ่มมีรายได้และก้าวสู่ความเจริญรุ่งเรืองของธุรกิจของคุณในอนาคต

ตารางรายรับรายจ่าย ตัวอย่างบัญชี ธุรกิจของออนไลน์

นี่คือตัวอย่างรูปแบบของตารางเปรียบเทียบรายรับและรายจ่ายในธุรกิจออนไลน์

รายการ รายรับ (บาท) รายจ่าย (บาท)
รายการสินค้าหรือบริการ รายได้จากการขาย ต้นทุนสินค้า
การตลาดและโฆษณา ค่าโฆษณาและการตลาด
ค่าจ้างพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ เงินเดือนและสวัสดิการของพนักงาน
ค่าเช่าสถานที่หรือโฮสต์เว็บ ค่าเช่าสถานที่หรือโฮสต์เว็บไซต์
ค่าบริการอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์ ค่าบริการอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์
ค่าพัฒนาและดูแลรักษาเว็บไซต์ ค่าผู้พัฒนาและค่าบำรุงรักษาเว็บไซต์
ค่าจัดส่งสินค้า ค่าจัดส่งสินค้า
ค่าใช้จ่ายในการบริหารและธุรกิจ ค่าสาธารณูปโภค
ค่าภาษีและค่าภาษีอื่น ๆ ค่าภาษีอากรและค่าภาษีอื่น ๆ
ส่วนต่างระหว่างรายรับและรายจ่าย รายกำไร (กำไรขาดทุน)

โดยแต่ละธุรกิจออนไลน์จะมีรายรับและรายจ่ายที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจและขนาดของธุรกิจนั้น คุณควรทำการบันทึกรายรับและรายจ่ายของคุณอย่างระมัดระวังเพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบกำไรหรือขาดทุนของธุรกิจของคุณได้ในทุกๆ รอบการดำเนินธุรกิจ การเปรียบเทียบรายรับและรายจ่ายช่วยให้คุณมีภาพรวมของสถานะการเงินของธุรกิจของคุณและช่วยในการตัดสินใจทางการเงินในอนาคต

อาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจของออนไลน์

ธุรกิจออนไลน์มีความหลากหลายและเกี่ยวข้องกับหลายอาชีพ ดังนั้นนี่คืออาชีพที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจออนไลน์บางส่วน

  1. ผู้ประกอบการออนไลน์ (Online Entrepreneur)
    • ผู้ประกอบการออนไลน์คือคนที่สร้างและจัดการธุรกิจออนไลน์ของตัวเอง ซึ่งอาจเป็นการขายสินค้าหรือบริการ, การสร้างเว็บไซต์, การพัฒนาแอปพลิเคชัน, หรือการสร้างธุรกิจออนไลน์ในหลายๆ ด้าน
  2. นักการตลาดออนไลน์ (Digital Marketer)
    • นักการตลาดออนไลน์คือคนที่ใช้เทคนิคการตลาดออนไลน์เพื่อโปรโมตธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ของคุณ งานที่เกี่ยวข้องอาจรวมถึงการใช้โซเชียลมีเดีย, SEO, การทำโฆษณาออนไลน์, และการจัดการแคมเปญการตลาด
  3. นักพัฒนาเว็บ (Web Developer)
    • นักพัฒนาเว็บเป็นคนที่สร้างและพัฒนาเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือโปรแกรมบนอินเตอร์เน็ต เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลหรือบริการออนไลน์ได้
  4. นักออกแบบกราฟิก (Graphic Designer)
    • นักออกแบบกราฟิกจัดทำภาพประกอบ, โลโก้, แบรนด์, และสื่อสิ่งพิมพ์และดิจิทัลสำหรับธุรกิจออนไลน์
  5. นักพัฒนาแอปพลิเคชัน (App Developer)
    • นักพัฒนาแอปพลิเคชันคือคนที่สร้างและพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือหรือแอปพลิเคชันเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการหรือโปรแกรมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  6. นักการธนาคารออนไลน์ (Online Banking Specialist)
    • นักการธนาคารออนไลน์เป็นคนที่ทำงานในอุตสาหกรรมการเงินออนไลน์ ซึ่งอาจรวมถึงการบริการลูกค้า, การควบคุมความปลอดภัย, และการพัฒนาแพลตฟอร์มการธนาคารออนไลน์
  7. นักการเรียนออนไลน์ (Online Educator)
    • นักการเรียนออนไลน์สร้างและจัดการหลักสูตรการเรียนออนไลน์ เช่น การสอนออนไลน์, คอร์สออนไลน์, หรือการเรียนรู้แบบระยะไกล
  8. นักเขียนเนื้อหา (Content Writer)
    • นักเขียนเนื้อหาสร้างเนื้อหาสำหรับเว็บไซต์, บล็อก, แบบสอบถาม, และสื่อออนไลน์อื่น ๆ เพื่อสร้างความนิยมและเชื่อมโยงกับผู้อ่าน
  9. นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst)
    • นักวิเคราะห์ข้อมูลทำการวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์เพื่อให้ข้อมูลและความสรุปที่สำคัญสำหรับการตัดสินใจทางธุรกิจ
  10. ผู้บริหารออนไลน์ (Online Manager)
    • ผู้บริหารออนไลน์คือคนที่ดูแลและจัดการกิจกรรมออนไลน์ของธุรกิจ เช่น การจัดการโซเชียลมีเดีย, การตลาดออนไลน์, และการบริหารระบบเว็บไซต์

ธุรกิจออนไลน์เปิดโอกาสให้คุณสร้างอาชีพและธุรกิจในหลายด้านและสามารถปรับปรุงทักษะของคุณในหลายอาชีพในโลกออนไลน์ได้ในทุกๆ วัน

วิเคราะห์ SWOT ธุรกิจของออนไลน์

การวิเคราะห์ SWOT เป็นกระบวนการที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณทราบจุดแข็ง (Strengths), จุดอ่อน (Weaknesses), โอกาส (Opportunities), และอุปสรรค (Threats) ซึ่งจะช่วยในการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจและการตัดสินใจทางกลยุทธ์ในอนาคต นี่คือการวิเคราะห์ SWOT สำหรับธุรกิจออนไลน์

จุดแข็ง (Strengths)

  1. ความสามารถในการเพิ่มความสะดวกสบาย การให้บริการหรือขายสินค้าออนไลน์ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและช้อปปิ้งได้สะดวกขึ้นทุกที่ทุกเวลา
  2. รูปแบบทางการตลาด การใช้โซเชียลมีเดียและโฆษณาออนไลน์ช่วยให้คุณเรียกดูลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ
  3. การติดต่อและการบริการลูกค้า สามารถให้บริการและสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายและรวดเร็ว
  4. การประหยัดค่าใช้จ่าย การดำเนินธุรกิจออนไลน์บางส่วนมีค่าใช้จ่ายในด้านการดำเนินธุรกิจที่ต่ำกว่าธุรกิจแบบร้านค้าทางดิจิทัล
  5. การบริหารสต็อกและข้อมูล ความสามารถในการจัดการสต็อกสินค้าและการรวบรวมข้อมูลลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ

จุดอ่อน (Weaknesses)

  1. ความขาดแคลนในการสื่อสารและการสร้างความไว้วางใจ การที่ลูกค้าไม่สามารถเห็นหรือสัมผัสสินค้าจริง ๆ อาจทำให้ขาดความไว้วางใจในการซื้อสินค้าออนไลน์
  2. ความพึงพอใจของลูกค้า ความพึงพอใจของลูกค้าสามารถมีผลต่อการรักษาลูกค้าเก่าและสร้างฐานลูกค้าใหม่
  3. ความเสี่ยงในด้านความปลอดภัย ภัยคุกคามออนไลน์และการแฮ็กคอมพิวเตอร์อาจเป็นอุปสรรคต่อการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและการทำธุรกิจออนไลน์
  4. การค้นหาออนไลน์ การให้ความสำคัญกับการทำ SEO (Search Engine Optimization) และการพบความยากในการแข่งขันในการค้นหาออนไลน์
  5. ความจำเป็นในทรัพยากรทางเทคโนโลยี การรักษาระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยและปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยอาจเป็นค่าใช้จ่ายที่สูง

โอกาส (Opportunities)

  1. การขยายธุรกิจออนไลน์ โอกาสในการขยายธุรกิจของคุณเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่และเพิ่มรายได้
  2. การตลาดในสถานที่อื่น การเข้าสู่ตลาดนานาชาติผ่านการขายออนไลน์
  3. ความเป็นไปได้ในการปรับตัว ความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนราคาและรายการสินค้าได้รวดเร็วเมื่อมีความต้องการ
  4. เทรนด์ออนไลน์ การตระหนักถึงเทรนด์ที่กำลังมาและการนำเทรนด์นั้นเข้าสู่ธุรกิจของคุณ
  5. การเพิ่มความหลากหลายในผลิตภัณฑ์หรือบริการ การเพิ่มผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

อุปสรรค (Threats)

  1. การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น การมีผู้แข่งขันใหม่หรือผู้แข่งขันที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอาจทำให้สูญเสียลูกค้าหรือแบ่งแบ่งตลาด
  2. ความเป็นไปได้ในเปิดร้านค้าตัวเดียว บางร้านค้าอาจปิดร้านค้าแบบดั้งเดิมและเริ่มขายออนไลน์
  3. ปัญหาเชิงนโยบาย การเปลี่ยนแปลงในกฎหมายหรือนโยบายการค้าสามารถมีผลกระทบต่อธุรกิจออนไลน์ของคุณ
  4. การคัดค้านออนไลน์ ความคัดค้านหรือการก่อกวนออนไลน์อาจเกิดขึ้นจากผู้ไม่พอใจหรือผู้ใช้ที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์ดี

การวิเคราะห์ SWOT ช่วยให้คุณเข้าใจดีขึ้นเกี่ยวกับสถานะการเงินของธุรกิจของคุณและช่วยในการตัดสินใจที่มีเสถียรภาพเพื่อสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในอนาคต

คําศัพท์พื้นฐาน ธุรกิจของออนไลน์ ที่ควรรู้

  1. เว็บไซต์ (Website)
    • ภาษาไทย เว็บไซต์
    • คำอธิบาย สถานที่ออนไลน์ที่คนเข้าชมได้ผ่านอินเตอร์เน็ต เป็นโครงสร้างหลักสำหรับธุรกิจออนไลน์
  2. การตลาดออนไลน์ (Online Marketing)
    • ภาษาไทย การตลาดออนไลน์
    • คำอธิบาย กิจกรรมการโปรโมตและการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มยอดขายหรือความรู้สึกต่อแบรนด์
  3. เนื้อหา (Content)
    • ภาษาไทย เนื้อหา
    • คำอธิบาย ข้อมูลที่มีความค่าและน่าสนใจที่แบ่งปันในเว็บไซต์ เช่น บทความ, วิดีโอ, และรูปภาพ
  4. ช่องทางการชำระเงิน (Payment Gateway)
    • ภาษาไทย ช่องทางการชำระเงิน
    • คำอธิบาย ระบบที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถชำระเงินออนไลน์สำหรับสินค้าหรือบริการ
  5. การทำ SEO (Search Engine Optimization)
    • ภาษาไทย การปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับการค้นหา
    • คำอธิบาย กิจกรรมเพื่อเพิ่มความนิยมของเว็บไซต์ในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา เช่น Google
  6. โฆษณาออนไลน์ (Online Advertising)
    • ภาษาไทย โฆษณาออนไลน์
    • คำอธิบาย การโปรโมตผ่านโฆษณาบนอินเตอร์เน็ต เช่น โฆษณาบนเว็บไซต์, โฆษณาบนโซเชียลมีเดีย
  7. อีเมลมาร์เก็ตติ้ง (Email Marketing)
    • ภาษาไทย การตลาดผ่านทางอีเมล
    • คำอธิบาย การส่งอีเมลโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการให้กับลูกค้าทางอีเมล
  8. ร้านค้าออนไลน์ (E-commerce)
    • ภาษาไทย ร้านค้าออนไลน์
    • คำอธิบาย ธุรกิจที่ขายสินค้าหรือบริการผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์
  9. การเข้าถึงผ่านมือถือ (Mobile Accessibility)
    • ภาษาไทย การเข้าถึงผ่านมือถือ
    • คำอธิบาย ความสามารถของผู้ใช้ในการเข้าถึงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันผ่านอุปกรณ์มือถือ
  10. ความปลอดภัยออนไลน์ (Online Security)
    • ภาษาไทย ความปลอดภัยออนไลน์
    • คำอธิบาย มาตรการและเทคโนโลยีที่ใช้เพื่อป้องกันข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ออนไลน์

ความเข้าใจเรื่องคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจออนไลน์จะช่วยให้คุณติดตามและเข้าใจแนวทางและเทคนิคที่ใช้ในโลกออนไลน์ได้ดียิ่งขึ้น

ธุรกิจ ของออนไลน์ ต้อง จดทะเบียนบริษัท หรือไม่

การจดทะเบียนธุรกิจออนไลน์ขึ้นอยู่กับกฎหมายและข้อกำหนดในประเทศที่คุณกำลังดำเนินธุรกิจ ดังนั้นควรตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทนายความเพื่อทราบข้อกำหนดที่เป็นไปตามกฎหมายของประเทศของคุณ แต่อย่างทั่วไปแล้ว, นี่คือสิ่งที่บางครั้งจำเป็นต้องจดทะเบียนสำหรับธุรกิจออนไลน์

  1. การจดทะเบียนธุรกิจ การจดทะเบียนธุรกิจในรูปแบบของบริษัทหรือกิจการคือขั้นตอนสำคัญเมื่อคุณต้องการตั้งธุรกิจออนไลน์ในรูปแบบทางธุรกิจ ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ, คุณอาจต้องจดทะเบียนบริษัทหรือกิจการในรูปแบบที่เหมาะสม (เช่น บริษัทจำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด, หรือบุคคลธรรมดา)
  2. ภาษีธุรกิจ คุณอาจต้องจดทะเบียนเพื่อชำระภาษีธุรกิจและรายได้จากกิจการออนไลน์ของคุณ การวัดความเป็นจริงในเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับกฎหมายและข้อกำหนดของประเทศของคุณ
  3. การจดทะเบียนเอาไปใช้งานเว็บไซต์ ถ้าคุณมีเว็บไซต์สำหรับธุรกิจของคุณ, คุณอาจต้องจดทะเบียนโดเมนเนมและหาที่เก็บโฮสต์ (hosting) สำหรับเว็บไซต์ของคุณ
  4. การปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากคุณเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากลูกค้า, คุณอาจต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่อยู่อาศัยในประเทศของคุณ
  5. การรับอนุญาตและการสิทธิบัตร หากธุรกิจของคุณมีความเป็นเอกลักษณ์หรือโปรดิวซ์ที่คุณต้องการป้องกัน, คุณอาจต้องทำการสิทธิบัตรหรือการรับอนุญาต
  6. การตรวจสอบกฎหมายสิทธิบัตรและการสิทธิบัตร ตรวจสอบว่าสิทธิบัตรและลิขสิทธิ์ที่คุณอาจต้องการส่งเสริมธุรกิจของคุณได้ถูกต้องและอยู่ในความครอบครองของคุณ
  7. การตรวจสอบกฎหมายอาญา คุณอาจต้องรับคำปรึกษาจากทนายความเพื่อตรวจสอบว่ากิจกรรมทางออนไลน์ของคุณไม่ละเมิดกฎหมายอาญา
  8. การตรวจสอบสัญญาและนโยบาย คุณควรสร้างสัญญาและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าหรือบริการของคุณและตรวจสอบว่ามันอยู่ในความครอบครองและการปฏิบัติตามกฎหมาย
  9. การประกันภัยธุรกิจ คุณอาจต้องซื้อประกันธุรกิจเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางธุรกิจออนไลน์ เช่น ประกันความเสียหายจากการแฮ็กคอมพิวเตอร์
  10. การเป็นเจ้าของหรือทำงานร่วมกับผู้อื่น หากคุณทำงานร่วมกับคนอื่นในธุรกิจของคุณอย่างร่วมมือหรือแบบซัพพอร์ต, ควรสร้างข้อตกลงและสัญญาทางธุรกิจที่ชัดเจน

หากคุณไม่แน่ใจว่าคุณต้องจดทะเบียนอะไรหรือปฏิบัติตามกฎหมายใด ควรปรึกษากับทนายความหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศของคุณเพื่อข้อมูลและคำปรึกษาเพิ่มเติม

บริษัท ธุรกิจของออนไลน์ เสียภาษีอย่างไร

ภาษีที่ธุรกิจออนไลน์ต้องเสียจะขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจของคุณและกฎหมายภาษีในประเทศของคุณ โดยทั่วไปแล้วมีภาษีที่ธุรกิจออนไลน์อาจต้องเสียดังนี้

  1. ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา หากคุณเป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้จากธุรกิจออนไลน์, คุณอาจต้องเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาตามกฎหมายภาษีในประเทศของคุณ
  2. ภาษีธุรกิจ บางประเทศมีภาษีธุรกิจที่ต้องเสียโดยเฉพาะสำหรับธุรกิจออนไลน์หรือการค้าออนไลน์ ภาษีนี้อาจคำนวณจากยอดขายหรือกำไรของคุณ
  3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือภาษีขาย หากคุณขายสินค้าหรือบริการผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์, คุณอาจต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีขาย (VAT) ตามกฎหมายในประเทศของคุณ
  4. ภาษีที่เกี่ยวกับรถหรือการขนส่ง หากธุรกิจของคุณเกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้า, คุณอาจต้องเสียภาษีที่เกี่ยวกับรถหรือการขนส่งตามกฎหมายของประเทศ
  5. ภาษีภูมิศาสตร์ (Property Tax) ถ้าคุณเป็นเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ในธุรกิจของคุณ, คุณอาจต้องเสียภาษีภูมิศาสตร์ตามกฎหมายท้องถิ่น
  6. ภาษีเงินได้ของบริษัท หากคุณเป็นบริษัทหรือกิจการทางธุรกิจ, คุณอาจต้องเสียภาษีเงินได้บริษัทตามกฎหมายของประเทศ
  7. ภาษีอื่น ๆ มีภาษีอื่น ๆ ที่อาจเป็นไปตามกฎหมายท้องถิ่นหรือกฎหมายของประเทศของคุณที่อาจต้องเสียในกรณีที่เป็นไปตามกฎหมายหรือเงื่อนไขของธุรกิจของคุณ

ควรตรวจสอบกับผู้ประกอบการทางภาษีหรือทนายความที่เชี่ยวชาญในกฎหมายภาษีในประเทศของคุณเพื่อทราบถึงการเสียภาษีที่เป็นไปตามกฎหมายในธุรกิจของคุณ

อ่านเพิ่มเติม >> ภาษีอีเซอร์วิสขึ้นภาษีอีเซอร์วิสอีเซอร์วิส?

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )