แผนธุรกิจภัตตาคาร
การเริ่มต้นธุรกิจภัตตาคารเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ขั้นตอนและการวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสประสบความสำเร็จ ดังนี้คือขั้นตอนเบื้องต้นในการเริ่มต้นธุรกิจภัตตาคาร
- การวางแผนและการศึกษาตลาด
- วางแผนธุรกิจครอบคลุมแผนธุรกิจ เป้าหมายกลุ่มเป้าหมายลูกค้า เชิงกลยุทธ์การแข่งขัน และการตลาด
- การหาสถานที่และการเช่าพื้นที่
- เลือกสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับภัตตาคาร คำนึงถึงตำแหน่งที่ติดถนนคนเดิน การเช่าหรือซื้อพื้นที่ตามความต้องการ
- การวางแผนเมนูและการจัดหาวัตถุดิบ
- วางแผนเมนูอาหารและเครื่องดื่ม การจัดหาวัตถุดิบคุณภาพที่จำเป็นในการเตรียมอาหาร
- การจัดทำแผนการเงิน
- กำหนดงบประมาณการลงทุนเริ่มต้น การจัดการค่าใช้จ่ายรายวัน และการตรวจสอบการเงินเพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจสามารถเริ่มต้นและดำเนินการได้อย่างยั่งยืน
- การรับรองและสิทธิบัตร
- สำหรับภัตตาคารที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำเป็นต้องขอสิทธิบัตรขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และรับรองสิทธิบัตรอื่น ๆ ที่จำเป็นตามกฎหมายท้องถิ่น
- การจัดหาอุปกรณ์และส่วนประกอบ
- จัดหาอุปกรณ์และส่วนประกอบที่จำเป็นสำหรับการทำอาหารและเครื่องดื่ม เช่น เตาอบ ไมโครเวฟ เครื่องชงกาแฟ โต๊ะเก้าอี้ ฯลฯ
- การจ้างงานและการฝึกงาน
- จ้างงานพนักงานที่มีความรู้ความสามารถในการทำอาหารและบริการ จัดการฝึกงานเพื่อให้พนักงานมีความเชี่ยวชาญและคุณภาพ
- การสร้างแบรนด์และการตลาด
- สร้างแบรนด์ธุรกิจภัตตาคาร เริ่มต้นการตลาดและโปรโมทธุรกิจของคุณ อาจรวมถึงการใช้สื่อสังคมออนไลน์
- การขออนุญาต/การจดทะเบียน
- ขึ้นอยู่กับกฎหมายและข้อกำหนดท้องถิ่น บางพื้นที่อาจต้องขออนุญาตให้เปิดร้านหรือจดทะเบียนธุรกิจ
- การเตรียมพร้อมเปิดร้าน
- ก่อนที่จะเปิดร้านภัตตาคาร คุณควรทดลองทำอาหารและเครื่องดื่มเพื่อปรับปรุงคุณภาพและปริมาณการเตรียมอาหาร เพื่อให้การเปิดร้านเป็นไปอย่างราบรื่น
- การเริ่มต้นธุรกิจ
- เมื่อคุณได้ทำการเตรียมพร้อมตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว คุณสามารถเริ่มเปิดร้านธุรกิจภัตตาคารของคุณได้
ทั้งนี้ควรใช้เวลาในการวางแผนและศึกษาความรู้ก่อนการเริ่มต้น เพื่อให้คุณมีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับธุรกิจภัตตาคารและสามารถดำเนินการไปในทิศทางที่ถูกต้องและมั่นใจได้.
ตารางรายรับรายจ่าย ตัวอย่างบัญชี ภัตตาคาร
นี่คือตัวอย่างของ comparison table สำหรับรายรับและรายจ่ายในธุรกิจภัตตาคาร
รายการ |
รายรับ (บาท) |
รายจ่าย (บาท) |
ยอดขายอาหาร |
100,000 |
|
ยอดขายเครื่องดื่ม |
50,000 |
|
บริการส่งอาหาร |
10,000 |
|
รายรับรวม |
160,000 |
|
|
|
|
ค่าเช่าพื้นที่ |
|
30,000 |
ค่าน้ำ/ไฟ/อินเตอร์เน็ต |
|
5,000 |
ค่าวัสดุอาหารและเครื่องดื่ม |
|
40,000 |
ค่าจ้างงานและค่าบริการ |
|
25,000 |
ค่าโฆษณาและการตลาด |
|
10,000 |
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ |
|
5,000 |
รายจ่ายรวม |
|
115,000 |
|
|
|
กำไรสุทธิ |
|
45,000 |
โปรดทราบว่าตัวอย่างนี้เป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้นเพื่อแสดงการเปรียบเทียบระหว่างรายรับและรายจ่ายในภัตตาคาร จริงๆ แล้ว รายรับและรายจ่ายของธุรกิจจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่เสนอ ราคาสินค้า ราคาเช่าพื้นที่ ค่าใช้จ่ายการดำเนินธุรกิจ และอื่น ๆ อีกมากมาย
อาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับ ภัตตาคาร
ภัตตาคารเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับหลายสาขาอาชีพและกลุ่มงานที่มีความเชื่อมโยงกัน ดังนี้คืออาชีพที่เกี่ยวข้องกับภัตตาคาร
- เชฟ (Chef) เชฟเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างเมนูอาหาร วางแผนการทำอาหาร และควบคุมการปรุงอาหารในภัตตาคาร มีหลากหลายตำแหน่งเช่น เชฟเอ็กซ์คิวทีฟ, เชฟเด็กปั้น, และอื่น ๆ
- พนักงานบริการ (Waitstaff) พนักงานบริการเป็นคนที่ให้บริการแก่ลูกค้าในภัตตาคาร รับออร์เดอร์ นำอาหารและเครื่องดื่มถึงโต๊ะ และดูแลความสะอาดของพื้นที่
- บาริสต้า (Bartender) บาริสต้าเป็นคนที่ผสมเครื่องดื่มและเติมเต็มในบาร์ สร้างเมนูเครื่องดื่มที่หลากหลายและให้บริการแก่ลูกค้า
- ผู้จัดการร้าน (Restaurant Manager) ผู้จัดการร้านรับผิดชอบในการบริหารจัดการธุรกิจภัตตาคารทั้งด้านการดำเนินการ การบริการ การวางแผนและการจัดการทรัพยากร
- ผู้ดูแลอาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage Manager) คนที่ควบคุมและจัดการด้านอาหารและเครื่องดื่มในภัตตาคาร เช่น การสั่งซื้อวัตถุดิบ วางแผนเมนู และการบริหารการเสิร์ฟอาหาร
- ผู้พัฒนาเมนู (Menu Developer) ผู้พัฒนาเมนูรับผิดชอบในการออกแบบและสร้างเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์
- ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ (Wine Sommelier) ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกไวน์ที่เหมาะสมกับเมนูอาหารและให้บริการเปิดไวน์ให้ลูกค้า
- ผู้จัดการการตลาด (Marketing Manager) ผู้จัดการการตลาดในภัตตาคารทำหน้าที่วางแผนและดำเนินกิจกรรมตลาด เช่น โปรโมชั่น การตลาดออนไลน์ และการสร้างความน่าสนใจต่อลูกค้า
- นักออกแบบภายใน (Interior Designer) นักออกแบบภายในช่วยออกแบบและตกแต่งพื้นที่ในร้านเพื่อให้มีบรรยากาศที่น่าสนใจและสอดคล้องกับแบรนด์
- ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย (Health and Safety Expert) ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยในภัตตาคารเอาใจใส่ในเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุ และดูแลสุขอนามัยสำหรับลูกค้าและพนักงาน
นอกจากนี้ยังมีหลายบทบาทและอาชีพที่เกี่ยวข้องกับภัตตาคารอีกมากมาย ที่แสดงถึงความหลากหลายและความซับซ้อนของธุรกิจนี้.
วิเคราะห์ SWOT ภัตตาคาร
การวิเคราะห์ SWOT เป็นกระบวนการที่ช่วยในการวิเคราะห์สถานการณ์ภายนอกและภายในของภัตตาคาร เพื่อจัดทำเป้าหมายและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ ดังนี้คือวิเคราะห์ SWOT สำหรับภัตตาคาร
Strengths (จุดแข็ง)
- คุณภาพอาหารและเครื่องดื่ม ภัตตาคารมีเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณภาพและสรรพคุณที่ดี ทำให้ลูกค้ามั่นใจในการเลือกสั่งอาหารที่ร้านของคุณ.
- บรรยากาศและการตกแต่ง บรรยากาศที่สร้างขึ้นในร้านทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายและมีประสบการณ์ที่ดีในการมาใช้บริการ.
- ตำแหน่งที่ตั้ง ภัตตาคารอยู่ในตำแหน่งที่ดีและสะดวกต่อการเข้าถึง ทำให้มีการเดินทางสะดวกสบายสำหรับลูกค้า.
Weaknesses (จุดอ่อน)
- การบริการลูกค้า บางครั้งอาจมีปัญหาในการบริการลูกค้าที่ไม่ได้มีคุณภาพเท่าที่ควร ที่อาจส่งผลให้ลูกค้าไม่พอใจและกลับไม่มาใช้บริการอีก.
- ความสามารถในการจัดการ การจัดการภายในร้านอาจมีข้อบกพร่องที่อาจส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ อาจทำให้ไม่มีความเรียบร้อยและมีปัญหาในการสั่งการ.
- การตลาดและโปรโมชั่น การที่ไม่มีกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมอาจทำให้ไม่สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่หรือรักษาลูกค้าเก่าได้.
Opportunities (โอกาส)
- การเติบโตของตลาดอาหารและเครื่องดื่ม ตลาดอาหารและเครื่องดื่มยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจของคุณ.
- การสร้างและส่งเสริมแบรนด์ คุณสามารถสร้างและส่งเสริมแบรนด์ของร้านภัตตาคารของคุณได้ โดยการใช้กลยุทธ์การตลาดและโปรโมชั่นที่เหมาะสม.
- นวัตกรรมในเมนูและบริการ การนำเสนอเมนูใหม่หรือการบริการที่นวัตกรรมอาจช่วยเพิ่มความน่าสนใจและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า.
Threats (อุปสรรค)
- คู่แข่งในตลาด มีการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งอาจส่งผลให้ลูกค้าเลือกใช้บริการจากร้านค้าคู่แข่ง.
- สถานการณ์เศรษฐกิจ สถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนอาจส่งผลให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายในการออกกินข้าวออกไป.
- การเปลี่ยนแปลงในนโยบายรัฐ การเปลี่ยนแปลงในนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอาหารและธุรกิจอาจมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของคุณ.
การวิเคราะห์ SWOT จะช่วยให้คุณเข้าใจดีขึ้นเกี่ยวกับทัศนคติภายในและภายนอกของธุรกิจภัตตาคารของคุณ จากนั้นคุณสามารถใช้ข้อมูลในการกำหนดกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจและดูแลลูกค้าอย่างเหมาะสม.
คําศัพท์พื้นฐาน ภัตตาคาร ที่ควรรู้
- เมนู (Menu) – Menu คือรายการอาหารและเครื่องดื่มที่ร้านเสนอให้กับลูกค้า เมนูสามารถรวมถึงอาหารหลัก อาหารจานเดียว ของหวาน และเครื่องดื่มต่างๆ
- บริการลูกค้า (Customer Service) – Customer Service หมายถึงการบริการและการดูแลลูกค้าที่ร้านให้ รวมถึงการตอบสนองความต้องการและข้อเสนอแนะของลูกค้า.
- เส้นทาง (Location) – Location หมายถึงสถานที่ตั้งของภัตตาคาร ที่สามารถส่งผลต่อการเข้าถึงและความสะดวกสบายของลูกค้า.
- บรรยากาศ (Ambiance) – Ambiance คือความบรรยายที่ถูกสร้างขึ้นในร้าน รวมถึงการตกแต่งภายใน และความรู้สึกที่สร้างให้กับลูกค้า.
- โปรโมชั่น (Promotions) – Promotions คือการแนะนำและส่งเสริมการขายผ่านกิจกรรมหรือโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า.
- เมล็ดเงิน (Tip) – Tip คือเงินที่ลูกค้าให้เพิ่มเติมในการจ่ายเงินเมื่อได้รับบริการดีจากร้าน ซึ่งอาจเป็นเปอร์เซนต์หรือจำนวนเงินที่คำนวณเอง.
- สัญญาณบนบูท (Table Signage) – Table Signage คือป้ายสัญญาณหรือป้ายชื่อบนโต๊ะที่ช่วยในการระบุหมายเลขหรือชื่อของโต๊ะเพื่อให้บริการที่ถูกต้อง.
- คิว (Queue) – Queue หมายถึงความต้องรอคิวก่อนที่จะได้รับบริการในภัตตาคาร เช่น รอรับโต๊ะ หรือรอสั่งอาหาร.
- เมท (Mat) – Mat คือเสื่อที่วางบนโต๊ะ เพื่อปกป้องโต๊ะและช่วยสร้างความสะอาดในร้าน.
- พนักงานบริการ (Wait Staff) – Wait Staff คือพนักงานที่ทำหน้าที่เสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มให้กับลูกค้าในร้าน.
ธุรกิจ ภัตตาคาร ต้อง จดทะเบียนบริษัท หรือไม่
การจดทะเบียนธุรกิจภัตตาคารจะขึ้นอยู่กับกฎหมายและนโยบายของแต่ละประเทศ และอาจแตกต่างกันไปตามเขตอำนาจของเทศบาลท้องถิ่น เพื่อความแม่นยำที่มากขึ้นคุณควรปรึกษาที่หน่วยงานท้องถิ่นหรือทนายความเพื่อทราบข้อกำหนดและขั้นตอนที่เป็นที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนธุรกิจภัตตาคารในพื้นที่ของคุณ. อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อาจต้องทำเพื่อเริ่มต้นธุรกิจภัตตาคารอาจประกอบด้วย
- การจดทะเบียนธุรกิจ – คุณอาจต้องจดทะเบียนธุรกิจเพื่อให้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและเขตอำนาจที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับอนุญาตให้ดำเนินกิจการ.
- การขอใบอนุญาต – บางท้องถิ่นอาจกำหนดให้ธุรกิจภัตตาคารขอใบอนุญาตเพิ่มเติม เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการ.
- การรับรองมาตรฐานสุขอนามัย – คุณอาจต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสุขอนามัยเพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจของคุณปลอดภัยและสุขอนามัยสำหรับลูกค้า.
- การขอใบอนุญาตการใช้สิ่งแวดล้อม – หากธุรกิจภัตตาคารมีการจัดกิจกรรมที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การทิ้งขยะ การดำเนินการที่ใช้น้ำมาก เป็นต้น อาจจำเป็นต้องขอใบอนุญาตการใช้สิ่งแวดล้อม.
- การจัดการเอกสารทางธุรกิจ – คุณจำเป็นต้องจัดเก็บเอกสารทางธุรกิจอย่างถูกต้อง เช่น ใบอนุญาต ใบอนุญาตการใช้สิ่งแวดล้อม ใบประกอบกิจการ เป็นต้น.
- การลงทะเบียนเพื่อเสียภาษี – คุณอาจต้องลงทะเบียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเสียภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจภัตตาคาร เช่น ภาษีอากรขายหรือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา.
โดยคำแนะนำข้างต้นเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้น ควรสอบถามที่หน่วยงานท้องถิ่นหรือทนายความเพื่อข้อมูลที่แม่นยำและทันสมัยเกี่ยวกับการจดทะเบียนธุรกิจภัตตาคารในพื้นที่ของคุณ.
บริษัท ภัตตาคาร เสียภาษีอย่างไร
ธุรกิจภัตตาคารอาจต้องเสียภาษีต่าง ๆ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามกฎหมายและนโยบายของแต่ละประเทศ โดยภาษีที่อาจเกิดขึ้นสำหรับธุรกิจภัตตาคารอาจ
- ภาษีอากรขาย (Value Added Tax, VAT) ภาษีอากรขายเป็นภาษีที่เก็บจากการขายสินค้าและบริการ เจ้าของธุรกิจภัตตาคารอาจต้องเสียภาษีอากรขายจากยอดขาย.
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax) หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจภัตตาคารและมีรายได้จากกิจการนี้ คุณอาจต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามรายได้ที่ได้รับ.
- ภาษีบริการ (Service Tax) บางประเทศอาจเรียกเก็บภาษีบริการจากกิจการภัตตาคารหรือบริการที่เกี่ยวข้อง.
- ภาษีอื่น ๆ อื่น ๆ อาจมีภาษีเฉพาะสำหรับธุรกิจภัตตาคารเช่น การเสียภาษีที่เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือภาษีเพื่อการสนับสนุนสิ่งแวดล้อม.
ทั้งนี้เพื่อความแม่นยำและเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับภาษีที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจภัตตาคาร คุณควรปรึกษาที่นิติกรที่เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเสียภาษีในพื้นที่ที่คุณตั้งกิจการ.


บริษัท ปังปอน จำกัด
47/103 หมู่ 9 ถ.แจ้งวัฒนะ บางพูด ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 โทร.02-964-9800
รับทำบัญชี
โทร.081-931-8341 (คุณจ๋า)
แนวข้อสอบบัญชีเบื้องต้น พื้นฐานของโลกธุรกิจ ที่เน้นการ บันทึก-จัดประเภท-สรุปผลทางการเงิน ของกิจการ ผู้เรียนต้องเข้าใจ บัญชีเดบิต เครดิต งบการเงิน รายการ
สมัครงานตำแหน่งบัญชี เนื่องจากทุกธุรกิจ ต้องมีการจัดการทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็กหรือองค์กรใหญ่ นักบัญชี คือหัวใจในการควบคุมงบประมาณ บันทึก
Brought Forward บัญชี ยอดยกมา หรือยอดคงเหลือจากงวดก่อนหน้า ที่ถูกนำมาตั้งต้นเป็นยอดเริ่มต้นในงวดปัจจุบัน เช่น หากคุณมียอดเงินสดในเดือนมิถุนายน
บัญชีบัตรเครดิต บัญชีทางบัญชีประเภทเจ้าหนี้การค้า (Accounts Payable) ที่บันทึกภาระหนี้สินของผู้ถือบัตรกับสถาบันการเงินเจ้าของบัตร เมื่อคุณใช้บัตรเครดิตซื้อ
บัญชีโก: พลิกชีวิตเจ้าของธุรกิจด้วยการจัดการบัญชีอย่างม […]
บัญชีธนาคาร Shopee การบัญชีให้ถูกต้อง เพิ่มยอดขายแบบมือโปร! หรือเพิ่งเริ่มต้นขายของในแพลตฟอร์มนี้ คำว่า “บัญชีธนาคาร Shopee” ไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก ๆ