รับทำบัญชี.COM | รายได้สุทธิสูตร Excel แบบฟอร์มสรุปยอดขาย?

รายได้สุทธิ

รายได้สุทธิ (Net Income) คือ จำนวนเงินหรือมูลค่าที่เหลือจากรายได้ทั้งหมดของบุคคลหรือธุรกิจหลังจากหักค่าใช้จ่ายและรายได้ที่ต้องจ่ายออกไป เป็นต้น รายได้สุทธิเป็นแนวทางที่ใช้ในการวัดว่าความเป็นอยู่ทางการเงินของบุคคลหรือธุรกิจนั้นๆ ว่าเป็นกำไรหรือขาดทุนหลังจากหักค่าใช้จ่ายและภาระส่วนตัวที่เกิดขึ้น

รายได้สุทธิสามารถคำนวณได้โดยใช้สูตร

รายได้สุทธิ = รายได้ทั้งหมด – ค่าใช้จ่ายทั้งหมด

รายได้ทั้งหมด (Total Income) รวมถึงรายได้ที่ได้รับจากทุกแหล่ง เช่น เงินเดือน, รายได้จากธุรกิจ, รายได้จากการลงทุน, รายได้จากการเช่าที่ดิน และอื่นๆ

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด (Total Expenses) รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายออกไป เช่น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต, ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ, ค่าเช่า, ค่าน้ำมัน, ค่าเล่าเรียน, ค่าบริการ และอื่นๆ

รายได้สุทธิเป็นข้อมูลที่สำคัญในการวิเคราะห์และวางแผนการเงิน เนื่องจากสามารถบ่งบอกถึงสภาพความเป็นอยู่ทางการเงินของบุคคลหรือธุรกิจ ว่ามีกำไรหรือขาดทุน และช่วยในการตัดสินใจในการลงทุนหรือการจัดการทางการเงินในอนาคตอย่างเหมาะสม

รายได้สุทธิ สูตร

สูตรในการคำนวณรายได้สุทธิ (Net Income) คือ

รายได้สุทธิ = รายได้ทั้งหมด – ค่าใช้จ่ายทั้งหมด

เมื่อ

รายได้ทั้งหมด (Total Income) คือ รายได้ที่ได้รับทั้งหมดจากแหล่งต่างๆ เช่น เงินเดือน, รายได้จากธุรกิจ, รายได้จากการลงทุน, รายได้จากการเช่าที่ดิน และอื่นๆ

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด (Total Expenses) คือ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ต้องจ่ายออกไป เช่น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต, ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ, ค่าเช่า, ค่าน้ำมัน, ค่าเล่าเรียน, ค่าบริการ และอื่นๆ

การคำนวณรายได้สุทธิเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการวางแผนการเงินและการบริหารสถานะการเงิน เนื่องจากมันช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์และประเมินสภาพความเป็นอยู่ทางการเงินของคุณได้ และทำให้คุณทราบว่าคุณมีกำไรหรือขาดทุนหลังจากหักค่าใช้จ่ายและภาระส่วนตัวที่เกิดขึ้น

รายได้สุทธิ สูตร Excel

ใน Excel คุณสามารถคำนวณรายได้สุทธิ (Net Income) ได้โดยใช้สูตรดังนี้

สมมติให้รายได้ทั้งหมดอยู่ในเซลล์ A1 และค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ในเซลล์ B1 คุณสามารถใช้สูตรนี้ในเซลล์ C1 เพื่อคำนวณรายได้สุทธิ

= A1 – B1

เมื่อใส่สูตรดังกล่าวลงในเซลล์ C1 และกด Enter ค่าในเซลล์ C1 ก็จะแสดงผลลัพธ์ของรายได้สุทธิซึ่งเป็นผลต่างของรายได้ทั้งหมดและค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่คุณป้อนในเซลล์ A1 และ B1 ตามลำดับ

สูตร excel คิด ภาษี ขั้นบันได

สูตร Excel สำหรับคิดภาษีขั้นบันได หรือ Progressive Tax ใช้สูตร IF และ LOOKUP เพื่อคำนวณโดยตรงค่าภาษีที่ต้องชำระตามรายได้ที่ได้รับ สำหรับตัวอย่างนี้เราจะใช้ภาษีขั้นบันไดแบบง่ายดังนี้

สมมติว่ารายได้ที่ได้รับอยู่ในเซลล์ A1 และค่าภาษีขั้นบันไดดังนี้

  • 0 – 150,000 บาท ไม่เสียภาษี
  • 150,001 – 300,000 บาท 5% ของรายได้ที่เกิน 150,000 บาท
  • 300,001 – 500,000 บาท 10% ของรายได้ที่เกิน 300,000 บาท
  • 500,001 บาทขึ้นไป 15% ของรายได้ที่เกิน 500,000 บาท

สามารถใช้สูตรต่อไปนี้ในเซลล์ B1 เพื่อคำนวณภาษ

= IF(A1 <= 150000, 0, IF(A1 <= 300000, (A1-150000)*5%, IF(A1 <= 500000, (A1-300000)*10%+7500, (A1-500000)*15%+27500)))

สูตรนี้ทำงานดังนี้

  1. ถ้ารายได้ใน A1 ไม่เกิน 150,000 บาท ให้คืนค่าภาษีเป็น 0%
  2. ถ้ารายได้ใน A1 อยู่ระหว่าง 150,001 – 300,000 บาท ให้คืนค่าภาษีเป็น 5% ของรายได้ที่เกิน 150,000 บาท
  3. ถ้ารายได้ใน A1 อยู่ระหว่าง 300,001 – 500,000 บาท ให้คืนค่าภาษีเป็น 10% ของรายได้ที่เกิน 300,000 บาท พิมพ์ 7,500 บาทที่ได้จากเงื่อนไขก่อนหน้า (150,000 * 5%)
  4. ถ้ารายได้ใน A1 เกิน 500,000 บาท ให้คืนค่าภาษีเป็น 15% ของรายได้ที่เกิน 500,000 บาท พิมพ์ 27,500 บาทที่ได้จากเงื่อนไขก่อนหน้า (300,000 * 10% + 7,500)

คำแนะนำ หากคุณมีรูปแบบภาษีที่ซับซ้อนมากขึ้น คุณอาจต้องใช้สูตรซับซ้อนขึ้นเพื่อคำนวณภาษีตามรายได้ที่แตกต่างกันไป

สูตร excel หักภาษี 3%

หากคุณต้องการคำนวณภาษีโดยหักจากจำนวนรายได้ทั้งหมด 3% คุณสามารถใช้สูตรต่อไปนี้ใน Excel

สมมติให้รายได้ทั้งหมดอยู่ในเซลล์ A1 คุณสามารถใช้สูตรนี้ในเซลล์ B1 เพื่อคำนวณภาษี

= A1 * 3%

สูตรนี้จะคูณจำนวนรายได้ในเซลล์ A1 ด้วย 3% (หรือ 0.03) เพื่อคำนวณจำนวนเงินที่ต้องหักออกเป็นภาษี และแสดงผลลัพธ์ในเซลล์ B1 โดยภาษีที่ต้องชำระจะเป็น 3% ของรายได้ทั้งหมดที่คุณป้อนในเซลล์ A1

คํานวณภาษีเงินเดือน excel ต่อเดือน

เพื่อคำนวณภาษีเงินเดือนใน Excel ต่อเดือน ในประเทศที่มีระบบภาษีเงินได้แบบเก็บโครงสร้าง คุณสามารถใช้สูตรสำหรับคำนวณภาษีใน Excel ดังนี้

สมมติให้รายได้เงินเดือนอยู่ในเซลล์ A1 คุณสามารถใช้สูตรนี้ในเซลล์ B1 เพื่อคำนวณภาษี

= IF(A1 <= 15000, 0, IF(A1 <= 30000, (A1-15000)*5%, IF(A1 <= 50000, (A1-30000)*10%+750, (A1-50000)*15%+2750)))

สูตรนี้จะคำนวณภาษีของเงินเดือนโดยคิดตามระบบภาษีที่เก็บโครงสร้างในตารางด้านล่างนี้

  • 0 – 15,000 บาท ไม่เสียภาษี
  • 15,001 – 30,000 บาท 5% ของรายได้ที่เกิน 15,000 บาท
  • 30,001 – 50,000 บาท 10% ของรายได้ที่เกิน 30,000 บาท บวกกับภาษีที่ต้องจ่ายในช่วง 0 – 30,000 บาท (750 บาท)
  • 50,001 บาทขึ้นไป 15% ของรายได้ที่เกิน 50,000 บาท บวกกับภาษีที่ต้องจ่ายในช่วง 0 – 50,000 บาท (2,750 บาท)

ตัวอย่างการใช้สูตร

หากมีรายได้เงินเดือนเป็น 25,000 บาท ค่าภาษีที่ต้องจ่าย คือ

= IF(25000 <= 15000, 0, IF(25000 <= 30000, (25000-15000)*5%, IF(25000 <= 50000, (25000-30000)*10%+750, (25000-50000)*15%+2750)))

ผลลัพธ์ที่คุณจะได้คือ 750 บาท เนื่องจากรายได้ 25,000 บาทอยู่ในช่วง 15,001 – 30,000 บาท และภาษีที่ต้องจ่ายคือ 5% ของรายได้ที่เกิน 15,000 บาท หรือ (25,000-15,000) * 5% = 500 บาท ซึ่งมากกว่าภาษีที่ต้องจ่ายในช่วง 0 – 15,000 บาท (0 บาท)

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )