รับทำบัญชี.COM | อู่ซ่อม สีตัวถังภาษีรายรับจ่ายบริการคุณภาพ?

อู่ซ่อมตัวถังและสี

ธุรกิจอู่ซ่อมตัวถังและสีคือกิจการที่มุ่งเน้นในการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์หรือพาหนะอื่นๆ โดยเฉพาะตัวถังและระบบสีของพาหนะเหล่านี้ ธุรกิจแบบนี้มักจะให้บริการในการซ่อมแซมและเปลี่ยนแปลงส่วนของตัวถังที่เสียหายหรือเสื่อมสภาพ รวมถึงงานทาสีใหม่หรือซ่อมแซมสีให้แก่พาหนะ เพื่อให้มีลักษณะภายนอกที่สวยงามและปราณีตตามความต้องการของลูกค้า

นายหน้าของธุรกิจอู่ซ่อมตัวถังและสีมักจะปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำแนะนำและเสนอราคาให้กับลูกค้า เขาหรือเธออาจจะให้บริการในการซ่อมแซมรถยนต์ที่เคยมีอุบัติเหตุหรือเสียหาย หรืออาจจะเป็นการปรับแต่งรถยนต์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพหรือลักษณะภายนอก การทำงานที่พิเศษอื่นๆ ที่ธุรกิจอู่ซ่อมตัวถังและสีอาจจะมีได้แก่

  1. การซ่อมแซมเบื้องต้น (Complex Panel Repair) เช่น การเตรียมและซ่อมแซมตัวถังหรือโครงรถที่เสียหายหรือผิดรูปภายในโรงงานอู่ซ่อมตัวถัง

  2. งานทาสี การทาสีใหม่หรือการซ่อมแซมสีบนพาหนะเพื่อให้มีลุคที่ดูดีและสวยงาม

  3. การเปลี่ยนชิ้นส่วน การติดตั้งหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ล้อ, กระจก, ไฟหน้า, หาง, หรือส่วนต่างๆ ของรถยนต์

  4. การปรับแต่งรถยนต์ การปรับปรุงรถยนต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหรือเปลี่ยนลักษณะภายนอก เช่น การติดตั้งแผงเสริม, ระบบเสียง, หรือแม้กระทั่งการปรับแต่งสีและลายรถ

  5. การให้บริการทางเทคนิค การตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบต่างๆ ของรถยนต์ เช่น ระบบเบรก, ระบบละเอียด, ระบบลูกสูบ, ระบบไฟฟ้า เป็นต้น

ธุรกิจอู่ซ่อมตัวถังและสีสามารถเป็นกิจการที่ร่ำรวยและมีความเสี่ยงน้อยหากมีการบริหารจัดการและบริการลูกค้าอย่างดี แต่ก็ต้องระมัดระวังเรื่องการประกันคุณภาพและการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพเพื่อสร้างความเชื่อถือในตลาดของคุณ

ทั้งนี้ การตกแต่งรถยนต์ที่ผ่านการซ่อมตัวถังและสีที่อู่ซ่อมรถมาตรฐานอู่ประกันเป็นเรื่องที่ผสมผสานความสวยงามและความสมบูรณ์อย่างลงตัว นอกจากการซ่อมแซมตัวถังและสีที่หรูหราแล้วยังมีการตกแต่งรถยนต์เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ของรถยนต์ เช่น การซ่อมแอร์รถยนต์เพื่อให้การเดินทางในรถยนต์กลับมาสบายสบาย หรือการซ่อมเบาะรถยนต์เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ และอีกทั้งการซ่อมเครื่องยนต์เพื่อให้รถยนต์ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพได้อย่างดีที่สุดที่จะทำให้รถยนต์ของคุณโดดเด่นในท้องตลาดและมีความสมบูรณ์ทั้งด้านลุคและประสิทธิภาพ

ตารางรายรับรายจ่าย ตัวอย่างบัญชี อู่ซ่อมตัวถังและสี

การทำรายรับและรายจ่ายเป็นกระบวนการที่สำคัญในการจัดการเงินส่วนตัวหรือธุรกิจ การรับรู้ว่ารายได้มากจากไหน และรายจ่ายที่สำคัญมีอะไรบ้าง สามารถช่วยให้คุณมีการควบคุมเงินทองและวางแผนการเงินอย่างมีระบบได้ดีขึ้น

ตัวอย่างบัญชีรายรับและรายจ่ายและระบบบัญชีของธุรกิจอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์

บัญชีรายรับ

  1. รายรับจากค่าบริการซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ เป็นรายรับหลักที่ได้จากการให้บริการซ่อมตัวถังและสีรถยนต์สำหรับลูกค้า รายรับนี้มาจากค่าบริการในการซ่อมแซมตัวถังหรือการทำสีรถยนต์

  2. รายรับจากการขายอุปกรณ์และวัสดุตกแต่ง รายรับจากการขายอุปกรณ์และวัสดุตกแต่งสำหรับรถยนต์ เช่น ชุดตกแต่งตัวถังหรือวัสดุสีรถยนต์สำหรับลูกค้าที่ต้องการทำความสวยงามรถยนต์ของพวกเขา

  3. รายรับจากการบริการดูแลรักษาการเคลื่อนที่รถยนต์ รายรับจากการให้บริการดูแลรักษาการเคลื่อนที่รถยนต์ เช่น การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง, การเปลี่ยนเหล็กเบรก, หรือการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบเครื่องยนต์

บัญชีรายจ่าย

  1. ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อวัสดุและอุปกรณ์ ค่าใช้จ่ายในกระบวนการจัดซื้อวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ รวมถึงการจัดซื้อสต็อกสำหรับร้าน

  2. ค่าจ้างช่างซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ ค่าจ้างช่างซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ที่ทำงานในอู่ รวมถึงช่างสีรถยนต์ที่ทำงานในการทำสีรถยนต์

  3. ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ค่าเช่าสถานที่ทำงาน, ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการร้าน, ค่าใช้จ่ายในการเงินและบัญชี, ค่าโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต, ค่าใช้จ่ายในการบริหารการเงิน, และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการร้าน

  4. ค่าใช้จ่ายในการรักษาความปลอดภัยข้อมูล ค่าใช้จ่ายในการรักษาความปลอดภัยข้อมูลลูกค้าและข้อมูลธุรกิจ

  5. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ เช่น ค่าใช้จ่ายในการบริการล้างรถหรือค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอุปกรณ์ในร้าน

ระบบบัญชีจะช่วยให้คุณติดตามและบริหารการเงินในธุรกิจอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณควรใช้ซอฟต์แวร์บัญชีหรือสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญทางการบัญชีเพื่อรวบรวมข้อมูลและสร้างรายงานทางการเงินที่ต้องการสำหรับธุรกิจของคุณ

นี่คือตัวอย่างรูปแบบของตารางเปรียบเทียบรายรับและรายจ่ายของอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์

รายการ รายรับ (บาท) รายจ่าย (บาท)
การซ่อมแซมตัวถัง 50,000
การซ่อมแซมส่วนที่เสียหายในตัวถัง 30,000
การพ่นสีรถยนต์ 20,000
การทำเคลือบสี 10,000
การซ่อมแซมส่วนที่เสียหายของสี 5,000
ค่าจ้างช่าง 40,000
ค่าวัสดุและอุปกรณ์ 30,000
ค่าเช่าสถานที่ 15,000
ค่าโฆษณาและการตลาด 5,000
ค่าบริการสนับสนุนอื่นๆ 5,000
รวมรายรับ 105,000
รวมรายจ่าย 95,000
กำไร (ขาดทุน) 10,000

โดยตารางดังกล่าวเปรียบเทียบรายรับและรายจ่ายของอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ ซึ่งสามารถใช้ในการวางแผนและการตัดสินใจในการจัดการธุรกิจอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ของคุณ ตัวอย่างนี้ยังสามารถปรับแต่งตามความต้องการของธุรกิจของคุณเพื่อให้ตรงกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจและรายละเอียดที่เป็นพิเศษของคุณเอง

อาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับ อู่ซ่อมตัวถังและสี

อาชีพอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์เกี่ยวข้องกับอาชีพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกันอาจมีดังนี้

  1. ช่างตัวถัง (Body Technician) ช่างตัวถังเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการซ่อมแซมและปรับแต่งตัวถังของรถยนต์ พวกเขาทำงานกับการดัดแปลงโครงสร้างตัวถัง การซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย และการตรวจสอบความเรียบร้อยของตัวถังหลังจากการอัปเกรดหรือซ่อมแซม

  2. ช่างซ่อมสี (Paint Technician) ช่างซ่อมสีเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการพ่นสีและซ่อมแซมส่วนที่เสียหายของสีรถยนต์ พวกเขาใช้เทคนิคและเครื่องมือที่เหมาะสมในการทำสีใหม่หรือซ่อมแซมส่วนที่เสียหายของสี

  3. ช่างออโต้ (Automotive Technician) ช่างออโต้เป็นผู้ที่มีความรู้และทักษะในการซ่อมแซมระบบต่างๆ ของรถยนต์ อาทิ ระบบเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ระบบไฟฟ้า ระบบระบายควัน และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสมบูรณ์ของรถยนต์

  4. ช่างยานยนต์ (Mechanic) ช่างยานยนต์เป็นคนที่ซ่อมแซมระบบและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ เช่น ของติดรถยนต์ เครื่องเสียงรถยนต์ และอุปกรณ์เพิ่มเติมอื่นๆ ที่ติดตั้งในรถยนต์

  5. ช่างทำสีรถยนต์ (Auto Body Painter) ช่างทำสีรถยนต์เป็นคนที่มีความชำนาญในการพ่นสีบนตัวถังและส่วนอื่น ๆ ของรถยนต์ พวกเขาใช้เครื่องมือและวิธีการทำสีที่เหมาะสมในการทำให้สีสวยงามและเป็นมืออาชีพ

  6. ผู้ดูแลระบบซ่อมบำรุง (Maintenance Supervisor) ผู้ดูแลระบบซ่อมบำรุงเป็นคนที่มีความรู้และประสบการณ์ในการควบคุมและจัดการกับการซ่อมบำรุงรถยนต์ พวกเขากำหนดแผนการซ่อมบำรุง ตรวจสอบความเสียหายและให้คำแนะนำในการบำรุงรักษารถยนต์ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

เหล่านี้เป็นอาชีพที่อยู่ใกล้ชิดกับอาชีพอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกันเนื่องจากการดำเนินงานในธุรกิจและอุตสาหกรรมรถยนต์

การบันทึกข้อมูล การจัดเก็บใบเสร็จ และเอกสารทางบัญชี อู่ซ่อมตัวถังและสี

การบันทึกข้อมูล การจัดเก็บใบเสร็จ และเอกสารทางบัญชีสำหรับอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์เป็นส่วนสำคัญในการบริหารงานและการเงินของธุรกิจของคุณ นี่คือตัวอย่างขั้นตอนที่คุณสามารถทำได้

  1. บันทึกข้อมูลการบริการซ่อมตัวถังและสีรถยนต์

    • เมื่อลูกค้านำรถมาให้บริการซ่อมตัวถังและสี คุณควรบันทึกรายละเอียดของงานบริการอย่างชัดเจน

      • ชื่อลูกค้าและข้อมูลติดต่อ
      • รายละเอียดของรถยนต์ (รุ่น, เลขทะเบียน, ประเภทของบริการที่ต้องการ)
      • วันที่ลูกค้านัดหรือวันที่เริ่มทำงาน
      • รายละเอียดเกี่ยวกับงานซ่อมตัวถังและสี (เช่น ซ่อมกระบะหน้า, พ่นสีใหม่, ปรับแต่ง, ฯลฯ)
    • บันทึกรายละเอียดการบริการและรายค่าบริการต้องถูกบันทึกเพื่อใช้ในการออกใบเสร็จ

  2. การจัดเก็บใบเสร็จและเอกสารทางบัญชี

    • เมื่องานบริการซ่อมตัวถังและสีรถยนต์เสร็จสิ้น คุณควรออกใบเสร็จให้แก่ลูกค้า ในใบเสร็จควรรวมถึงข้อมูลต่อไปนี้

      • ชื่อลูกค้าและข้อมูลติดต่อ
      • วันที่ออกใบเสร็จ
      • รายละเอียดของบริการ (รายการ, ราคาต่อหน่วย, จำนวน)
      • รวมยอดเงินที่ต้องชำระ
    • รักษาการเก็บรักษาใบเสร็จและเอกสารทางบัญชีอย่างปลอดภัย เพื่อใช้ในกระบวนการทางบัญชีและเพื่อประมวลผลภาษี

  3. การจัดการทางบัญชี

    • บันทึกข้อมูลการรับเงินจากลูกค้าและรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับงานบริการซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ในระบบบัญชีของคุณ

    • ตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีและการบัญชีของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลและการเงิน

    • ประมวลผลข้อมูลบัญชีเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการยื่นรายงานภาษีและการจัดทำงบการเงินประจำปี

การบันทึกข้อมูล การจัดเก็บใบเสร็จ และเอกสารทางบัญชีเป็นกระบวนการสำคัญที่จะช่วยให้อู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ของคุณมีการดำเนินงานอย่างเรียบร้อยและมีความเป็นระบบในด้านการเงินและบัญชี แนะนำให้ใช้ระบบบัญชีคอมพิวเตอร์หรือซอฟต์แวร์บัญชีเพื่อให้การบันทึกข้อมูลและการจัดเก็บเอกสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

คําศัพท์พื้นฐาน อู่ซ่อมตัวถังและสี ที่ควรรู้

นี่คือ 10 คำศัพท์เฉพาะทางในอุตสาหกรรมอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ที่ควรรู้

คำศัพท์ คำอธิบาย
ตัวถัง (Chassis) ส่วนโครงสร้างหลักของรถยนต์ที่รองรับส่วนประกอบและอุปกรณ์ต่าง ๆ
อาการเสียหาย (Damage) ความเสียหายหรือความบกพร่องที่เกิดขึ้นกับตัวถังหรือส่วนอื่น ๆ ของรถยนต์
การดัดแปลง (Modification) การปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์เพื่อประสิทธิภาพ ลักษณะเสริมสวย หรือความสบาย
การชดเชย (Compensation) การชดเชยค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุหรือความเสียหายของรถยนต์
การซ่อมแซม (Repair) กระบวนการซ่อมแซมส่วนที่เสียหายหรือชำรุดของรถยนต์ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ
การซ่อมแซมตัวถัง (Body Repair) กระบวนการซ่อมแซมส่วนที่เสียหายหรือชำรุดของตัวถังของรถยนต์
การพ่นสี (Painting) กระบวนการทาสีบนตัวถังหรือส่วนอื่น ๆ ของรถยนต์เพื่อเสริมสวยหรือซ่อมแซมสี
การเคลือบสี (Coating) กระบวนการเคลือบสีบนพื้นผิวของตัวถังหรือส่วนอื่น ๆ ของรถยนต์เพื่อป้องกันการสกปรกหรือความเสียหายจากสภาพอากาศ
การอัดฉีด (Injection) กระบวนการซ่อมแซมโดยใช้การอัดฉีดวัสดุเข้าไปในพื้นที่ที่เสียหาย
ความปลอดภัย (Safety) สภาพความปลอดภัยของรถยนต์ รวมถึงการตรวจสอบความปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหายต่อรถยนต์และผู้โดยสาร

ศัพท์เหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและสื่อสารกับช่างหรือผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณสามารถใช้ภาษาเหล่านี้ในการแสดงความต้องการและความเสียหายของรถยนต์ของคุณ จะช่วยให้ช่างเข้าใจและให้บริการอย่างที่สอดคล้องกับความต้องการของคุณได้ดีกว่า

ธุรกิจ อู่ซ่อมตัวถังและสี ต้อง จดทะเบียนบริษัท หรือไม่

เพื่อเปิดธุรกิจอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ในประเทศไทย คุณต้องจดทะเบียนธุรกิจและทำการจัดหาใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายประกอบกิจการ ต่อไปนี้คือรายการที่ควรจดทะเบียน

  1. การจดทะเบียนนิติบุคคล (Company Registration) คุณต้องจดทะเบียนนิติบุคคลเพื่อให้ธุรกิจของคุณเป็นนิติบุคคลที่ได้รับการจดทะเบียนและสามารถดำเนินกิจการในนามของบริษัทได้

  2. การขอรับใบอนุญาตการซ่อมแซมตัวถังและสีรถยนต์ (Repair and Paint License) ในบางกรณี คุณอาจต้องขอรับใบอนุญาตการซ่อมแซมตัวถังและสีรถยนต์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าคุณมีความสามารถในการซ่อมแซมตัวถังและทำสีรถยนต์อย่างถูกต้องและปลอดภัย

  3. การขอรับใบอนุญาตธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์ (Automotive Repair License) หากมีกฎหมายหรือข้อกำหนดท้องถิ่นที่กำหนดให้ธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์ต้องขอรับใบอนุญาต คุณควรสอบถามหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อตรวจสอบว่าคุณต้องทำการขอรับใบอนุญาตนี้หรือไม่

  4. การขอใบอนุญาตธุรกิจ (Business License) การทำธุรกิจอาจต้องขอใบอนุญาตธุรกิจจากหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อเป็นการรับรองว่าธุรกิจของคุณเป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดที่ให้กับธุรกิจในพื้นที่นั้น

  5. การขอใบอนุญาตเสริม (Supplementary License) การขอใบอนุญาตเสริมเพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจของคุณมีสิทธิในการให้บริการที่เกี่ยวข้อง เช่น การขายอะไหล่หรืออุปกรณ์สำหรับรถยนต์ หรือการติดตั้งระบบเสียงในรถยนต์

  6. การขอใบอนุญาตเสริมการทำสี (Painting Supplementary License) หากธุรกิจของคุณมีการทำสีรถยนต์ เป็นการเสริมการให้บริการ คุณอาจต้องขอใบอนุญาตเสริมเพื่อควบคุมความปลอดภัยและความถูกต้องของกระบวนการทำสี

หมายเหตุ การขอรับใบอนุญาตและการจดทะเบียนอาจแตกต่างกันตามกฎหมายและข้อบังคับของแต่ละประเทศหรือพื้นที่ ควรติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่คุณต้องการเปิดธุรกิจเพื่อขอความเห็นชอบและคำแนะนำในการขอรับใบอนุญาตและจดทะเบียนธุรกิจให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้ในพื้นที่นั้น

บริษัท อู่ซ่อมตัวถังและสี เสียภาษีอย่างไร

การเปิดอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ในประเทศไทยนั้นมีหลายประเภทของภาษีและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง ต่อไปนี้คือภาษีและเรื่องที่เกี่ยวข้องที่คุณควรพิจารณา

  1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ถ้าธุรกิจของคุณมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี คุณจะต้องลงทะเบียนเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในบริการอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ของคุณ อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจะขึ้นอยู่กับลักษณะของบริการและสินค้าที่คุณให้

  2. ภาษีอื่น ๆ นอกเหนือจากภาษีมูลค่าเพิ่ม อาจมีภาษีและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ของคุณ เช่น ภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าสิ่งแวดล้อม และค่าธรรมเนียมในการรับใบอนุญาต

  3. ภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax) หากคุณเป็นนิติบุคคลหรือบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ คุณจะต้องเสียภาษีนิติบุคคลตามกฎหมายภาษีนิติบุคคลของประเทศ อัตราภาษีนิติบุคคลจะขึ้นอยู่กับรายได้และกำไรของธุรกิจของคุณ

  4. ค่าสิ่งแวดล้อม ค่าใช้จ่ายสิ่งแวดล้อมอาจเกี่ยวข้องกับการจัดเก็บและการทำลายของสารพิษหรือสารที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการซ่อมแซมและทาสีรถยนต์

  5. ค่าธรรมเนียมในการรับใบอนุญาต ค่าธรรมเนียมในการรับใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจของคุณอาจจะต้องจ่ายตามกฎหมายและข้อบังคับท้องถิ่น

  6. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เช่นกรณีนี้ ค่าบริการซ่อมตัวถังและสีไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และมีการหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) 3% จากค่าบริการซ่อมตัวถังและสีในจำนวน 30,000 บาท และอู่ซ่อมตัวถังและสีมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% ดังนั้นการคำนวณรายได้ของอู่ซ่อมตัวถังและสีจะเป็นดังนี้ 
  1. ค่าบริการซ่อมตัวถังและสี (ไม่รวม VAT) 30,000 บาท

  2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% ค่าบริการซ่อมตัวถังและสี 30,000 บาท x 7% = 2,100 บาท

  3. หัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) 3% ของค่าบริการซ่อมตัวถังและสี (ไม่รวม VAT) 30,000 บาท x 3% = 900 บาท

ขั้นตอนการคำนวณรายได้

  1. ราคาของบริการซ่อมตัวถังและสี (รวม VAT) 30,000 บาท + 2,100 บาท = 32,100 บาท

  2. รายได้หลังจากหัก ณ ที่จ่าย 32,100 บาท – 900 บาท (Withholding Tax) = 31,200 บาท

ดังนั้น, อู่ซ่อมตัวถังและสีจะได้รับเงินเป็นจำนวน 31,200 บาท หลังจากการหัก ณ ที่จ่าย 3% จากค่าบริการซ่อมตัวถังและสีและรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% ในราคาของบริการซ่อมตัวถังและสีแล้ว

ควรติดต่อกรมสรรพากรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติมและคำแนะนำเกี่ยวกับภาษีและเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอู่ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ของคุณในปัจจุบันและอนาคต การใช้บริการที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องภาษีและการเงินอาจช่วยให้คุณประ

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )