รับทำบัญชี.COM | แหล่งที่มาของรายได้จัดเก็บภาษีมีอะไรบ้าง

ประเภทเงินรายได้ที่ต้องเสียภาษี

เนื่องจากผู้มีเงินได้ประกอบอาชีพแตกต่างกัน มีความยากง่ายหรือต้นทุนที่แตกต่างกัน เพื่อความ เป็นธรรม ในกฎหมายจึงได้แบ่งลักษณะเงินได้(พึงประเมิน) ออกเป็นกลุ่มๆ ตามความเหมาะสมเพื่อกำหนด วิธีคำนวณภาษีให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด ดังนี้

1. เงินได้ประเภทที่ 1 ได้แก่ เงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน ไม่ว่าจะเป็น

– เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส เบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ
– เงินค่าเช่าบ้านที่ได้รับจากนายจ้าง
– เงินที่คำนวณได้จากมูลค่าของการได้อยู่บ้าน ซึ่งนายจ้างให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่า
– เงินที่นายจ้างจ่ายชำระหนี้ใด ๆ ซึ่งลูกจ้างมีหน้าที่ต้องชำระ
– เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใด ๆ บรรดาที่ได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน เช่น มูลค่าของการได้รับประทานอาหาร เป็นต้น

2. เงินได้ประเภทที่ 2 ได้แก่ เงินได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำ หรือจากการรับทำงานให้ ไม่ว่าจะเป็น

– ค่าธรรมเนียม ค่านายหน้า ค่าส่วนลด
– เงินอุดหนุนในงานที่ทำ เบี้ยประชุม บำเหน็จ โบนัส
– เงินค่าเช่าบ้านที่ได้รับเนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำ หรือจากการรับทำงานให้
– เงินที่คำนวณได้จากมูลค่าของการได้อยู่บ้าน ที่ผู้จ่ายเงินได้ให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่า
– เงินที่ผู้จ่ายเงินได้จ่ายชำระหนี้ใด ๆ ซึ่งผู้มีเงินได้มีหน้าที่ต้องชำระ
– เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใด ๆ บรรดาที่ได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำหรือ จากการรับทำงานให้นั้น ไม่ว่าหน้าที่หรือตำแหน่งงาน หรืองานที่รับทำให้นั้นจะเป็นการประจำหรือชั่วคราว

3. เงินได้ประเภทที่ 3 ได้แก่ ค่าแห่งกู๊ดวิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธิ์หรือสิทธิอย่างอื่น เงินปี หรือเงินได้ที่มีลักษณะ เป็นเงินรายปีอันได้มาจากพินัยกรรม นิติกรรมอย่างอื่น หรือคำพิพากษาของศาล

4. เงินได้ประเภทที่ 4 ได้แก่ ดอกเบี้ย เงินปันผล เงินส่วนแบ่งกำไร   เงินลดทุน เงินเพิ่มทุน ผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนหุ้น ฯลฯ เป็นต้น
      (ก) ดอกเบี้ยพันธบัตร ดอกเบี้ยเงินฝาก ดอกเบี้ยหุ้นกู้ ดอกเบี้ยตั๋วเงิน ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม ไม่ว่าจะมี หลักประกันหรือไม่ ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่ายตามกฎหมายว่าด้วยภาษีเงินได้ปิโตรเลียมเฉพาะส่วนที่เหลือจากถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่ายตามกฎหมายดังกล่าว หรือผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอน กับราคาจำหน่ายตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น เป็นผู้ออกและจำหน่ายครั้งแรกในราคาต่ำกว่าราคาไถ่ถอน รวมทั้งเงินได้ที่มีลักษณะทำนองเดียวกันกับดอกเบี้ย ผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนอื่น ๆ ที่ได้จากการให้กู้ยืมหรือจากสิทธิเรียกร้องในหนี้ทุกชนิดไม่ว่าจะมีหลักประกันหรือไม่ก็ตาม
      (ข) เงินปันผล เงินส่วนแบ่งของกำไร หรือประโยชน์อื่นใดที่ได้จากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล กองทุนรวม หรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมายไทยให้จัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะสำหรับให้กู้ยืมเงิน ฯลฯ
      (ค) เงินโบนัสที่จ่ายแก่ผู้ถือหุ้น หรือผู้เป็นหุ้นส่วนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
      (ง) เงินลดทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเฉพาะส่วนที่จ่ายไม่เกินกว่ากำไรและเงินที่กันไว้รวมกัน
      (จ) เงินเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งตั้งจากกำไรที่ได้มาหรือรับช่วงกันไว้รวมกัน
      (ฉ) ผลประโยชน์ที่ได้จากการที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลควบเข้ากันหรือรับช่วงกันหรือ เลิกกัน ซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าเงินทุน
      (ช) ผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนการเป็นหุ้นส่วนหรือโอนหุ้น หุ้นกู้ พันธบัตร หรือตั๋วเงิน หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหนี้ ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้ออก ทั้งนี้เฉพาะซึ่งตีราคา เป็นเงินได้เกินกว่าที่ลงทุน
      เงินได้ประเภทที่ 4 ในหลาย ๆ กรณี กฎหมายให้สิทธิที่จะเลือกเสียภาษีโดยวิธีหักภาษี ณ ที่จ่าย แทนการนำไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่นตามหลักทั่วไป ซึ่งจะทำให้ผู้มีเงินได้ที่ต้องเสียภาษีตามบัญชีอัตราภาษี ในอัตราที่สูงกว่าอัตราภาษี หัก ณ ที่จ่าย สามารถประหยัดภาษีได้

5. เงินได้ประเภทที่ 5 เงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน เงินหรือประโยชน์อย่างอื่น ที่ได้เนื่องจาก
– การให้เช่าทรัพย์สิน
– การผิดสัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน
– การผิดสัญญาซื้อขายเงินผ่อนซึ่งผู้ขายได้รับคืนทรัพย์สินที่ซื้อขายนั้นโดยไม่ต้องคืนเงินหรือประโยชน์ที่ได้รับไว้แล้ว

6. เงินได้ประเภทที่ 6 ได้แก่ เงินได้จากวิชาชีพอิสระ คือวิชากฎหมาย การประกอบโรคศิลป วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบัญชี ประณีตศิลปกรรม หรือวิชาชีพอื่นซึ่งจะได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดชนิดไว้ 

7. เงินได้ประเภทที่ 7 ได้แก่ เงินได้จากการรับเหมาที่ผู้รับเหมาต้องลงทุนด้วยการจัดหาสัมภาระ ในส่วนสำคัญนอกจากเครื่องมือ 

8. เงินได้ประเภทที่ 8 ได้แก่ เงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง การขายอสังหาริมทรัพย์ หรือการอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในประเภทที่ 1 ถึงประเภทที่ 7 แล้ว

การจัดเก็บภาษีในประเทศไทย

การจัดเก็บภาษีในประเทศไทยเป็นระบบที่มีหลักการแบ่งแยกและกำหนดรูปแบบการเสียภาษีตามกฎหมายภาษีที่เกี่ยวข้อง ต่อไปนี้คือข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีในประเทศไทย:

  1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: การเสียภาษีเงินได้ในประเทศไทยเกี่ยวข้องกับรายได้ที่ได้รับจากเงินเดือนหรือรายได้อื่น ๆ เช่น รายได้จากการประกอบธุรกิจของบุคคลธรรมดา ภาษีจะถูกคำนวณตามอัตราภาษีที่ได้รับการกำหนดและกฎหมายภาษีในประเทศไทย บุคคลที่มีรายได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดจะต้องเสียภาษีเงินได้ตามอัตราที่เป็นที่รู้จักดีในประเทศไทย

  2. ภาษีเงินได้นิติบุคคล: ภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทยเกี่ยวข้องกับรายได้ที่ได้รับจากกิจการและธุรกิจต่าง ๆ ภาษีจะถูกคำนวณตามกฎหมายภาษีในประเทศไทย อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลอาจแตกต่างกันไปตามประเภทของกิจการและรายได้

  3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): VAT เป็นภาษีที่เรียกเก็บจากการซื้อขายสินค้าและบริการในประเทศไทย อัตราภาษี VAT ปัจจุบันในประเทศไทยคือ 7% และอาจมีอัตราภาษีที่ไม่เท่ากันสำหรับสินค้าหรือบริการบางประเภท

  4. อื่น ๆ: นอกจากนี้ยังมีภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น ภาษีอากรสและภาษีโรงแรม

การจัดเก็บภาษีในประเทศไทยดำเนินการโดยกรมสรรพากรภายใต้กระทรวงการคลัง หน้าที่ของกรมสรรพากรรวมถึงการตรวจสอบและควบคุมการปฏิบัติตามกฎหมายภาษี และเก็บภาษีให้ครบถ้วนและเป็นธรรม

โดยทั่วไปแล้ว ภาษีที่เกี่ยวข้องกับรายได้จะต้องส่งเงินให้กับกรมสรรพากรทุกปีตามกำหนด ภาษีอื่น ๆ เช่น VAT จะถูกคิดเงินในระหว่างการทำธุรกรรม

อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อมูลที่ละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายภาษีและเงื่อนไขการเสียภาษีในประเทศไทย ควรปรึกษาที่คณะที่ปรึกษาด้านภาษีหรือสำนักงานสรรพากรในประเทศไทย

การจัดเก็บภาษี มีกี่ประเภท

การจัดเก็บภาษีมีหลายประเภทตามลักษณะและวัตถุประสงค์ของภาษี โดยทั่วไปแล้ว ประเภทของภาษีสามารถแบ่งได้เป็นหมวดหมู่ต่อไปนี้:

  1. ภาษีรายได้: เป็นภาษีที่เก็บจากรายได้ที่บุคคลหรือนิติบุคคลได้รับ ตัวอย่างเช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล

  2. ภาษีธุรกิจ: เป็นภาษีที่เกี่ยวข้องกับกิจการและธุรกิจ ภาษีนี้อาจแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น ภาษีอากรส หรือภาษีเพิ่มมูลค่า (VAT)

  3. ภาษีที่ดินและอสังหาริมทรัพย์: เป็นภาษีที่เกี่ยวข้องกับความเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ภาษีนี้อาจรวมถึงภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีธุรกิจเฉพาะกิจ เป็นต้น

  4. ภาษีอื่น ๆ: มีภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมหรือการใช้บริการเฉพาะ ตัวอย่างเช่น ภาษีรถยนต์ ภาษีโรงเรือนเก็บเกี่ยว หรือภาษีอากรในการนำเข้าสินค้า

อย่างไรก็ตาม ประเภทของภาษีอาจมีความแตกต่างไปตามระบบภาษีและกฎหมายที่ใช้ในแต่ละประเทศ ความแตกต่างเหล่านี้อาจส่งผลต่อวิธีการคำนวณและการจัดเก็บภาษีในแต่ละประเทศ

รายได้ของรัฐบาล มี 4 ประเภท อะไรบ้าง

รายได้ของรัฐบาลสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักได้ดังนี้:

  1. รายได้จากภาษี: เป็นรายได้ที่รัฐบาลได้รับจากการเก็บภาษีตามกฎหมายภาษี ภาษีที่มักจะเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาลประกอบด้วยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ฯลฯ

  2. รายได้จากการขายทรัพย์สินและบริการ: เป็นรายได้ที่รัฐบาลได้รับจากการขายทรัพย์สินและบริการต่าง ๆ เช่น รายได้จากการขายที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ รายได้จากการขายสินค้าของรัฐวิสาหกิจ รายได้จากการให้บริการต่าง ๆ เช่น การให้บริการโทรศัพท์ การให้บริการขนส่ง ฯลฯ

  3. รายได้จากการกู้ยืม: เป็นรายได้ที่รัฐบาลได้รับจากการให้กู้ยืมเงินให้กับบุคคลหรือองค์กร รัฐบาลสามารถระดมทุนจากการออกหุ้นหรือการกู้ยืมเพื่อใช้เงินลงทุนในโครงการต่าง ๆ หรือใช้เพื่อเสริมสภาพการเงินของรัฐบาล

  4. รายได้จากบริหารงานราชการและพัฒนาเศรษฐกิจ: เป็นรายได้ที่รัฐบาลได้รับจากการบริหารงานราชการ การจัดซื้อจัดจ้าง การจัดสรรงบประมาณ รวมถึงรายได้จากการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เช่น รายได้จากการลงทุนในธุรกิจรัฐวิสาหกิจ รายได้จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ฯลฯ

รายได้ของรัฐบาลจะส่งผลต่องบประมาณและการดำเนินงานของรัฐบาล เพื่อให้สามารถรองรับการให้บริการสาธารณะและเสริมสร้างพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าไปได้ การจัดหาและการใช้รายได้ของรัฐบาลเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารงานราชการและการวางแผนทางการเงินของรัฐบาลในระยะยาว

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )