รับทำบัญชี.COM | การผลิตสินค้า StartUp มือใหม่เล็กๆเริ่มอย่างไร?

แผนธุรกิจการผลิตสินค้า

การเริ่มต้นธุรกิจการผลิตสินค้ามีขั้นตอนหลายขั้นตอนที่คุณควรทราบเพื่อให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ นี่คือขั้นตอนเบื้องต้นในการเริ่มต้นธุรกิจการผลิตสินค้า

  1. การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Idea) ให้คุณเริ่มต้นด้วยการสร้างแนวคิดธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการกำหนดว่าคุณจะผลิตสินค้าอะไร, สำหรับใคร, และเหมาะสมกับตลาดใด
  2. การศึกษาตลาด (Market Research) ทำการศึกษาตลาดเพื่อทราบว่ามีความต้องการในสินค้าของคุณหรือไม่ และใครเป็นคู่แข่งในตลาดนั้น
  3. การวางแผนธุรกิจ (Business Planning) สร้างแผนธุรกิจที่รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการผลิต, การเงิน, การตลาด, และการบริหารธุรกิจ
  4. การเลือกสถานที่ (Selecting a Location) เลือกสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการผลิตสินค้าของคุณ โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจ
  5. การสร้างโรงงานและอุปกรณ์ (Building Facilities and Equipment) สร้างหรือเช่าโรงงานที่จะใช้ในการผลิตสินค้า และระบบอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับการผลิต
  6. การสร้างระบบการผลิต (Setting up Production Processes) สร้างกระบวนการการผลิตสินค้า รวมถึงการสร้างหรือซื้อเครื่องมือและเทคโนโลยีที่จำเป็น
  7. การจัดหาวัตถุดิบ (Sourcing Raw Materials) จัดหาวัตถุดิบที่จำเป็นในการผลิตสินค้า และสร้างบรรจุภัณฑ์ในกรณีที่จำเป็น
  8. การจัดการการเงิน (Financial Management) วางแผนงบประมาณและจัดการการเงินของธุรกิจ รวมถึงการระบายรายได้และค่าใช้จ่าย
  9. การตลาดและการขาย (Marketing and Sales) สร้างแผนการตลาดและการขายเพื่อสร้างความรู้และความตื่นตะเวนให้กับสินค้าของคุณ
  10. การบริหารธุรกิจ (Business Management) ให้คุณสร้างระบบการบริหารธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการจัดทีมงานและการบริหารสิ่งที่เกี่ยวกับความเสี่ยง
  11. การปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ (Compliance with Laws and Regulations) ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดในการผลิตและการทำธุรกิจอย่างถูกต้องและสอดคล้อง
  12. การสร้างฐานลูกค้า (Building Customer Base) สร้างและรักษาฐานลูกค้าที่คุณสามารถขายสินค้าของคุณต่อไป
  13. การตรวจสอบและปรับปรุง (Evaluation and Improvement) ตรวจสอบแผนธุรกิจและกระบวนการผลิตของคุณเป็นระยะๆ และปรับปรุงตามความต้องการ
  14. การเริ่มต้นการผลิตและการตลาด (Start Production and Marketing) เมื่อทุกสิ่งพร้อมแล้ว คุณสามารถเริ่มการผลิตและการตลาดสินค้าของคุณได้
  15. การติดตามและการวัดผล (Monitoring and Measuring) ติดตามผลการดำเนินงานของธุรกิจและวัดผลตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

การเริ่มต้นธุรกิจการผลิตสินค้าอาจเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน แต่การวางแผนและการทำความเข้าใจในแต่ละขั้นตอนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตและประสบความสำเร็จในอนาคต

ตารางรายรับรายจ่าย ตัวอย่างบัญชี ธุรกิจการผลิตสินค้า

นี่คือตัวอย่างรูปแบบของตารางเปรียบเทียบรายรับและรายจ่ายในธุรกิจการผลิตสินค้า

รายการ รายรับ (บาท) รายจ่าย (บาท)
รายรับจากขายสินค้า XXX,XXX
รายรับจากการบริการ XXX,XXX
รายรับจากลูกค้ารายใหม่ XXX,XXX
รายรับจากการลงทุน XXX,XXX
รายรับจากแหล่งรายได้อื่นๆ XXX,XXX
รวมรายรับ XXX,XXX
รายการ รายรับ (บาท) รายจ่าย (บาท)
ค่าจ้างแรงงาน XXX,XXX
วัตถุดิบและวัสดุ XXX,XXX
ค่าเช่าสถานที่ XXX,XXX
ค่าน้ำ, ไฟ, โทรศัพท์, อินเทอร์เน็ต XXX,XXX
ค่าเช่าและการบำรุงรักษาเครื่องจักรและอุปกรณ์ XXX,XXX
ค่าโฆษณาและการตลาด XXX,XXX
ค่าใช้จ่ายในการจัดการทางการเงิน XXX,XXX
ค่าใช้จ่ายในการบริหารทั่วไปของธุรกิจ XXX,XXX
ค่าเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ XXX,XXX
รวมรายจ่าย XXX,XXX

| กำไร (ขาดทุน) | XXX,XXX | XXX,XXX |

โดยในตารางนี้

  • รายรับ (บาท) ระบุยอดรวมของรายรับทั้งหมดที่ธุรกิจได้รับในรอบเวลาที่ระบุ (เช่น เดือนหรือปี)
  • รายจ่าย (บาท) ระบุยอดรวมของรายจ่ายทั้งหมดในรอบเวลาที่ระบุ
  • ค่าจ้างแรงงาน (ค่าจ้างคนงาน), วัตถุดิบและวัสดุ (ค่าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า), ค่าเช่าสถานที่ (ค่าเช่าโรงงานหรือสำนักงาน), ค่าน้ำ, ไฟ, โทรศัพท์, อินเทอร์เน็ต (ค่าบริการสิ่งอำนวยความสะดวก), ค่าเช่าและการบำรุงรักษาเครื่องจักรและอุปกรณ์ (ค่าบำรุงรักษาเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต), ค่าโฆษณาและการตลาด (ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาสินค้า), ค่าใช้จ่ายในการจัดการทางการเงิน (ค่าจ้างทนายความ, ค่าบัญชี, ค่าตรวจสอบ), ค่าใช้จ่ายในการบริหารทั่วไปของธุรกิจ (ค่าใช้จ่ายในการบริหารทั่วไปของธุรกิจเช่น ค่าสำนักงาน, ค่าโทรศัพท์, ค่ารถไปรษณีย์), และค่าเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ (ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ)
  • กำไร (หรือขาดทุน) คำนวณโดยหักรายจ่ายจากรายรับ ถ้ามีรายรับมากกว่ารายจ่ายจะเป็นกำไร แต่ถ้ารายจ่ายมากกว่ารายรับจะเป็นขาดทุน

อาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจการผลิตสินค้า

การผลิตสินค้าเป็นสาขาธุรกิจที่มีหลายอาชีพที่เกี่ยวข้องกัน นี่คือบางอาชีพที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการผลิตสินค้า

  1. นักวาดและออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Designers and Drafters) ออกแบบและวาดรูปแบบสินค้าใหม่ ให้ความสนใจในรายละเอียดเทคนิคและการกำหนดรูปร่างของผลิตภัณฑ์
  2. วิศวกรผลิต (Manufacturing Engineers) วิเคราะห์กระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายในการผลิตสินค้า
  3. ช่างโรงงาน (Factory Workers) ปฏิบัติงานในโรงงานเพื่อผลิตสินค้า รวมถึงการประมาณความสามารถของการทำงาน
  4. คนทำสินค้าแบบหัตถการ (Artisans) ช่างที่มีความชำนาญในการสร้างสินค้าแบบหัตถการหรือทำด้วยมือ
  5. นักบริหารโรงงาน (Factory Managers) ควบคุมและจัดการกิจกรรมในโรงงานเพื่อให้ผลิตสินค้าตามมาตรฐานและเป้าหมายทางธุรกิจ
  6. พนักงานควบคุมคุณภาพ (Quality Control Inspectors) ตรวจสอบและตรวจวัดสินค้าเพื่อให้แน่ใจว่ามีคุณภาพตามมาตรฐาน
  7. พนักงานท่องเที่ยวโรงงาน (Factory Tour Guides) นำนักท่องเที่ยวเข้าชมโรงงานและอธิบายกระบวนการผลิตสินค้า
  8. พนักงานบริหารสายงาน (Production Line Supervisors) ควบคุมและจัดการสายงานในกระบวนการผลิต
  9. พนักงานบริการลูกค้า (Customer Service Representatives) ให้บริการและตอบคำถามของลูกค้าเกี่ยวกับสินค้า
  10. พนักงานบริหารความรู้ (Knowledge Management Specialists) จัดการข้อมูลและความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้า
  11. พนักงานฝ่ายบัญชีและการเงิน (Accountants and Financial Analysts) ดูแลงานบัญชีและการเงินของธุรกิจ
  12. พนักงานฝ่ายขนส่งและโลจิสติกส์ (Logistics and Transportation Professionals) จัดการการขนส่งสินค้าไปยังตลาดและคลังสินค้า
  13. พนักงานฝ่ายการตลาดและการขาย (Marketing and Sales Professionals) สร้างและดูแลการตลาดและการขายสินค้า
  14. พนักงานฝ่ายวิจัยและพัฒนา (Research and Development Specialists) ทำการวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่
  15. พนักงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology Professionals) พัฒนาและบริหารระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการผลิต
  16. นักบริหารทั่วไป (General Managers) ดูแลการบริหารธุรกิจในระดับสูงสุด
  17. พนักงานฝ่ายสื่อสาร (Communications Specialists) จัดการการสื่อสารภายในและภายนอกบริษัท
  18. พนักงานด้านความปลอดภัยและสุขภาพ (Health and Safety Officers) ดูแลความปลอดภัยและสุขภาพของพนักงานในโรงงาน
  19. นักบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Managers) รักษาและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
  20. นักบริหารโครงการ (Project Managers) ควบคุมโครงการและงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้า

วิเคราะห์ SWOT ธุรกิจการผลิตสินค้า

การวิเคราะห์ SWOT เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจรู้จักความแข็งแกร่งและความอ่อนแอภายใน และสรุปโอกาสและอุปสรรคที่อาจเจอในสภาวะปัจจุบัน นี่คือวิเคราะห์ SWOT สำหรับธุรกิจการผลิตสินค้า

Strengths (จุดแข็ง)

  1. คุณภาพสินค้า สินค้าที่มีคุณภาพสูงและมาตรฐานมากจะช่วยให้ธุรกิจครอบคลุมตลาดได้ดี
  2. กระบวนการผลิต มีกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพและมีความยืดหยุ่นในการปรับตัวตามความต้องการของลูกค้า
  3. ความเชี่ยวชาญ ความรู้และความเชี่ยวชาญในการผลิตสินค้าที่เฉพาะเจาะจง
  4. การสร้างยี่ห้อ มีการสร้างยี่ห้อที่แข็งแกร่งและมีความเชื่อถือจากลูกค้า
  5. ทรัพยากรมนุษย์ มีทีมงานที่มีความสามารถและมีประสบการณ์ในการผลิตสินค้า

Weaknesses (จุดอ่อน)

  1. ค่าใช้จ่ายสูง ค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิตและทำธุรกิจมีโอกาสที่จะสูงมาก
  2. ความเสี่ยงในการสูญเสียสินค้า การสูญเสียสินค้าในกระบวนการผลิตหรือขนส่งอาจเป็นปัญหา
  3. ข้อจำกัดในการขนส่ง มีข้อจำกัดในการขนส่งสินค้าถึงตลาดที่ต้องการ
  4. การแข่งขัน ต้องแข่งขันกับธุรกิจอื่นในตลาดที่มีคู่แข่งมาก
  5. สภาพการเงิน สภาพการเงินที่มีข้อจำกัดอาจจะทำให้ยากในการลงทุนในการขยายกิจการ

Opportunities (โอกาส)

  1. ตลาดเพิ่มขึ้น การขยายตลาดหรือการเปิดตลาดใหม่อาจเป็นโอกาสในการเพิ่มยอดขาย
  2. นวัตกรรมใหม่ การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ในกระบวนการผลิตสินค้า
  3. การสร้างยี่ห้อใหม่ การสร้างสินค้าหรือยี่ห้อใหม่เพื่อเข้าถึงตลาดใหม่
  4. การสร้างพาร์ทเนอร์ชิป (Partnerships) การร่วมงานกับบริษัทหรือองค์กรอื่นๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้าและทรัพยากรใหม่ๆ
  5. การสร้างระบบการจัดส่งที่ดีขึ้น การปรับปรุงระบบการจัดส่งเพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

Threats (อุปสรรค)

  1. คู่แข่งค้าแข่งใหญ่ การแข่งขันกับบริษัทใหญ่อาจเป็นภาระทางการค้า
  2. เปลี่ยนแปลงในกฎหมายและข้อบังคับ การเปลี่ยนแปลงในกฎหมายและข้อบังคับสามารถมีผลกระทบต่อการผลิตและการขาย
  3. ค่าใช้จ่ายในการผลิตสูง ค่าใช้จ่ายในการผลิตสินค้าอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากค่าวัตถุดิบและแรงงาน
  4. ข้อจำกัดในการนำเข้าวัตถุดิบ ข้อจำกัดในการนำเข้าวัตถุดิบหรือสินค้าอาจเป็นปัญหา
  5. สภาวะเศรษฐกิจ สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนอาจมีผลกระทบต่อธุรกิจ

การวิเคราะห์ SWOT ช่วยให้ธุรกิจมีภาพรวมของสถานการณ์และวางแผนแก้ไขยอดขายและการดำเนินธุรกิจในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คําศัพท์พื้นฐาน ธุรกิจการผลิตสินค้า ที่ควรรู้

  1. Production (การผลิต)
    • คำอธิบาย กระบวนการสร้างสินค้าหรือผลิตภัณฑ์
  2. Manufacturing (การผลิตและการผลิต)
    • คำอธิบาย กระบวนการการผลิตสินค้าจากวัตถุดิบหรือวัสดุ
  3. Inventory (สินค้าคงคลัง)
    • คำอธิบาย สินค้าหรือวัตถุดิบที่เก็บไว้เพื่อการผลิตหรือขายในอนาคต
  4. Quality Control (การควบคุมคุณภาพ)
    • คำอธิบาย กระบวนการตรวจสอบและรับรองว่าสินค้ามีคุณภาพตามมาตรฐาน
  5. Supply Chain (โซ่อุปทาน)
    • คำอธิบาย ระบบของงานจัดหาวัตถุดิบและวัสดุที่ใช้ในการผลิต
  6. Raw Materials (วัตถุดิบ)
    • คำอธิบาย วัสดุที่ใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อสร้างสินค้า
  7. Production Line (สายงานผลิต)
    • คำอธิบาย ลำดับของเครื่องจักรและกระบวนการที่ใช้ในการผลิตสินค้า
  8. Efficiency (ประสิทธิภาพ)
    • คำอธิบาย การใช้ทรัพยากรและเวลาในการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ
  9. Logistics (โลจิสติกส์)
    • คำอธิบาย การจัดการและควบคุมการขนส่งสินค้า
  10. Assembly (การประกอบ)
    • คำอธิบาย กระบวนการประกอบส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อสร้างสินค้าสมบูรณ์

ธุรกิจ ธุรกิจการผลิตสินค้า ต้อง จดทะเบียนบริษัท หรือไม่

การจดทะเบียนธุรกิจการผลิตสินค้าต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับในประเทศที่ธุรกิจกำลังดำเนินการ โดยปกติแล้ว การจดทะเบียนธุรกิจการผลิตสินค้าจะเริ่มต้นด้วยการจดทะเบียนธุรกิจตามกฎหมายของประเทศนั้นๆ และอาจต้องทำการจดทะเบียนเพิ่มเติมตามความเหมาะสม นี่คือบางรายการที่บริษัทธุรกิจการผลิตสินค้าอาจจะต้องจดทะเบียน

  1. การจดทะเบียนบริษัท คุณจะต้องจดบริษัทที่สร้างขึ้นในประเทศที่คุณต้องการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจของคุณมีติดต่อกับกฎหมายและข้อบังคับท้องถิ่น
  2. การจดทะเบียนธุรกิจ บางประเทศอาจกำหนดให้ธุรกิจทุกแห่งจดทะเบียนกับหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ถูกต้องและถูกกฎหมาย
  3. การรับอนุญาตหรือใบอนุญาต การผลิตบางประเภทของสินค้าอาจต้องขออนุญาตหรือใบอนุญาตจากหน่วยงานรัฐบาล ตัวอย่างเช่น อาหารและยา
  4. การจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา หากธุรกิจของคุณมีสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา เช่น สิทธิบัตรเครื่องจักรหรือการออกแบบ คุณอาจต้องจดทะเบียนสิทธินี้เพื่อปกป้องสิทธิของคุณ
  5. การจดทะเบียนฉลากสินค้า หากคุณผลิตสินค้าที่ต้องมีฉลากการระบุ คุณจะต้องจดทะเบียนฉลากสินค้าให้ตรงตามกฎหมายท้องถิ่น
  6. การจดทะเบียนพาณิชย์ บางที่อาจจะต้องจดทะเบียนธุรกิจของคุณในสำนักงานพาณิชย์หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อรับการสนับสนุนทางธุรกิจ
  7. การรับรองคุณภาพ สำหรับธุรกิจการผลิตสินค้าที่มีการตรวจสอบคุณภาพ คุณอาจต้องทำการรับรองคุณภาพสำหรับสินค้าของคุณ
  8. การจดทะเบียนภาษี คุณจะต้องทำการจดทะเบียนเพื่อประมวลภาษีเพื่อให้รัฐได้รับรายได้จากธุรกิจของคุณ
  9. การรับรองความปลอดภัย สำหรับบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าที่เป็นอันตราย คุณอาจต้องรับรองความปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
  10. การจดทะเบียนการค้า (Trademark Registration) หากคุณมีชื่อแบรนด์หรือโลโก้ที่คุณต้องการปกป้อง คุณอาจจะต้องจดทะเบียนการค้าเพื่อปกป้องสิทธิในการใช้ชื่อแบรนด์หรือโลโก้นั้น

ควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายหรือหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องในประเทศของคุณเพื่อให้คุณทราบถึงการจดทะเบียนที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจการผลิตสินค้าของคุณ

บริษัท ธุรกิจการผลิตสินค้า เสียภาษีอย่างไร

ธุรกิจการผลิตสินค้าอาจต้องเสียภาษีต่างๆ ตามกฎหมายและข้อบังคับในประเทศที่ธุรกิจดำเนินการ ภาษีที่ต้องเสียอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศและมีหลายประเภท นี่คือบางประเภทของภาษีที่ธุรกิจการผลิตสินค้าอาจต้องเสีย

  1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการ บางประเทศอาจมีระบบ VAT ที่บังคับใช้ในการผลิตและการจำหน่ายสินค้า
  2. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา บริษัทที่มีกำไรจากการผลิตสินค้าอาจต้องเสียภาษีเงินได้ตามอัตราที่กำหนดโดยกฎหมายท้องถิ่น
  3. ภาษีเงินได้บริษัท บริษัทที่มีกำไรจากการผลิตสินค้าจะต้องเสียภาษีเงินได้บริษัทตามกฎหมายท้องถิ่น
  4. ภาษีสิทธิ์ในทรัพย์สิน (Property Tax) บางที่อาจมีการเสียภาษีสิทธิ์ในทรัพย์สินสำหรับสิ่งที่คุณครอบครอง เช่น โรงงานหรือที่ดินที่ใช้ในการผลิต
  5. ภาษีนายหน้า (Excise Tax) บางประเทศมีการเสียภาษีนายหน้าสำหรับสินค้าที่เป็นไปในรูปแบบเฉพาะ เช่น น้ำหอมหรือบุหรี่
  6. ภาษีน้ำมันและพลังงาน ถ้าธุรกิจการผลิตสินค้าใช้น้ำมันหรือพลังงานสำหรับการผลิต อาจต้องเสียภาษีน้ำมันหรือพลังงานตามกฎหมายท้องถิ่น
  7. ภาษีซื้อหรือภาษีสินค้าและบริการ (Sales Tax) ในบางประเทศ ธุรกิจการผลิตสินค้าอาจต้องเสียภาษีที่เรียกว่าภาษีสินค้าและบริการเมื่อซื้อวัตถุดิบหรืออุปกรณ์
  8. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ถ้าธุรกิจมีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง อาจต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามมูลค่า
  9. ภาษีขายต่างประเทศ (Export Tax) บางประเทศมีภาษีขายต่างประเทศสำหรับสินค้าที่ส่งออกไปยังต่างประเทศ
  10. ภาษีนำเข้า (Import Tax) บางธุรกิจการผลิตสินค้าอาจต้องเสียภาษีนำเข้าสำหรับวัตถุดิบหรืออุปกรณ์ที่นำเข้ามาใช้ในการผลิต

ควรรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงินหรือผู้รับรองบัญชีเพื่อให้ความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการผลิตสินค้าของคุณอย่างถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมายท้องถิ่นในประเทศของคุณ

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )