รับทำบัญชี.COM | โครงสร้างตําแหน่งงานในโรงงานมี 100 แผนก?

ตำแหน่งในโรงงาน มีอะไรบ้าง

  1. ผู้บริหารโรงงาน (Factory Manager)
  2. ผู้จัดการผลิต (Production Manager)
  3. วิศวกรผลิต (Production Engineer)
  4. ผู้จัดการคุณภาพ (Quality Manager)
  5. วิศวกรความปลอดภัย (Safety Engineer)
  6. ผู้จัดการส่งออก (Export Manager)
  7. ผู้จัดการจัดซื้อ (Purchasing Manager)
  8. ผู้จัดการการเงิน (Finance Manager)
  9. ผู้จัดการบุคคล (HR Manager)
  10. ผู้จัดการการตลาด (Marketing Manager)
  11. พนักงานบัญชี (Accountant)
  12. ผู้จัดการโรงงานผลิต (Manufacturing Plant Manager)
  13. พนักงานควบคุมคุณภาพ (Quality Control Inspector)
  14. ช่างเครื่องกล (Mechanical Technician)
  15. ช่างไฟฟ้า (Electrician)
  16. ช่างเชื่อม (Welder)
  17. ช่างโลหะ (Metalworker)
  18. ช่างประปา (Plumber)
  19. ช่างอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Technician)
  20. ช่างซ่อมบำรุง (Maintenance Technician)
  21. ช่างก่อสร้าง (Construction Worker)
  22. ช่างพิมพ์ (Printer)
  23. ช่างทาสี (Painter)
  24. ผู้บริหารการจัดซื้อ (Procurement Manager)
  25. ผู้บริหารการผลิต (Production Supervisor)
  26. ช่างทดลอง (Lab Technician)
  27. นักวางแผนการผลิต (Production Planner)
  28. ผู้ควบคุมสต็อก (Inventory Controller)
  29. พนักงานบรรจุภัณฑ์ (Packaging Operator)
  30. พนักงานประกอบสินค้า (Assembler)
  31. ช่างไฟฟ้าอุตสาหกรรม (Industrial Electrician)
  32. ช่างตัดเย็บผ้า (Textile Seamstress)
  33. ช่างเรียบผ้า (Textile Finisher)
  34. ช่างกลึง (Machinist)
  35. ช่างทำหมวก (Hat Maker)
  36. ช่างสีผ้า (Dyer)
  37. ช่างปรับแต่งรถยนต์ (Automotive Mechanic)
  38. ช่างจัดทำเครื่องปั้น (Pottery Maker)
  39. ช่างทอสายไฟ (Wire Drawer)
  40. ช่างสร้างปืน (Gunsmith)
  41. ช่างคอมพิวเตอร์ (Computer Technician)
  42. ช่างกุญแจ (Locksmith)
  43. ช่างรองเท้า (Shoemaker)
  44. ช่างรับรีดเหล็ก (Steelworker)
  45. ช่างหล่อ (Caster)
  46. ช่างแก้ไขเครื่องเสียง (Audio Technician)
  47. ช่างทำเฟอร์นิเจอร์ (Furniture Maker)
  48. ช่างขุดหลุม (Excavator Operator)
  49. ช่างเชื่อมเงิน (Silversmith)
  50. ช่างปูน (Bricklayer)
  51. ช่างเรียบขนมปัง (Baker)
  52. ช่างเสื้อผ้า (Tailor)
  53. ช่างทำเบเกอรี่ (Pastry Chef)
  54. ช่างทำผลิตภัณฑ์จากไม้ (Woodworker)
  55. ช่างภาพ (Photographer)
  56. ช่างตัดผม (Hairdresser)
  57. ช่างทำนูน (Engraver)
  58. ช่างปูน (Plasterer)
  59. ช่างเฟอร์นิเจอร์ (Cabinetmaker)
  60. ช่างซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า (Appliance Repair Technician)
  61. ช่างรีดเหล็ก (Forging Operator)
  62. ช่างทำกระเบื้อง (Tile Setter)
  63. ช่างซ่อมรถ (Mechanic)
  64. ช่างดัดแปลงรถยนต์ (Auto Body Technician)
  65. ช่างปะการัง (Blacksmith)
  66. ช่างทำจักรยาน (Bicycle Mechanic)
  67. ช่างเคมี (Chemist)
  68. ช่างขัดกระจก (Glass Polisher)
  69. ช่างสร้างสรรค์ (Artisan)
  70. ช่างขัดโลหะ (Metal Polisher)
  71. ช่างทำหนัง (Leatherworker)
  72. ช่างประดิษฐ์ (Inventor)
  73. ช่างซ่อมแซม (Repairman)
  74. ช่างทำเครื่องเทียม (Instrument Maker)
  75. ช่างขัดระบบเบรค (Brake Technician)
  76. ช่างซ่อมบำรุงรถ (Car Mechanic)
  77. ช่างดูแลเครื่องจักร (Machine Operator)
  78. ช่างติดตั้ง (Installer)
  79. ช่างยิ้ม (Wigmaker)
  80. ช่างทำผลิตภัณฑ์ยา (Pharmaceutical Manufacturing Technician)
  81. ช่างกล (Precision Mechanic)
  82. ช่างภาพยนต์ (Cinematographer)
  83. ช่างตัดเสื้อผ้า (Cloth Cutter)
  84. ช่างช่วย (Helper)
  85. ช่างทำบทความ (Copywriter)
  86. ช่างสวน (Gardener)
  87. ช่างปรับแต่งรถ (Auto Customizer)
  88. ช่างซ่อมจักรยานยนต์ (Motorcycle Mechanic)
  89. ช่างฝีมือ (Craftsman)
  90. ช่างโปร่งแสง (Lighting Technician)
  91. ช่างแกะสลัก (Carver)
  92. ช่างเสริมสวย (Cosmetologist)
  93. ช่างเคลือบโลหะ (Metal Coater)
  94. ช่างทำกระจก (Glassblower)
  95. ช่างบรรจุภัณฑ์ (Packager)
  96. ช่างทำแม่พิมพ์ (Die Maker)
  97. ช่างตัดและเย็บผ้า (Fabric Cutter and Sewer)
  98. ช่างทำหนังสือ (Bookbinder)
  99. ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า (Appliance Repairman)
  100. ช่างพิมพ์ (Printer)

ในการเริ่มต้นธุรกิจโรงงานหรือการทำงานในโรงงาน เราต้องคำนึงถึงหลายด้านต่าง ๆ เพื่อให้ธุรกิจมีความสำเร็จและเติบโตอย่างเหมาะสม

  1. วางแผนและการวิจัยตลาด จำเป็นต้องทำการวางแผนธุรกิจให้มีความเป็นไปตามความต้องการของตลาด โดยศึกษาและวิจัยตลาดเพื่อทราบถึงความต้องการและความสนใจของลูกค้าเป้าหมาย
  2. เลือกสถานที่และโครงสร้างโรงงาน เลือกสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการสร้างโรงงานและวางแผนโครงสร้างให้มีประสิทธิภาพ
  3. การจัดหาแรงงาน ค้นหาและเลือกแรงงานที่มีความสามารถในงานที่เกี่ยวข้องและสอดคล้องกับความต้องการของโรงงาน
  4. การจัดการการผลิตและคุณภาพ ควบคุมกระบวนการผลิตและคุณภาพสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และมีความพร้อมในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า
  5. การจัดการการเงินและบัญชี จัดการเรื่องการเงินและบัญชีอย่างมีระบบ เพื่อความโปร่งใสและความเสถียรในการดำเนินธุรกิจ
  6. การตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ การตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงงานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การผลิตเป็นไปตามปกติ
  7. การดูแลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย คำนึงถึงการดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในโรงงาน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและปัญหาทางสิ่งแวดล้อม
  8. การวางแผนการเพิ่มขึ้นทางธุรกิจ จัดแผนเพื่อเติมเต็มความต้องการของตลาด การขยายธุรกิจ หรือการเปิดสาขาใหม่
  9. การติดต่อและความสัมพันธ์กับลูกค้า สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เพื่อให้ความพึงพอใจและสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์
  10. การติดตามและประเมินผล ติดตามผลการดำเนินธุรกิจและประเมินผลสำหรับการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจต่อไป

ฝ่ายผลิต ในโรงงานเรียกว่าอะไร

ฝ่ายผลิตในโรงงานสามารถเรียกว่าหลายอย่างได้ แต่มักจะใช้คำนำหน้า “ฝ่ายผลิต” หรือ “แผนกผลิต” เพื่อระบุส่วนงานที่รับผิดชอบในการผลิตสินค้าหรือบริการของบริษัทหรือโรงงาน อย่างไรก็ตาม การเรียกว่าอะไรบัญชาขึ้นอยู่กับความเคลื่อนไหวและวัตถุประสงค์ของบริษัทเอง และอาจมีความแตกต่างในแต่ละอุตสาหกรรมหรือธุรกิจ
นอกจากนี้ ยังอาจเรียกว่า “แผนกผลิตและการผลิต” หรือ “ส่วนผลิตและการผลิต” ได้อีกด้วยเพื่อระบุการบริหารแผนกหรือส่วนงานนี้ในบริษัท

ฝ่ายต่างๆในบริษัท มีอะไรบ้าง

ในบริษัทหรือองค์กรมักจะมีหลายฝ่ายหรือแผนกที่รับผิดชอบในงานและภารกิจที่แตกต่างกันเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ภายในบริษัทสามารถมีฝ่ายหรือแผนกต่าง ๆ ที่สำคัญและมักพบได้ เช่น
ฝ่ายการบริหารบริษัท (Management) ฝ่ายนี้รับผิดชอบในการกำหนดนโยบายและกลยุทธ์ทั่วไปของบริษัท และควบคุมการดำเนินงานของทุกฝ่ายแผนก
ฝ่ายการเงินและบัญชี (Finance and Accounting) ฝ่ายนี้รับผิดชอบในการจัดการเรื่องการเงินของบริษัท รวมถึงบริหารการบัญชีและรายงานการเงิน
ฝ่ายการขายและการตลาด (Sales and Marketing) ฝ่ายนี้รับผิดชอบในการพัฒนาแผนการขาย การตลาด และการสรรหาลูกค้าใหม่
ฝ่ายวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ฝ่ายนี้รับผิดชอบในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ และทดสอบการใช้งาน
ฝ่ายการผลิต (Production) ฝ่ายนี้รับผิดชอบในการผลิตสินค้าหรือบริการตามแผนการผลิตและรักษาคุณภาพ
ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Human Resources) ฝ่ายนี้รับผิดชอบในการจัดการทรัพยากรบุคคลของบริษัท รวมถึงการจ้างงาน การบริหารจัดการพนักงาน และการพัฒนาบุคลากร
ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) ฝ่ายนี้รับผิดชอบในการบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์
ฝ่ายกฎหมายและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ (Legal and Compliance) ฝ่ายนี้รับผิดชอบในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการของบริษัท
ฝ่ายบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ฝ่ายนี้รับผิดชอบในการจัดการและควบคุมความเสี่ยงทางธุรกิจ
ฝ่ายบริหารส่วนบุคคลและการพัฒนาองค์กร (Organizational Development) ฝ่ายนี้รับผิดชอบในการพัฒนาองค์กรให้มีความประสบความสำเร็จและความยืดหยุ่น
ฝ่ายบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (Customer Relationship Management) ฝ่ายนี้รับผิดชอบในการดูแลและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
ฝ่ายบริหารโรงงานหรือการผลิต (Factory or Plant Management) ฝ่ายนี้รับผิดชอบในการบริหารจัดการโรงงานหรือสถานที่ผลิต
ฝ่ายบริหารโลจิสติกส์และจัดส่ง (Logistics and Supply Chain Management) ฝ่ายนี้รับผิดชอบในการจัดการการจัดส่งสินค้าและการจัดหาวัตถุดิบ
ฝ่ายการบริหารความรู้และการเรียนรู้ (Knowledge Management) ฝ่ายนี้รับผิดชอบในการจัดการความรู้และการแบ่งปันข้อมูลภายในองค์กร
ฝ่ายการสื่อสาร (Communications) ฝ่ายนี้รับผิดชอบในการสื่อสารภายในและภายนอกองค์กร
ส่วนนี้เป็นตัวอย่างของฝ่ายหรือแผนกที่มักพบในบริษัท อย่างไรก็ตาม การองค์ความรู้และการเป็นไปตามกำหนดของแต่ละบริษัทอาจทำให้มีความแตกต่างในการตั้งชื่อและระบุฝ่ายหรือแผนกต่าง ๆ แต่ล้วนแล้วแต่จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัท

ตําแหน่งฝ่ายผลิต มีอะไรบ้าง

ฝ่ายผลิตในบริษัทมักมีหลายตำแหน่งหรือระดับตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตและการจัดการโรงงาน เหล่าตำแหน่งเหล่านี้มีหน้าที่และความรับผิดชอบที่แตกต่างกันอาจเป็นดังนี้
ผู้จัดการโรงงาน (Plant Manager) ผู้จัดการโรงงานเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการทั้งโรงงาน ซึ่งรวมถึงการผลิต คุณภาพ การจัดส่ง และการบริหารทรัพยากรที่เกี่ยวข้อง
ผู้จัดการผลิต (Production Manager) ผู้จัดการผลิตรับผิดชอบในการวางแผนและควบคุมกระบวนการผลิต เพื่อให้สินค้าหรือบริการถูกผลิตให้มีคุณภาพและส่งมอบตรงตามเป้าหมาย
ผู้ควบคุมคุณภาพ (Quality Control Manager) ผู้ควบคุมคุณภาพรับผิดชอบในการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพของสินค้าหรือบริการที่ผลิต เพื่อให้ได้ตามมาตรฐานคุณภาพที่กำหนด
ช่างผลิต (Production Supervisor) ช่างผลิตคือผู้ควบคุมการดำเนินงานในกระบวนการผลิต ซึ่งรวมถึงการควบคุมคนงานและเครื่องจักร
ช่างเครื่องจักร (Machine Operator) ช่างเครื่องจักรเป็นคนที่ทำงานกับเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าตามแบบแผน
พนักงานควบคุมสินค้าสำเร็จรูป (Finished Goods Controller) พนักงานนี้รับผิดชอบในการจัดเก็บและควบคุมสินค้าสำเร็จรูปที่ผลิตแล้ว เพื่อให้สามารถจัดส่งหรือจัดเก็บให้ถูกต้อง
พนักงานบริหารสายการผลิต (Production Line Supervisor) พนักงานระดับนี้รับผิดชอบในการควบคุมและบริหารสายการผลิตเพื่อให้กระบวนการผลิตเป็นไปได้อย่างราบรื่น
พนักงานควบคุมวัตถุดิบ (Raw Materials Controller) พนักงานนี้รับผิดชอบในการจัดการการเข้ารับวัตถุดิบและวัสดุที่ใช้ในกระบวนการผลิต
ช่างซ่อมบำรุง (Maintenance Technician) ช่างซ่อมบำรุงรับผิดชอบในการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ในโรงงาน
พนักงานควบคุมสิ่งแวดล้อม (Environmental Control Officer) พนักงานระดับนี้รับผิดชอบในการควบคุมและดูแลสิ่งแวดล้อมในโรงงานเพื่อให้ตรงตามกฎหมายและมาตรฐาน
พนักงานควบคุมความปลอดภัย (Safety Officer) พนักงานระดับนี้รับผิดชอบในการควบคุมและดูแลความปลอดภัยในโรงงานเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
ช่างแพทย์ (Quality Engineer) ช่างแพทย์รับผิดชอบในการวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อให้สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง
พนักงานโรงงาน (Factory Worker) พนักงานทั่วไปที่ทำงานในโรงงานเพื่อสนับสนุนกระบวนการผลิต
ผู้จัดการควบคุมคุณภาพ (Quality Control Manager) ผู้จัดการควบคุมคุณภาพรับผิดชอบในการสร้างและดูแลระบบควบคุมคุณภาพ
หมายเหตุ การตั้งชื่อตำแหน่งและระดับตำแหน่งอาจแตกต่างกันในแต่ละบริษัท และอุตสาหกรรม ข้อมูลข้างต้นเป็นตัวอย่างเท่านั้นและมีความหลากหลายตามบริษัทและองค์กรที่แตกต่างกัน

ข้อตกลงอาเซียนวิชาชีพบัญชี

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )