โรงงาน

รับทำบัญชี.COM | บัญชีโรงงานรายเดือนทําอะไรบ้าง ขนาดเงินได้?

โรงงาน

การเริ่มต้นทำโรงงานเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน แต่ขั้นตอนหลักๆ สามารถอธิบายได้ดังนี้

  1. วางแผนและการศึกษาความเป็นไปได้ ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นทำโรงงาน คุณควรทำการวางแผนโครงการและศึกษาความเป็นไปได้ให้ละเอียด รวมถึงการศึกษาตลาดและคู่แข่งในอุตสาหกรรมนั้น การศึกษาความเป็นไปได้จะช่วยให้คุณทราบถึงภาพรวมและปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้คุณสามารถวางแผนและดำเนินการในทิศทางที่ถูกต้องได้

  2. พิจารณาและเลือกสถานที่ คุณต้องเลือกสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการสร้างโรงงานของคุณ คำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น พื้นที่ที่พอเพียงสำหรับโรงงานของคุณ ความสะดวกในการขนส่งวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูป การเข้าถึงแรงงาน และอื่นๆ

  3. ตรวจสอบกฎหมายและรับอนุญาต ตรวจสอบกฎหมายท้องถิ่นและรับอนุญาตที่จำเป็นเพื่อการดำเนินกิจการโรงงานของคุณ นี่อาจรวมถึงการขอใบอนุญาตธุรกิจ การปฏิบัติตามกฎระเบียบสิ่งแวดล้อม และการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน

  4. ออกแบบและสร้างโรงงาน คุณต้องออกแบบโรงงานของคุณให้เหมาะสมกับกิจการที่คุณต้องการดำเนิน รวมถึงการออกแบบเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับกระบวนการผลิตของคุณ ในขั้นตอนนี้คุณควรพิจารณาประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่ ความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกในการดำเนินกิจการ

  5. หากเป็นไปได้ ระบบเครื่องจักรและเทคโนโลยี ควรพิจารณาการใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัยในการสร้างโรงงานของคุณ นี่อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดการเสียเวลา และลดต้นทุนในการผลิต

  6. สร้างทีมงาน คุณต้องสร้างทีมงานที่มีความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้องกับโรงงานของคุณ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในการจัดการโรงงาน เช่น ผู้บริหารโรงงาน วิศวกร ช่าง เป็นต้น คุณต้องแนะนำเป้าหมายและค่านิยมของการทำงานให้แก่ทีมของคุณ

  7. สร้างระบบการจัดการ คุณต้องสร้างระบบการจัดการที่เหมาะสมสำหรับโรงงานของคุณ เช่น การวางแผนการผลิต การจัดการคลังสินค้า การจัดการความปลอดภัย และระบบการตรวจสอบคุณภาพ เพื่อให้การดำเนินกิจการเป็นไปได้ตามแผนและมีปราสามารถให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง

  8. จัดหาวัตถุดิบและพันธมิตรธุรกิจ คุณต้องสร้างการส่งเสริมและความสัมพันธ์กับผู้ผลิตวัตถุดิบและพันธมิตรธุรกิจที่สามารถให้วัตถุดิบและวัสดุที่จำเป็นสำหรับโรงงานของคุณได้อย่างต่อเนื่องและคุ้มค่า

  9. ทดสอบและปรับปรุง หลังจากที่โรงงานของคุณเริ่มเดินทางไปสู่การดำเนินกิจการ คุณควรทดสอบกระบวนการผลิตและระบบที่สร้างขึ้น โดยการตรวจสอบและปรับปรุงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

  10. ปรับตัวและพัฒนา การทำงานในโรงงานไม่สิ้นสุดที่ขั้นตอนที่ 9 เท่านั้น คุณต้องพัฒนาและปรับปรุงโรงงานของคุณอย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้เข้ากับสภาวะตลาดและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น

การเริ่มต้นทำโรงงานเป็นโครงการที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลาอย่างมาก เป็นสิ่งที่คุณควรทำการวางแผนและศึกษาอย่างละเอียด และคุณอาจต้องได้รับคำปรึกษาหรือความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์ในการก่อสร้างและการจัดการโรงงานเพื่อให้คุณสามารถดำเนินกิจการอย่างประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว

108 โรงงานมีดังนี้

  1. โรงงานผลิต
  2. โรงงานอุตสาหกรรม
  3. โรงงานยา
  4. โรงงานยาง
  5. โรงงานอาหาร
  6. โรงงานเครื่องดื่ม
  7. โรงงานสิ่งทอ
  8. โรงงานเสื้อผ้า
  9. โรงงานรถยนต์
  10. โรงงานรถจักรยานยนต์
  11. โรงงานเซรามิก
  12. โรงงานกระดาษ
  13. โรงงานพลาสติก
  14. โรงงานหินอ่อน
  15. โรงงานสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
  16. โรงงานยางพารา
  17. โรงงานเหล็ก
  18. โรงงานเคมี
  19. โรงงานพลังงาน
  20. โรงงานอาหารปรุงสำเร็จรูป
  21. โรงงานยางเกรด
  22. โรงงานพิมพ์
  23. โรงงานกาแฟ
  24. โรงงานอิเล็กทรอนิกส์
  25. โรงงานเส้นใย
  26. โรงงานอาหารเลี้ยงสัตว์
  27. โรงงานพลาสติกและยาง
  28. โรงงานสินค้าเกษตร
  29. โรงงานปิโตรเลียม
  30. โรงงานสารเคมี
  31. โรงงานแปรรูปอาหาร
  32. โรงงานเนื้อสัตว์
  33. โรงงานฟาร์ม
  34. โรงงานผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
  35. โรงงานยางลาย
  36. โรงงานบรรจุภัณฑ์
  37. โรงงานขนม
  38. โรงงานอุตสาหกรรมอาหาร
  39. โรงงานซีเมนต์
  40. โรงงานอาหารแช่แข็ง
  41. โรงงานทองแดง
  42. โรงงานยานพาหนะ
  43. โรงงานผลิตภัณฑ์เครื่องเขียน
  44. โรงงานหลอม
  45. โรงงานสมุนไพร
  46. โรงงานยางน้ำมัน
  47. โรงงานยางรถยนต์
  48. โรงงานอาหารสำเร็จรูป
  49. โรงงานอาหารเสริม
  50. โรงงานเหล็กและเหล็กกล้า
  51. โรงงานขายส่ง
  52. โรงงานผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
  53. โรงงานเกษตรกรรม
  54. โรงงานยาสูบ
  55. โรงงานอุปกรณ์ไฟฟ้า
  56. โรงงานพรม
  57. โรงงานผลิตเครื่องเขียน
  58. โรงงานอุตสาหะกรรมยานยนต์
  59. โรงงานอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม
  60. โรงงานยาสีฟัน
  61. โรงงานสื่อสารมวลชน
  62. โรงงานยาหมอ
  63. โรงงานรถบัส
  64. โรงงานอุตสาหกรรมอาหารเลี้ยงสัตว์
  65. โรงงานอาหารเสริมอาหาร
  66. โรงงานพลาสติกและยางอุตสาหกรรม
  67. โรงงานยาผง
  68. โรงงานยาหมวดหมู่
  69. โรงงานเสียงและภาพยนตร์
  70. โรงงานอุปกรณ์การเกษตร
  71. โรงงานอุปกรณ์ประกอบยานยนต์
  72. โรงงานสื่อบันเทิง
  73. โรงงานสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  74. โรงงานอาหารสัตว์
  75. โรงงานอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพ
  76. โรงงานพลาสติกและยางรถยนต์
  77. โรงงานพลาสติกและยางทั่วไป
  78. โรงงานขนมอุตสาหกรรม
  79. โรงงานเครื่องแต่งกาย
  80. โรงงานแปรรูปอาหารสด
  81. โรงงานอุปกรณ์กีฬา
  82. โรงงานสารเคมีพืช
  83. โรงงานอาหารเสริมอิเล็กทรอนิกส์
  84. โรงงานผลิตเครื่องประดับ
  85. โรงงานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
  86. โรงงานอุตสาหกรรมของเล่น
  87. โรงงานอาหารผิวหนัง
  88. โรงงานยาและเครื่องสำอาง
  89. โรงงานอุปกรณ์และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์
  90. โรงงานสินค้าไฟฟ้า
  91. โรงงานอุปกรณ์แต่งบ้าน
  92. โรงงานอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ
  93. โรงงานอุปกรณ์กล้อง
  94. โรงงานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
  95. โรงงานยาสมุนไพร
  96. โรงงานสถาปัตยกรรม
  97. โรงงานอุปกรณ์ทหาร
  98. โรงงานเครื่องใช้ไฟฟ้า
  99. โรงงานเครื่องใช้ในครัวเรือน
  100. โรงงานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก

ตารางรายรับรายจ่าย ตัวอย่างบัญชี โรงงาน

ต่อไปนี้คือตัวอย่างของตารางรายรับรายจ่ายและบัญชีโรงงาน

ตารางรายรับรายจ่าย

รายการ รายรับ (บาท) รายจ่าย (บาท)
ยอดขายสินค้า 500,000  
บริการให้เช่าเครื่องจักร 100,000  
รายรับอื่นๆ 50,000  
รวมรายรับ 650,000  
ค่าวัสดุและอุปกรณ์   200,000
ค่าจ้างแรงงาน   150,000
ค่าเช่าโรงเรือนและที่ดิน   100,000
ค่าใช้จ่ายการผลิต   100,000
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ   50,000
รวมรายจ่าย   600,000
กำไร (ขาดทุน)   50,000

บัญชีโรงงาน

  1. บัญชีรายรับ

    • กลุ่มบัญชี รายรับ
    • 1010 ยอดขายสินค้า
    • 1020 บริการให้เช่าเครื่องจักร
    • 1030 รายรับอื่นๆ
  2. บัญชีรายจ่าย

    • กลุ่มบัญชี รายจ่าย
    • 2010 ค่าวัสดุและอุปกรณ์
    • 2020 ค่าจ้างแรงงาน
    • 2030 ค่าเช่าโรงเรือนและที่ดิน
    • 2040 ค่าใช้จ่ายการผลิต
    • 2050 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
  3. บัญชีกำไรขาดทุน

    • กลุ่มบัญชี กำไรขาดทุน
    • 3010 กำไร (ขาดทุน)

กรุณาทราบว่าตัวอย่างนี้เป็นแค่ตัวอย่างทั่วไปเท่านั้น และคุณควรปรับแต่งตารางรายรับรายจ่ายและบัญชีโรงงานตามความเหมาะสมของกิจการและกฎหมายท้องถิ่นที่ใช้บังคับในที่ทำการของคุณ นอกจากนี้คุณอาจต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางการเงินหรือผู้บัญชีเพื่อให้ได้ตารางรายรับรายจ่ายและบัญชีที่เหมาะสมสำหรับโรงงานของคุณ

วิเคราะห์ SWOT ธุรกิจ โรงงาน

การวิเคราะห์ SWOT เป็นกระบวนการที่ช่วยให้คุณทราบแนวทางและกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับโรงงานของคุณ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการวิเคราะห์ SWOT สำหรับโรงงาน

  1. จุดแข็ง (Strengths)
  • ตำแหน่งทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในตลาด
  • ความเชี่ยวชาญและความสามารถทางเทคนิคที่ยอดเยี่ยม
  • การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
  • มีฐานลูกค้าที่มั่นคงและมีผลตอบแทนที่ดี
  • สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและมีความหลากหลาย
  1. จุดอ่อน (Weaknesses)
  • ความจำเป็นในการอัพเกรดเครื่องมือและเทคโนโลยี
  • การจัดการทรัพยากรบุคคลที่ไม่เพียงพอหรือไม่เหมาะสม
  • ระบบการจัดการภายในที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
  • ความขาดแคลนทรัพยากรวัตถุดิบที่สำคัญ
  • ฝ่ายการตลาดและการขายที่ไม่เชี่ยวชาญหรือไม่เต็มที่
  1. โอกาส (Opportunities)
  • ตลาดที่กว้างขวางและต้องการผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเป้าหมาย
  • การเพิ่มความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่
  • การตลาดออนไลน์และการเพิ่มส่วนแบ่งตลาด
  • การเปิดตลาดในภูมิภาคหรือประเทศใหม่
  • การเพิ่มพูนการผลิตที่เป็นความต้องการในตลาด
  1. อุปสรรค (Threats)
  • คู่แข่งที่แข็งแกร่งในตลาด
  • การเปลี่ยนแปลงในนโยบายราชการหรือกฎหมายที่ส่งผลต่อกิจการ
  • ความขาดแคลนทรัพยากรวัตถุดิบหรือส่วนประกอบสำคัญ
  • ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลต่อตลาดหรือการเงิน
  • การเปลี่ยนแปลงในความต้องการหรือพฤติกรรมของลูกค้า

การวิเคราะห์ SWOT จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวทางที่ดีที่สุดในการใช้ข้อได้เปรียบที่มี (Strengths) เพื่อใช้เติมเต็มโอกาสที่มีอยู่ (Opportunities) และต่อสู้กับอุปสรรค (Threats) ในขณะเดียวกัน นอกจากนี้ การวิเคราะห์ SWOT ยังช่วยให้คุณมีมุมมองที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับโอกาสและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเพื่อการวางแผนกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นสำหรับโรงงานของคุณ

คําศัพท์พื้นฐาน โรงงาน ที่ควรรู้

นี่คือ 10 คำศัพท์พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับโรงงานที่คุณควรรู้

  1. โรงงาน (Factory)

    • ความหมาย สถานที่ที่มีกระบวนการผลิตสินค้าหรือบริการ
  2. เครื่องจักร (Machinery)

    • ความหมาย เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการผลิตหรือการทำงานในโรงงาน
  3. วัตถุดิบ (Raw materials)

    • ความหมาย วัสดุหรือส่วนประกอบที่ใช้ในการผลิตสินค้า
  4. การผลิต (Production)

    • ความหมาย กระบวนการที่ใช้ในการสร้างผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการในโรงงาน
  5. ความปลอดภัย (Safety)

    • ความหมาย สภาวะที่ปลอดภัยและไม่เสี่ยงต่ออันตรายในโรงงาน
  6. ความสะดวกสบาย (Convenience)

    • ความหมาย สภาพที่ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างสะดวกสบายและไม่ยุ่งยาก
  7. ความสามารถในการจัดการ (Management capability)

    • ความหมาย ความสามารถในการวางแผน ประสานงาน และควบคุมกระบวนการที่เกี่ยวข้องในโรงงาน
  8. การควบคุมคุณภาพ (Quality control)

    • ความหมาย กระบวนการที่ใช้ในการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในโรงงาน
  9. อะไหล่ (Spare parts)

    • ความหมาย ส่วนประกอบหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการซ่อมแซมหรือแทนที่ส่วนที่ชำื่องเสียหรือชำรุดในเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ในโรงงาน
  10. ผลิตภัณฑ์สุทธิ (Finished product)

    • ความหมาย ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านกระบวนการผลิตเสร็จสมบูรณ์และพร้อมที่จะจำหน่ายหรือใช้งาน

หมายเหตุ คำอธิบายภาษาไทยในตารางข้างต้นเป็นคำอธิบายที่เข้าใจง่ายเพื่อความสะดวกในการเข้าใจความหมายของคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับโรงงาน

ธุรกิจ โรงงาน ต้อง จดทะเบียนบริษัท หรือไม่

เมื่อคุณต้องการเริ่มต้นธุรกิจโรงงาน คุณจำเป็นต้องจดทะเบียนองค์กรและขอใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการโรงงาน ต่อไปนี้คือรายการทะเบียนและใบอนุญาตที่คุณอาจต้องจดทะเบียนในกระบวนการสร้างและดำเนินธุรกิจโรงงานในประเทศไทย

  1. จดทะเบียนนิติบุคคล (Company Registration)

    • การจดทะเบียนบริษัท ทำการยื่นใบจดทะเบียนบริษัทที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สามารถเลือกที่จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนได้ตามที่ต้องการ
  2. ใบอนุญาตการประกอบกิจการ (Business License)

    • อาจต้องขอใบอนุญาตการประกอบกิจการจากหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมอุตสาหกรรม หรือหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อรับอนุญาตให้ดำเนินกิจการโรงงาน
  3. ใบอนุญาตสิ่งแวดล้อม (Environmental Permit)

    • หากกิจการโรงงานมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาจจำเป็นต้องขอใบอนุญาตสิ่งแวดล้อมจากกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
  4. ใบอนุญาตในการใช้พื้นที่ (Zoning Permit)

    • การขอใบอนุญาตในการใช้พื้นที่สำหรับการก่อสร้างและดำเนินกิจการโรงงาน จะต้องไปขอใบอนุญาตจากเทศบาลหรือองค์กรท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดใช้ประโยชน์ที่ดิน (Zoning) หรือกฎหมายการใช้ที่ดิน
  5. ใบอนุญาตการใช้พลังงาน (Energy Permit)

    • หากโรงงานของคุณใช้งบประมาณพลังงานสูง อาจต้องขอใบอนุญาตการใช้พลังงานจากหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับพลังงาน เช่น กรมพลังงาน
  6. ใบอนุญาตการใช้น้ำ (Water Permit)

    • หากโรงงานของคุณต้องการใช้น้ำจากแหล่งที่ไม่ใช่แหล่งน้ำสาธารณะ อาจต้องขอใบอนุญาตการใช้น้ำจากหน่วยงานท้องถิ่นที่รับผิดชอบเกี่ยวกับน้ำ
  7. การลงทะเบียนแรงงาน (Labor Registration)

    • หากคุณมีแรงงานทำงานในโรงงาน คุณจำเป็นต้องลงทะเบียนแรงงานกับหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการจัดการความรู้สร้างสรรค์และสถาปัตยกรรม
  8. การลงทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property Registration)

    • หากโรงงานของคุณมีสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ หรือเครื่องหมายการค้า เพื่อปกป้องสิทธิบัตรและทรัพย์สินทางปัญญาคุณอาจต้องลงทะเบียนกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา
  9. การลงทะเบียนธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce Registration)

    • หากโรงงานของคุณมีการขายผลิตภัณฑ์ผ่านการตลาดออนไลน์ คุณอาจต้องลงทะเบียนธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และสมัครเป็นสมาชิกกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์หรือกลุ่มผู้ให้บริการการชำระเงินออนไลน์
  10. ใบอนุญาตอื่นๆ

    • ขึ้นอยู่กับลักษณะและกิจการของโรงงานคุณ อาจมีใบอนุญาตเพิ่มเติมที่ต้องการ เช่น ใบอนุญาตเคมี, ใบอนุญาตอาหาร, ใบอนุญาตสุขาภิบาล เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การจดทะเบียนและขอใบอนุญาตเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและขึ้นอยู่กับกฎหมายและกฎระเบียบของแต่ละประเทศและสถานที่ ดังนั้น ควรปรึกษาทนายความหรือผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายเพื่อให้คำแนะนำและความช่วยเหลือในการจัดการกระบวนการจดทะเบียนและขอใบอนุญาตสำหรับธุรกิจโรงงานของคุณในประเทศไทย.

บริษัท โรงงาน เสียภาษีอย่างไร

เมื่อคุณเริ่มต้นธุรกิจโรงงาน คุณจะต้องรับผิดชอบในการชำระภาษีตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ต่อไปนี้คือรายการภาษีที่อาจเกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงงาน

  1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

    • เป็นภาษีที่คุณต้องชำระตามรายได้ที่ได้รับจากธุรกิจของคุณ ภาษีเงินได้จะคำนวณจากกำไรสุทธิหรือรายได้ที่คุณได้รับลบกับค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนที่เกี่ยวข้อง
  2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

    • ถ้าธุรกิจของคุณมีรายได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด คุณจะต้องลงทะเบียนเพื่อเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากลูกค้าและส่งเงินให้กับกรมสรรพากร
  3. ภาษีธุรกิจเฉพาะ (Specific Business Tax)

    • ถ้าธุรกิจของคุณอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่ถูกกำหนดเป็นกลุ่มเฉพาะ คุณอาจต้องชำระภาษีเพิ่มเติมตามกฎหมายและอัตราภาษีที่เกี่ยวข้อง
  4. ภาษีอากรขายส่งสินค้าหรือบริการ (Excise Tax)

    • ถ้าธุรกิจของคุณผลิตหรือนำเข้าสินค้าที่อยู่ในกลุ่มสินค้าที่ถูกกำหนดเป็นสินค้าที่ต้องเสียภาษีอากรขายส่ง คุณจะต้องชำระภาษีอากรขายส่งตามอัตราภาษีที่กำหนด
  5. สิทธิประโยชน์ภาษี

    • บางกรณี ธุรกิจโรงงานอาจมีสิทธิประโยชน์ภาษีที่สามารถใช้เพื่อลดหย่อนภาษีได้ เช่น การลงทุนในเครื่องมือหรือเทคโนโลยีที่ส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืนในการผลิต
  6. อื่นๆ

    • อาจมีภาษีอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงงานขึ้นอยู่กับลักษณะและการดำเนินกิจการ เช่น ภาษีทรัพย์สิน, ภาษีพิเศษ, หรืออื่นๆที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ควรจะมีการปรึกษากับทนายความหรือที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อให้คำแนะนำและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจโรงงานและการปรับทางเพื่อประหยัดภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับในประเทศไทย

การผลิตสินค้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศหรือเศรษฐกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากการผลิตมีความสำคัญ ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการผลิตก็มีความสำคัญ ดังนั้น โรงงานจึงเป็นส่วนสำคัญของระบบเศรษฐกิจ เป็นคำที่กว้างมากจนต้องมีบทบัญญัติพิเศษเพื่อดำเนินกิจกรรมทั้งหมดอย่างราบรื่น ในบทความนี้ เราจะพิจารณาคำจำกัดความต่างๆ ภายใต้พระราชบัญญัติโรงงานฉบับแก้ไขใหม่ พ.ศ. 2562

โรงงานคือ

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพระราชบัญญัติโรงงาน

โดยทั่วไปแล้ว โรงงานคือ อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่ผู้คนใช้เครื่องจักรในการผลิตสินค้า แต่เมื่อใดก็ตามที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความซับซ้อนและสำคัญมาก ข้อกำหนดทั่วไปจะไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป

ดังนั้น พระราชบัญญัติโรงงานฉบับแก้ไขใหม่ พ.ศ. 2562 ไม่เพียงแต่กำหนดสิ่งที่เกี่ยวข้องกับโรงงานเท่านั้น แต่ยังแก้ไขความสับสนบางประการด้วย เรื่องที่ควรศึกษาก่อนมีโรงงานเป็นของตัวเอง เช่น

  1. สิ่งแวดล้อม เช่น น้ำ ดินและน้ำใต้ดิน ด้านอากาศ ด้านกากอุตสาหกรรม ด้านบุคลากรและอื่นๆ
  2. ความปลอดภัย เช่น การประเมินความเสี่ยงโรงงาน หม้อน้ำและหม้อต้มฯ ก๊าซอุตสาหกรรม สารเคมี สภาพแวดล้อมการทำงาน กัมมันตรังสี อัคคีภัย ระบบไฟฟ้าในโรง งาน ห้องเย็น เป็นต้น

กฎหมายที่เกี่ยวกับโรงงาน

  1. พระราชบัญญัติ โรงงาน
  2. พระราชบัญญัติ จดทะเบียนเครื่องจักร
  3. พระราชบัญญัติ วัตถุอันตราย

โรงงานคือ

ตาม พ.ร.บ. โรงงานฉบับแก้ไขใหม่ พ.ศ. 2562 โรงงาน หมายถึง อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมตั้งแต่ 50 แรงม้าขึ้นไป หรือใช้คนงาน 50 คน ขึ้นไป สำหรับ ทำ ผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อม ซ่อมบำรุง ทดสอบ ปรับปรุง แปรสภาพ ลำเลียง เก็บรักษา หรือทำลายสิ่งใดๆ

โรงงาน

สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังจะตั้งโรงงาน สิ่งที่จะต้องรู้ก็คือการขออนุญาตตั้งโรงงานและขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามข้อกำหนดของกฎหมาย โดยในปัจจุบันตาม พ.ร.บ. โรงงานฉบับแก้ไขใหม่ พ.ศ. 2562 ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อทำให้การประกอบกิจการโรงงานได้รับความสะดวกและมีความคล่องตัวขึ้น โดยโรงงานขนาดเล็กจะประกอบกิจการง่ายขึ้น โรงงานขนาดใหญ่จะได้รับความสะดวกมาก

ประเภทของโรงงาน

การประกอบกิจการโรงงาน (มาตรา 7)กำหนดแบ่งโรงงานออกเป็น 3 ประเภท ขึ้นอยู่กับความจำเป็นในการควบคุมการป้องกันเหตุเดือดร้อน รำคาญการป้องกันความเสียหาย และการป้องกันอันตรายตามระดับความรุนแรงของผลกระทบที่จะมี ต่อประชาชนหรือสิ่งแวดล้อม คือ

โรงงานจำพวกที่ 1 คือ โรงงานประเภท ชนิด และขนาด ที่สามารถประกอบกิจการโรงงานได้ทันที

  • ป็นโรงงานที่ใช้เครื่องจักรไม่เกิน 20 แรงม้า ไม่ก่อปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมหรือเหตุเดือดร้อนอันตราย เช่น ฟักไข่โดยใช้ตู้อบ ซ่อมรองเท้า ทำเครื่องหนัง ทำขนมจีน ไอศกรีม
  • ผู้ผลิตไม่ต้องขออนุญาต
  • ห้ามรับเหมาก่อสร้างโรงงานในบางพื้นที่
  • ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎกระทรวงฯ และประกาศกระทรวงฯ รวมทั้งออกแบบก่อสร้าง

โรงงานจำพวกที่ 2 คือ โรงงานประเภท ชนิด และขนาด ที่เมื่อจะประกอบกิจการโรงงาน ต้องแจ้งให้ผู้อนุญาตทราบก่อน

  • เป็นโรงงานที่ใช้เครื่องจักรเกิน 20 แรงม้า แต่ไม่เกิน 50 แรงม้า อาจก่อปัญหามลพาหรือเหตุเดือดร้อนรำคาญเล็กน้อยแก้ไขปรับปรุงได้ไม่ยาก เช่น การขุดลอก
  • กรวด ทราย ดิน การลำเลียงหิน กรวด/ทราย/ดิน ด้วยสายพานลำเลียงโรงงานผลิตน้ำดื่ม ไอศกรีม โรงผลิตน้ำแข็งใช้เครื่องจักร ไม่เกิน 50 แรงม้า
  • ผู้ผลิตไม่ต้องขออนุญาต แต่ต้องแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบก่อนทำงาน
  • ห้ามรับเหมาก่อสร้างโรงงานในบางพื้นที่
  • ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวงฯ และประกาศกระทรวงฯ รวมทั้งออกแบบก่อสร้าง
  • เสียค่าธรรมเนียมรายปี

โรงงานจำพวกที่ 3 คือ โรงงานประเภท ชนิด และขนาดที่การตั้งจะต้องได้รับใบอนุญาตก่อนจึงจะ ดำเนินการ

  • เป็นโรงงานที่ไปใช้เครื่องจักรเกิน 50 แรงม้า อาจก่อให้เกิดปัญหามลพิษหรือเหตุเดือดร้อน รำคาญ หรือเหตุอันตรายต้องควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด เช่น โรงงานน้ำตาล
  • โรงงานผลิตกระดาษ โรงงานผลิตสุรา โรงกลั่นน้ำมัน เป็นต้น
  • ผู้ผลิตต้องขออนุญาตก่อนเมื่อได้รับใบอนุญาตแล้วจึงตั้งโรงงานได้
  • ก่อนดำเนินกิจการต้องแจ้งขอประกอบกิจการก่อน
  • ห้ามรับเหมาก่อสร้างโรงงานในบริเวณบางแห่ง
  • ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎกระทรวงฯ และประกาศกระทรวงฯ รวมทั้งออกแบบก่อสร้าง
  • เสียค่าธรรมเนียมรายปี และเสียค่าใบอนุญาตประกอบกิจการ

ประเภทโรงงาน

หมายเหตุ

  1. โรงงานจำพวกที่ 1, 2, 3 ห้ามรับเหมาก่อสร้างโรงงานในบริเวณบ้านจัดสรรเพื่อการพักอาศัยอาคารชุดพักอาศัยและบ้านแถวเพื่อการพักอาศัย
  2. โรงงานจำพวกที่ 1, 2 ห้ามรับเหมาก่อสร้างโรงงานภายในระยะ 50 เมตร จากเขตติดต่อโรงเรียน สถาบันการศึกษา วัด ศาสนสถาน โรงพยาบาล โบราณสถาน สถานที่ทำงานของหน่วยงานของรัฐ แหล่งอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง
  3. แวดล้อมตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ต้องตั้งอยู่ในทำเล และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีบริเวณเพียงพอที่จะประกอบกิจการตามประเภทหรือชนิดของโรงงานโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายเหตุเดือดร้อนรำคาญหรือความเสียหายต่อบุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นด้วย

โรงงานมีอะไรบ้าง

  • โรงงานเคมี – ผลิตเคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี เช่น ปุ๋ย เชื้อเพลิง และพลาสติก
  • โรงงานแปรรูปอาหาร – ผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น ธัญพืช นม เนื้อสัตว์ และเครื่องดื่ม
  • โรงงานสิ่งทอ – ผลิตผ้าและเครื่องนุ่งห่ม
  • โรงงานผลิตยา – ผลิตยาตามใบสั่งแพทย์และยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์
  • โรงงานพลังงาน – ผลิตไฟฟ้า ไอน้ำ และความร้อนโรงงานประกอบ – ประกอบส่วนประกอบเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เป็นต้น

เครดิต diw.go.th

ธุรกิจหน้ากากอณามัย

หน้ากากอนามัย คือ หน้ากากที่ช่วยป้องกันอนุภาคที่ลอยมากับอากาศไม่ให้เข้าสู่ร่างกายผ่านทางโพรงจมูกและช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง สารพิษ หรือเชื้อโรคต่างๆ

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )