ธุรกิจกับเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้มีอะไรบ้าง 11 ดำเนินการตามได้?

แผนธุรกิจกับเทคโนโลยี

การเริ่มต้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีมีขั้นตอนหลายขั้นตอนที่คุณควรพิจารณาเพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตไปในทิศทางที่ถูกต้อง ต่อไปนี้คือขั้นตอนเบื้องต้นที่คุณสามารถดำเนินการตามได้

  1. การศึกษาและวิจัยตลาด ให้ความสำคัญกับการศึกษาและวิจัยตลาดที่คุณต้องการเข้าสู่ พิจารณาว่ามีความต้องการอะไรในตลาดนั้น ว่าผู้คนมีปัญหาอะไรที่คุณสามารถแก้ไขด้วยเทคโนโลยีที่คุณมี การทำความเข้าใจเรื่องนี้จะช่วยให้คุณกำหนดแนวทางธุรกิจของคุณได้ถูกต้อง
  2. การสร้างแผนธุรกิจ พัฒนาแผนธุรกิจที่รวมถึงวัตถุประสงค์ของธุรกิจของคุณ กำหนดเป้าหมายทางธุรกิจ เส้นทางการเติบโต และกลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ รวมถึงการจัดการทางการเงิน
  3. การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เน้นคุณภาพ ประสิทธิภาพ และประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ
  4. การทดสอบและปรับปรุง ทดสอบผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อรับข้อเสนอแนะและความคิดเห็น จากนั้นปรับปรุงตามความต้องการ
  5. การสร้างบริษัท ตัดสินใจเลือกประเภทของกิจการที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ เลือกชื่อบริษัทและจัดทำเอกสารทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  6. การจัดการทางการเงิน วางแผนการเงินและการบัญชีของธุรกิจ รวมถึงการหาทุนเพื่อเริ่มต้นธุรกิจและรักษาการเงินในระยะยาว
  7. การตลาดและการขาย สร้างแผนการตลาดเพื่อเปิดตลาดและสร้างความรู้จำนวนมากเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ นำเสนอวิธีการขายและการโฆษณาที่เหมาะสม
  8. การขยายธุรกิจ ดำเนินธุรกิจในระยะยาวโดยการทำการติดตามและปรับปรุง สร้างความนิยมและความพึงพอใจในลูกค้าเพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างเนียนนิ่ง
  9. การดูแลลูกค้า ให้ความสำคัญกับการสร้างความพึงพอใจในลูกค้า ให้บริการหลังการขายที่ดีและสร้างความคืบหน้าในการค้าอย่างยั่งยืน
  10. การสร้างทีม ระหว่างการเติบโต คุณอาจต้องสร้างทีมที่มีความสามารถที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและธุรกิจของคุณเพื่อช่วยในการพัฒนาและการขยายของธุรกิจ
  11. การติดตามและประเมิน ติดตามผลสำหรับแต่ละขั้นตอนและประเมินผลความสำเร็จ ทำการปรับปรุงแผนธุรกิจของคุณตามประสิทธิภาพและความต้องการของตลาด

คำแนะนำเหล่านี้เป็นขั้นตอนเบื้องต้นที่คุณสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเริ่มต้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี อย่าลืมว่าการเริ่มธุรกิจเป็นการเรียนรู้และปรับปรุงอยู่เสมอ คุณอาจต้องปรับเปลี่ยนแผนและกลยุทธ์ของคุณตามสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงในตลาดในอนาคตด้วย

ตารางรายรับรายจ่าย ตัวอย่างบัญชี ธุรกิจกับเทคโนโลยี

แน่นอน! ดังนี้คือตัวอย่างของตารางเปรียบเทียบรายรับและรายจ่ายสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี

รายการ รายรับ (บาท) รายจ่าย (บาท)
รายรับ
การขายผลิตภัณฑ์/บริการ XXXX
บริการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี XXXX
รายรับอื่น ๆ XXXX
รวมรายรับ XXXX
รายจ่าย
ต้นทุนการผลิต/ให้บริการ XXXX
ค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา XXXX
ค่าเช่าสถานที่ XXXX
ค่าจ้างงานและค่าตอบแทน XXXX
ค่าการตลาดและโฆษณา XXXX
ค่าเทคโนโลยีและอุปกรณ์ XXXX
รายจ่ายอื่น ๆ XXXX
รวมรายจ่าย XXXX
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ XXXX XXXX

โปรดจำไว้ว่าตัวเลขที่แสดงในตารางเป็นตัวอย่างเท่านั้น ค่าจริง ๆ ของรายรับและรายจ่ายขึ้นอยู่กับธุรกิจและตลาดของคุณ คุณควรปรับแต่งตารางตามความเหมาะสมกับธุรกิจและข้อมูลทางการเงินที่แท้จริงของคุณด้วย

อาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจกับเทคโนโลยี

อาชีพในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีมีหลากหลายและสามารถแบ่งออกเป็นหลายสาขา ดังนี้คืออาชีพบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและเทคโนโลยี

  1. นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Developer) พัฒนาและปรับปรุงซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เช่น แอปพลิเคชันมือถือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เว็บแอปพลิเคชัน เป็นต้น
  2. วิศวกรซอฟต์แวร์ (Software Engineer) ออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์ตามความต้องการของลูกค้า และจัดการกับปัญหาเทคนิคต่าง ๆ ในกระบวนการพัฒนา
  3. นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) วิเคราะห์และแปลงข้อมูลให้กลายเป็นข้อมูลที่มีค่าในการตัดสินใจธุรกิจ
  4. นักออกแบบและพัฒนาเว็บ (Web Designer and Developer) ออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ตามความต้องการของลูกค้า
  5. นักออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Designer) ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของตลาด โดยใช้เทคโนโลยีในการสร้างแบบจำลองและพรีโพรตัพ
  6. นักตลาดดิจิทัล (Digital Marketer) วางแผนและดำเนินกิจกรรมการตลาดออนไลน์ เช่น การโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย การจัดการเนื้อหา เพื่อเพิ่มยอดขายและความรู้จำเป็นในตลาด
  7. นักวิเคราะห์ธุรกิจ (Business Analyst) วิเคราะห์ธุรกิจและกระบวนการทางธุรกิจ เพื่อปรับปรุงแนวทางธุรกิจด้วยข้อมูลที่สร้างจากเทคโนโลยี
  8. นักการตลาดออนไลน์ (Online Marketer) ดำเนินกิจกรรมตลาดออนไลน์ รวมถึงการวางแผนและดำเนินกิจกรรมเพื่อสร้างยอดขายในโลกออนไลน์
  9. ผู้จัดการโปรเจคเทคโนโลยี (Technology Project Manager) ดูแลและจัดการโปรเจคเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้โปรเจคสำเร็จตามเป้าหมาย
  10. นักการตลาดทางสังคม (Social Media Marketer) วางแผนและดำเนินกิจกรรมการตลาดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อสร้างความสนใจและยอดขาย
  11. นักพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือ (Mobile App Developer) พัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต
  12. นักประชาสัมพันธ์ออนไลน์ (Online Public Relations Specialist) จัดการความสัมพันธ์และการสื่อสารกับประชาสัมพันธ์ออนไลน์เพื่อสร้างภาพลักษณ์บวกสำหรับธุรกิจ
  13. นักการตลาดทางอีเมล (Email Marketer) สร้างและดำเนินกิจกรรมการตลาดผ่านทางอีเมลเพื่อเพิ่มยอดขายและความจงรักภักดีในลูกค้า
  14. นักวิเคราะห์ความต้องการลูกค้า (Customer Needs Analyst) ศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เพื่อให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นไปตามความต้องการ
  15. นักพัฒนาการ์ตูนและอนิเมชั่น (Animation and Motion Graphics Artist) สร้างการ์ตูนและอนิเมชั่นที่ใช้ในการสื่อสารและการตลาด
  16. นักออกแบบกราฟิก (Graphic Designer) ออกแบบภาพสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ในการตลาดและสร้างความทรงจำ
  17. นักพัฒนาเกม (Game Developer) พัฒนาเกมคอมพิวเตอร์และเกมมือถือ รวมถึงการออกแบบระบบเกมและกราฟิก
  18. นักจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Systems Manager) จัดการและดูแลระบบเทคโนโลยีสารสนเทศภายในองค์กร

อาชีพเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ ของอาชีพที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและเทคโนโลยี โลกที่เต็มไปด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีจึงมีอาชีพที่หลากหลายเพื่อรองรับการเติบโตและความสำคัญของเทคโนโลยีในวันนี้และอนาคต

วิเคราะห์ SWOT ธุรกิจกับเทคโนโลยี

การวิเคราะห์ SWOT เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ธุรกิจของคุณ โดยทำการวิเคราะห์ด้านความแข็งแกร่ง (Strengths), ความอ่อนแอ (Weaknesses), โอกาส (Opportunities), และอุปสรรค (Threats) ของธุรกิจและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ดังนี้คือการวิเคราะห์ SWOT สำหรับธุรกิจกับเทคโนโลยี

ความแข็งแกร่ง (Strengths)

  • ทักษะและความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีที่คุณและทีมของคุณมี
  • ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูง
  • ความสามารถในการนวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่
  • ฐานลูกค้าที่มีความชอบใจและความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ
  • ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในตลาดเร็ว ๆ นี้

ความอ่อนแอ (Weaknesses)

  • ขีดจำกัดทางทรัพยากรทางการเงินและบุคคล
  • ความไม่เสถียรในการอยู่ในตลาดหรือความยุ่งยากในการทำธุรกิจในภูมิภาคที่เกี่ยวข้อง
  • ขาดทักษะหรือความรู้ทางธุรกิจที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจ
  • ความยากลำบากในการนำเทคโนโลยีใหม่เข้าสู่การใช้งานจริง

โอกาส (Opportunities)

อุปสรรค (Threats)

  • คู่แข่งที่มีทักษะและทรัพยากรทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง
  • การเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีที่สามารถทำให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณล้าหลัง
  • สภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อการซื้อสินค้าหรือบริการของลูกค้า
  • การเปลี่ยนแปลงในกฎหมายหรือกฎระเบียบที่อาจมีผลกระทบต่อธุรกิจของคุณ

การวิเคราะห์ SWOT จะช่วยให้คุณมีภาพรวมและความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจและโอกาสที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถกำหนดกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของธุรกิจและเทคโนโลยีที่คุณเผชิญอยู่ด้วย

คําศัพท์พื้นฐาน ธุรกิจกับเทคโนโลยี ที่ควรรู้

  1. Innovation (นวัตกรรม)
    • คำอธิบาย การสร้างสิ่งใหม่หรือพัฒนาแนวคิดเพื่อเพิ่มคุณค่าและประสิทธิภาพ
    • ตัวอย่าง Technological innovation drives progress in various industries.
  2. Startup (สตาร์ทอัพ)
    • คำอธิบาย ธุรกิจเล็กที่กำลังเริ่มต้นและมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว
    • ตัวอย่าง Many startups focus on disruptive technologies.
  3. E-commerce (อีคอมเมิร์ซ)
    • คำอธิบาย การซื้อขายสินค้าและบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต
    • ตัวอย่าง E-commerce platforms have transformed the way people shop.
  4. Digital Marketing (การตลาดดิจิทัล)
    • คำอธิบาย กิจกรรมการตลาดที่ใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมาย
    • ตัวอย่าง Digital marketing strategies include social media campaigns and email marketing.
  5. Cybersecurity (ความมั่นคงปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์)
    • คำอธิบาย การปกป้องระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลจากการฉ้อโกงและการโจมตีทางไซเบอร์
    • ตัวอย่าง Companies invest in cybersecurity to safeguard sensitive information.
  6. Big Data (ข้อมูลขนาดใหญ่)
    • คำอธิบาย ชุดข้อมูลที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนที่ต้องการการวิเคราะห์และการจัดการเฉพาะ
    • ตัวอย่าง Big data analytics help businesses gain insights from vast amounts of information.
  7. Artificial Intelligence (ปัญญาประดิษฐ์)
    • คำอธิบาย ความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์และโปรแกรมในการทำงานเหมือนมนุษย์
    • ตัวอย่าง Artificial intelligence is used in chatbots and autonomous vehicles.
  8. Cloud Computing (คอมพิวเตอร์คลาวด์)
    • คำอธิบาย การใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์และเก็บข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต
    • ตัวอย่าง Cloud computing allows businesses to access resources remotely.
  9. Blockchain (บล็อกเชน)
    • คำอธิบาย ระบบที่ใช้ในการเก็บข้อมูลแบบกระจายและป้องกันการปลอมแปลง
    • ตัวอย่าง Blockchain technology is the foundation of cryptocurrencies like Bitcoin.
  10. IoT (Internet of Things) (อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง)
    • คำอธิบาย การเชื่อมต่ออุปกรณ์และสิ่งของต่าง ๆ กับอินเทอร์เน็ตเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล
    • ตัวอย่าง The IoT allows smart devices to communicate and share data for automation and monitoring purposes.

หมายเหตุ คำศัพท์บางคำอาจมีความหมายที่ซับซ้อน คำแปลเป็นอังกฤษที่ใช้ที่นี่เป็นแนวทางเท่านั้นและอาจมีความหมายเพิ่มเติมในบางกรณี

ธุรกิจ ธุรกิจกับเทคโนโลยี ต้อง จดทะเบียนบริษัท หรือไม่

การจดทะเบียนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีจะขึ้นอยู่กับกฎหมายและข้อกำหนดของแต่ละประเทศและพื้นที่ ดังนี้คือรายการทั่วไปของสิ่งที่คุณอาจจะต้องจดทะเบียนเมื่อเริ่มธุรกิจกับเทคโนโลยี

  1. การจดทะเบียนธุรกิจ คุณจะต้องจดทะเบียนธุรกิจของคุณเพื่อให้ได้สถานภาพทางกฎหมาย และคุณควรเลือกรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ เช่น บริษัทจำกัด, บริษัทมหาชน, หรือธุรกิจส่วนตัว การจดทะเบียนจะให้คุณสิทธิและความปลอดภัยในการดำเนินธุรกิจ
  2. การจดทะเบียนเทคโนโลยี หากธุรกิจของคุณมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เฉพาะเจาะจง เช่น การพัฒนาซอฟต์แวร์, การออกแบบเว็บไซต์ เป็นต้น คุณอาจต้องจดทะเบียนลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตรเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่คุณสร้างขึ้น
  3. สิทธิบัตร (Patents) ถ้าธุรกิจของคุณมีการสร้างประดิษฐ์หรือนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์ คุณสามารถจดสิทธิบัตรเพื่อปกป้องสิทธิของคุณและป้องกันคู่แข่งที่จะทำสิ่งเดียวกัน
  4. ลิขสิทธิ์ (Copyrights) หากคุณสร้างสรรค์ผลงานเช่น ซอฟต์แวร์, เนื้อหาออนไลน์ เพลง คุณสามารถจดลิขสิทธิ์เพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์
  5. การจดทะเบียนเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Registration) หากธุรกิจของคุณมีรายได้สูงพอที่จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม คุณอาจจะต้องจดทะเบียนเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมายท้องถิ่น
  6. การรับรองซอฟต์แวร์ (Software Certifications) หากคุณพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ความสอดคล้อง หรือมีมาตรฐาน เช่น ระบบจัดการความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล คุณอาจได้รับการรับรองหรือการตรวจสอบว่าซอฟต์แวร์ของคุณสอดคล้องกับมาตรฐาน
  7. การลงทะเบียนการค้า (Trademark Registration) หากคุณมีสัญลักษณ์การค้าหรือโลโก้ที่ใช้ในธุรกิจของคุณ คุณอาจจะต้องลงทะเบียนเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิและการลอกเลียน
  8. การรับรองความปลอดภัยข้อมูล (Data Security Certifications) หากคุณดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล คุณอาจสามารถรับรองความปลอดภัยข้อมูลตามมาตรฐานที่กำหนดโดยกฎหมาย

ข้อกำหนดเหล่านี้อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสถานที่ที่คุณตั้งธุรกิจ คุณควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายหรือที่ปรึกษาธุรกิจเพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นเอกสารก่อนที่จะดำเนินการจดทะเบียนใด ๆ

บริษัท ธุรกิจกับเทคโนโลยี เสียภาษีอย่างไร

ภาษีที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอาจต้องเสียขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ และกฎหมายภาษีที่มีในแต่ละประเทศ นี่คือบางประเภทของภาษีที่ธุรกิจและเทคโนโลยีอาจต้องเสีย

  1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax) หากคุณเป็นผู้ประกอบการแบบบุคคลธรรมดา คุณอาจต้องเสียภาษีเงินได้จากรายได้ที่คุณได้รับจากธุรกิจ
  2. ภาษีธุรกิจ (Business Tax) ธุรกิจบางประเภทอาจต้องเสียภาษีธุรกิจเพื่อให้ความส่งเสริมการเสียภาษีแก่รัฐ ภาษีนี้อาจคิดจากยอดขายหรือรายได้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
  3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax, VAT) หากธุรกิจของคุณมีรายได้สูงพอที่จะเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม คุณอาจต้องเสียภาษีนี้ตามกฎหมายท้องถิ่น
  4. ภาษีเงินบริการ (Service Tax) บางประเภทของบริการอาจต้องเสียภาษีเงินบริการ ตัวอย่างเช่น บริการทางเทคโนโลยีหรือบริการออนไลน์
  5. ภาษีธุรกิจเฉพาะ (Special Business Tax) ในบางกรณี เฉพาะประเภทของธุรกิจอาจต้องเสียภาษีเฉพาะตามกฎหมายที่กำหนด เช่น ธุรกิจบางประเภทที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  6. ภาษีเงินนอกราชอาณาจักร (International Tax) หากธุรกิจของคุณเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจในประเทศอื่น ๆ คุณอาจต้องเสียภาษีตามกฎหมายของประเทศที่คุณทำธุรกิจ
  7. ภาษีโอนทรัพย์สิน (Property Transfer Tax) หากคุณทำการซื้อขายทรัพย์สิน เช่น อสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในธุรกิจ คุณอาจต้องเสียภาษีโอนทรัพย์สิน
  8. ภาษีสรรพสิ่ง (Excise Tax) บางประเภทของสินค้าหรือบริการทางเทคโนโลยีอาจมีการเสียภาษีสรรพสิ่ง เช่น การขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  9. ภาษีเงินกำไรนิติบุคคล (Corporate Income Tax) หากธุรกิจของคุณเป็นนิติบุคคล คุณอาจต้องเสียภาษีเงินกำไรนิติบุคคลจากรายได้ที่คุณได้รับจากธุรกิจ
  10. ภาษีธุรกิจออนไลน์ (Digital Services Tax) ในบางประเทศ มีการกำหนดภาษีเฉพาะสำหรับธุรกิจที่ให้บริการออนไลน์ เช่น การขายแอปพลิเคชันหรือบริการสตรีมมิ่ง

ข้อกำหนดเหล่านี้อาจแตกต่างกันตามกฎหมายและประเทศที่คุณทำธุรกิจ คุณควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางภาษีหรือที่ปรึกษาทางธุรกิจเพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นเอกสารเพื่อทราบเกี่ยวกับภาษีที่คุณต้องเสีย

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?

คลิกที่ดาวเพื่อให้คะแนน!

เฉลี่ยได้กี่คะแนน 5 / 5. จำนวนโหวต: 1

ยังไม่มีคะแนนโหวต! เป็นคนแรกที่ให้คะแนนโพสต์นี้

บทความจากเว็บ รับทำบัญชี.COM
อ่านบทความทั้งหมด https://รับทําบัญชี.com/accounting-services

บริษัท ปังปอน จำกัด
47/103 หมู่ 9 ถ.แจ้งวัฒนะ บางพูด ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 โทร.02-964-9800
มอเตอร์ไซค์ โอกาสในการประสบความสำเร็จ มองหารายการเหมาะสม?

มอเตอร์ไซค์ โอกาสในการประสบความสำเร็จ มองหารายการเหมาะสม?

เลี้ยงปลากัดขายดีไหมรับซื้อปลากัด 7 ข้อมี จบเป้าหมายรายได้?

เลี้ยงปลากัดขายดีไหมรับซื้อปลากัด 7 ข้อมี จบเป้าหมายรายได้?

มีเอกสาร 9 หลักฐานที่ต้องเตรียมอะไรบ้างการจดทะเบียนบริษัท?

มีเอกสาร 9 หลักฐานที่ต้องเตรียมอะไรบ้างการจดทะเบียนบริษัท?

ปูพื้นพื้นยางสแตนดาร์ดยางปูกระเบื้องกาว 7 หลายขั้นตอนดังนี้?

ปูพื้นพื้นยางสแตนดาร์ดยางปูกระเบื้องกาว 7 หลายขั้นตอนดังนี้?

นิติบุคคลสิทธิและความรับผิดชอบขององค์กร 2 แตกต่างกันไปด้วย?

นิติบุคคลสิทธิและความรับผิดชอบขององค์กร 2 แตกต่างกันไปด้วย?

ค่าน้ำประปาปรับปรุงการจัดการค่าใช้จ่าย 9 มี เป้าหมายรายได้?

ค่าน้ำประปาปรับปรุงการจัดการค่าใช้จ่าย 9 มี เป้าหมายรายได้?

อาชีพกราฟิกดีไซน์ลักษณะงานนักออกแบบชื่อดังมี 7 วงการกราฟิก?

อาชีพกราฟิกดีไซน์ลักษณะงานนักออกแบบชื่อดังมี 7 วงการกราฟิก?

บริษัทประเมินมูลค่าทรัพย์สิน สำคัญ 9 ข้อมี เป้าหมายรายได้?

บริษัทประเมินมูลค่าทรัพย์สิน สำคัญ 9 ข้อมี เป้าหมายรายได้?

ผู้รักษาเงินสดย่อย Petty Cash Custodian 9 ประโยชน์รูปแบบรายงาน?

ผู้รักษาเงินสดย่อย Petty Cash Custodian 9 ประโยชน์รูปแบบรายงาน?

ร้านอาหาร ระบบสแกนธนาคารตรวจสอบยอดโอนบัญชีแผน 9 งานตาม?

ร้านอาหาร ระบบสแกนธนาคารตรวจสอบยอดโอนบัญชีแผน 9 งานตาม?

ร้านขายยา ฟาร์มาซีแฟรนไชส์การลงทุน 9 สามารถกระทบควรพิจารณา?
50 อาชีพที่เกี่ยวกับดนตรีสามารถวางแผนของการตลาดประเภทสอนเพลง
อาชีพไม่สุจริต 50 อาชีพหลอกลวงผิดกฎหมายโปรดทราบพฤติกรรมเทา
แพลตฟอร์มออนไลน์ 10 อันดับ e-commerce ในไทยมี 9 ประเภทมีอะไร
บัญชีย้อนหลังสามารถตรวจสอบ 9 เดือน ปรับปรุงระบบความสอดคล้อง?
ข้อกำหนดคลินิกทันตกรรมนิติบุคคลธรรมดา 9 มีความคาดหมายรายได้?
บจก.บจ.บมจ.บล.บลจ.บริษัทจํากัดย่อมาจากแบบไหนเหมาะ 9 จุดต่าง?
คลินิกเสริมความงาม สปาความงาม ตลาดเหมาะสมรวม 9 แผนระยะยาว
ตัวอย่างสลักหลังเช็ค 9 แคชเชียร์เช็ค & Co. กี่แบบเช็คเงินสด?
ปิดงบเปล่าด้วยตัวเองต้องใช้เอกสารอะไรยื่นงบบริษัทราคาถูก 500