แผนธุรกิจกับเทคโนโลยี
การเริ่มต้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีมีขั้นตอนหลายขั้นตอนที่คุณควรพิจารณาเพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตไปในทิศทางที่ถูกต้อง ต่อไปนี้คือขั้นตอนเบื้องต้นที่คุณสามารถดำเนินการตามได้
- การศึกษาและวิจัยตลาด ให้ความสำคัญกับการศึกษาและวิจัยตลาดที่คุณต้องการเข้าสู่ พิจารณาว่ามีความต้องการอะไรในตลาดนั้น ว่าผู้คนมีปัญหาอะไรที่คุณสามารถแก้ไขด้วยเทคโนโลยีที่คุณมี การทำความเข้าใจเรื่องนี้จะช่วยให้คุณกำหนดแนวทางธุรกิจของคุณได้ถูกต้อง
- การสร้างแผนธุรกิจ พัฒนาแผนธุรกิจที่รวมถึงวัตถุประสงค์ของธุรกิจของคุณ กำหนดเป้าหมายทางธุรกิจ เส้นทางการเติบโต และกลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ รวมถึงการจัดการทางการเงิน
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เน้นคุณภาพ ประสิทธิภาพ และประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ
- การทดสอบและปรับปรุง ทดสอบผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อรับข้อเสนอแนะและความคิดเห็น จากนั้นปรับปรุงตามความต้องการ
- การสร้างบริษัท ตัดสินใจเลือกประเภทของกิจการที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ เลือกชื่อบริษัทและจัดทำเอกสารทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- การจัดการทางการเงิน วางแผนการเงินและการบัญชีของธุรกิจ รวมถึงการหาทุนเพื่อเริ่มต้นธุรกิจและรักษาการเงินในระยะยาว
- การตลาดและการขาย สร้างแผนการตลาดเพื่อเปิดตลาดและสร้างความรู้จำนวนมากเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ นำเสนอวิธีการขายและการโฆษณาที่เหมาะสม
- การขยายธุรกิจ ดำเนินธุรกิจในระยะยาวโดยการทำการติดตามและปรับปรุง สร้างความนิยมและความพึงพอใจในลูกค้าเพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างเนียนนิ่ง
- การดูแลลูกค้า ให้ความสำคัญกับการสร้างความพึงพอใจในลูกค้า ให้บริการหลังการขายที่ดีและสร้างความคืบหน้าในการค้าอย่างยั่งยืน
- การสร้างทีม ระหว่างการเติบโต คุณอาจต้องสร้างทีมที่มีความสามารถที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและธุรกิจของคุณเพื่อช่วยในการพัฒนาและการขยายของธุรกิจ
- การติดตามและประเมิน ติดตามผลสำหรับแต่ละขั้นตอนและประเมินผลความสำเร็จ ทำการปรับปรุงแผนธุรกิจของคุณตามประสิทธิภาพและความต้องการของตลาด
คำแนะนำเหล่านี้เป็นขั้นตอนเบื้องต้นที่คุณสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเริ่มต้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี อย่าลืมว่าการเริ่มธุรกิจเป็นการเรียนรู้และปรับปรุงอยู่เสมอ คุณอาจต้องปรับเปลี่ยนแผนและกลยุทธ์ของคุณตามสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงในตลาดในอนาคตด้วย
ตารางรายรับรายจ่าย ตัวอย่างบัญชี ธุรกิจกับเทคโนโลยี
แน่นอน! ดังนี้คือตัวอย่างของตารางเปรียบเทียบรายรับและรายจ่ายสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
รายการ |
รายรับ (บาท) |
รายจ่าย (บาท) |
รายรับ |
|
|
การขายผลิตภัณฑ์/บริการ |
XXXX |
|
บริการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี |
XXXX |
|
รายรับอื่น ๆ |
XXXX |
|
|
|
|
รวมรายรับ |
XXXX |
|
|
|
|
รายจ่าย |
|
|
ต้นทุนการผลิต/ให้บริการ |
|
XXXX |
ค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา |
|
XXXX |
ค่าเช่าสถานที่ |
|
XXXX |
ค่าจ้างงานและค่าตอบแทน |
|
XXXX |
ค่าการตลาดและโฆษณา |
|
XXXX |
ค่าเทคโนโลยีและอุปกรณ์ |
|
XXXX |
รายจ่ายอื่น ๆ |
|
XXXX |
|
|
|
รวมรายจ่าย |
|
XXXX |
|
|
|
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ |
XXXX |
XXXX |
โปรดจำไว้ว่าตัวเลขที่แสดงในตารางเป็นตัวอย่างเท่านั้น ค่าจริง ๆ ของรายรับและรายจ่ายขึ้นอยู่กับธุรกิจและตลาดของคุณ คุณควรปรับแต่งตารางตามความเหมาะสมกับธุรกิจและข้อมูลทางการเงินที่แท้จริงของคุณด้วย
อาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจกับเทคโนโลยี
อาชีพในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีมีหลากหลายและสามารถแบ่งออกเป็นหลายสาขา ดังนี้คืออาชีพบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและเทคโนโลยี
- นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Developer) พัฒนาและปรับปรุงซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เช่น แอปพลิเคชันมือถือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เว็บแอปพลิเคชัน เป็นต้น
- วิศวกรซอฟต์แวร์ (Software Engineer) ออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์ตามความต้องการของลูกค้า และจัดการกับปัญหาเทคนิคต่าง ๆ ในกระบวนการพัฒนา
- นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) วิเคราะห์และแปลงข้อมูลให้กลายเป็นข้อมูลที่มีค่าในการตัดสินใจธุรกิจ
- นักออกแบบและพัฒนาเว็บ (Web Designer and Developer) ออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ตามความต้องการของลูกค้า
- นักออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Designer) ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของตลาด โดยใช้เทคโนโลยีในการสร้างแบบจำลองและพรีโพรตัพ
- นักตลาดดิจิทัล (Digital Marketer) วางแผนและดำเนินกิจกรรมการตลาดออนไลน์ เช่น การโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย การจัดการเนื้อหา เพื่อเพิ่มยอดขายและความรู้จำเป็นในตลาด
- นักวิเคราะห์ธุรกิจ (Business Analyst) วิเคราะห์ธุรกิจและกระบวนการทางธุรกิจ เพื่อปรับปรุงแนวทางธุรกิจด้วยข้อมูลที่สร้างจากเทคโนโลยี
- นักการตลาดออนไลน์ (Online Marketer) ดำเนินกิจกรรมตลาดออนไลน์ รวมถึงการวางแผนและดำเนินกิจกรรมเพื่อสร้างยอดขายในโลกออนไลน์
- ผู้จัดการโปรเจคเทคโนโลยี (Technology Project Manager) ดูแลและจัดการโปรเจคเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้โปรเจคสำเร็จตามเป้าหมาย
- นักการตลาดทางสังคม (Social Media Marketer) วางแผนและดำเนินกิจกรรมการตลาดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อสร้างความสนใจและยอดขาย
- นักพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือ (Mobile App Developer) พัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต
- นักประชาสัมพันธ์ออนไลน์ (Online Public Relations Specialist) จัดการความสัมพันธ์และการสื่อสารกับประชาสัมพันธ์ออนไลน์เพื่อสร้างภาพลักษณ์บวกสำหรับธุรกิจ
- นักการตลาดทางอีเมล (Email Marketer) สร้างและดำเนินกิจกรรมการตลาดผ่านทางอีเมลเพื่อเพิ่มยอดขายและความจงรักภักดีในลูกค้า
- นักวิเคราะห์ความต้องการลูกค้า (Customer Needs Analyst) ศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เพื่อให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นไปตามความต้องการ
- นักพัฒนาการ์ตูนและอนิเมชั่น (Animation and Motion Graphics Artist) สร้างการ์ตูนและอนิเมชั่นที่ใช้ในการสื่อสารและการตลาด
- นักออกแบบกราฟิก (Graphic Designer) ออกแบบภาพสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ในการตลาดและสร้างความทรงจำ
- นักพัฒนาเกม (Game Developer) พัฒนาเกมคอมพิวเตอร์และเกมมือถือ รวมถึงการออกแบบระบบเกมและกราฟิก
- นักจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Systems Manager) จัดการและดูแลระบบเทคโนโลยีสารสนเทศภายในองค์กร
อาชีพเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ ของอาชีพที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและเทคโนโลยี โลกที่เต็มไปด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีจึงมีอาชีพที่หลากหลายเพื่อรองรับการเติบโตและความสำคัญของเทคโนโลยีในวันนี้และอนาคต
วิเคราะห์ SWOT ธุรกิจกับเทคโนโลยี
การวิเคราะห์ SWOT เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ธุรกิจของคุณ โดยทำการวิเคราะห์ด้านความแข็งแกร่ง (Strengths), ความอ่อนแอ (Weaknesses), โอกาส (Opportunities), และอุปสรรค (Threats) ของธุรกิจและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ดังนี้คือการวิเคราะห์ SWOT สำหรับธุรกิจกับเทคโนโลยี
ความแข็งแกร่ง (Strengths)
- ทักษะและความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีที่คุณและทีมของคุณมี
- ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูง
- ความสามารถในการนวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่
- ฐานลูกค้าที่มีความชอบใจและความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ
- ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในตลาดเร็ว ๆ นี้
ความอ่อนแอ (Weaknesses)
- ขีดจำกัดทางทรัพยากรทางการเงินและบุคคล
- ความไม่เสถียรในการอยู่ในตลาดหรือความยุ่งยากในการทำธุรกิจในภูมิภาคที่เกี่ยวข้อง
- ขาดทักษะหรือความรู้ทางธุรกิจที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจ
- ความยากลำบากในการนำเทคโนโลยีใหม่เข้าสู่การใช้งานจริง
โอกาส (Opportunities)
อุปสรรค (Threats)
- คู่แข่งที่มีทักษะและทรัพยากรทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง
- การเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีที่สามารถทำให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณล้าหลัง
- สภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อการซื้อสินค้าหรือบริการของลูกค้า
- การเปลี่ยนแปลงในกฎหมายหรือกฎระเบียบที่อาจมีผลกระทบต่อธุรกิจของคุณ
การวิเคราะห์ SWOT จะช่วยให้คุณมีภาพรวมและความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจและโอกาสที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถกำหนดกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของธุรกิจและเทคโนโลยีที่คุณเผชิญอยู่ด้วย
คําศัพท์พื้นฐาน ธุรกิจกับเทคโนโลยี ที่ควรรู้
- Innovation (นวัตกรรม)
- คำอธิบาย การสร้างสิ่งใหม่หรือพัฒนาแนวคิดเพื่อเพิ่มคุณค่าและประสิทธิภาพ
- ตัวอย่าง Technological innovation drives progress in various industries.
- Startup (สตาร์ทอัพ)
- คำอธิบาย ธุรกิจเล็กที่กำลังเริ่มต้นและมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว
- ตัวอย่าง Many startups focus on disruptive technologies.
- E-commerce (อีคอมเมิร์ซ)
- คำอธิบาย การซื้อขายสินค้าและบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต
- ตัวอย่าง E-commerce platforms have transformed the way people shop.
- Digital Marketing (การตลาดดิจิทัล)
- คำอธิบาย กิจกรรมการตลาดที่ใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมาย
- ตัวอย่าง Digital marketing strategies include social media campaigns and email marketing.
- Cybersecurity (ความมั่นคงปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์)
- คำอธิบาย การปกป้องระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลจากการฉ้อโกงและการโจมตีทางไซเบอร์
- ตัวอย่าง Companies invest in cybersecurity to safeguard sensitive information.
- Big Data (ข้อมูลขนาดใหญ่)
- คำอธิบาย ชุดข้อมูลที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนที่ต้องการการวิเคราะห์และการจัดการเฉพาะ
- ตัวอย่าง Big data analytics help businesses gain insights from vast amounts of information.
- Artificial Intelligence (ปัญญาประดิษฐ์)
- คำอธิบาย ความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์และโปรแกรมในการทำงานเหมือนมนุษย์
- ตัวอย่าง Artificial intelligence is used in chatbots and autonomous vehicles.
- Cloud Computing (คอมพิวเตอร์คลาวด์)
- คำอธิบาย การใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์และเก็บข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต
- ตัวอย่าง Cloud computing allows businesses to access resources remotely.
- Blockchain (บล็อกเชน)
- คำอธิบาย ระบบที่ใช้ในการเก็บข้อมูลแบบกระจายและป้องกันการปลอมแปลง
- ตัวอย่าง Blockchain technology is the foundation of cryptocurrencies like Bitcoin.
- IoT (Internet of Things) (อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง)
- คำอธิบาย การเชื่อมต่ออุปกรณ์และสิ่งของต่าง ๆ กับอินเทอร์เน็ตเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล
- ตัวอย่าง The IoT allows smart devices to communicate and share data for automation and monitoring purposes.
หมายเหตุ คำศัพท์บางคำอาจมีความหมายที่ซับซ้อน คำแปลเป็นอังกฤษที่ใช้ที่นี่เป็นแนวทางเท่านั้นและอาจมีความหมายเพิ่มเติมในบางกรณี
ธุรกิจ ธุรกิจกับเทคโนโลยี ต้อง จดทะเบียนบริษัท หรือไม่
การจดทะเบียนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีจะขึ้นอยู่กับกฎหมายและข้อกำหนดของแต่ละประเทศและพื้นที่ ดังนี้คือรายการทั่วไปของสิ่งที่คุณอาจจะต้องจดทะเบียนเมื่อเริ่มธุรกิจกับเทคโนโลยี
- การจดทะเบียนธุรกิจ คุณจะต้องจดทะเบียนธุรกิจของคุณเพื่อให้ได้สถานภาพทางกฎหมาย และคุณควรเลือกรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ เช่น บริษัทจำกัด, บริษัทมหาชน, หรือธุรกิจส่วนตัว การจดทะเบียนจะให้คุณสิทธิและความปลอดภัยในการดำเนินธุรกิจ
- การจดทะเบียนเทคโนโลยี หากธุรกิจของคุณมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เฉพาะเจาะจง เช่น การพัฒนาซอฟต์แวร์, การออกแบบเว็บไซต์ เป็นต้น คุณอาจต้องจดทะเบียนลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตรเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่คุณสร้างขึ้น
- สิทธิบัตร (Patents) ถ้าธุรกิจของคุณมีการสร้างประดิษฐ์หรือนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์ คุณสามารถจดสิทธิบัตรเพื่อปกป้องสิทธิของคุณและป้องกันคู่แข่งที่จะทำสิ่งเดียวกัน
- ลิขสิทธิ์ (Copyrights) หากคุณสร้างสรรค์ผลงานเช่น ซอฟต์แวร์, เนื้อหาออนไลน์ เพลง คุณสามารถจดลิขสิทธิ์เพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์
- การจดทะเบียนเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Registration) หากธุรกิจของคุณมีรายได้สูงพอที่จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม คุณอาจจะต้องจดทะเบียนเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมายท้องถิ่น
- การรับรองซอฟต์แวร์ (Software Certifications) หากคุณพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ความสอดคล้อง หรือมีมาตรฐาน เช่น ระบบจัดการความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล คุณอาจได้รับการรับรองหรือการตรวจสอบว่าซอฟต์แวร์ของคุณสอดคล้องกับมาตรฐาน
- การลงทะเบียนการค้า (Trademark Registration) หากคุณมีสัญลักษณ์การค้าหรือโลโก้ที่ใช้ในธุรกิจของคุณ คุณอาจจะต้องลงทะเบียนเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิและการลอกเลียน
- การรับรองความปลอดภัยข้อมูล (Data Security Certifications) หากคุณดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล คุณอาจสามารถรับรองความปลอดภัยข้อมูลตามมาตรฐานที่กำหนดโดยกฎหมาย
ข้อกำหนดเหล่านี้อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสถานที่ที่คุณตั้งธุรกิจ คุณควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายหรือที่ปรึกษาธุรกิจเพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นเอกสารก่อนที่จะดำเนินการจดทะเบียนใด ๆ
บริษัท ธุรกิจกับเทคโนโลยี เสียภาษีอย่างไร
ภาษีที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอาจต้องเสียขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ และกฎหมายภาษีที่มีในแต่ละประเทศ นี่คือบางประเภทของภาษีที่ธุรกิจและเทคโนโลยีอาจต้องเสีย
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax) หากคุณเป็นผู้ประกอบการแบบบุคคลธรรมดา คุณอาจต้องเสียภาษีเงินได้จากรายได้ที่คุณได้รับจากธุรกิจ
- ภาษีธุรกิจ (Business Tax) ธุรกิจบางประเภทอาจต้องเสียภาษีธุรกิจเพื่อให้ความส่งเสริมการเสียภาษีแก่รัฐ ภาษีนี้อาจคิดจากยอดขายหรือรายได้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax, VAT) หากธุรกิจของคุณมีรายได้สูงพอที่จะเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม คุณอาจต้องเสียภาษีนี้ตามกฎหมายท้องถิ่น
- ภาษีเงินบริการ (Service Tax) บางประเภทของบริการอาจต้องเสียภาษีเงินบริการ ตัวอย่างเช่น บริการทางเทคโนโลยีหรือบริการออนไลน์
- ภาษีธุรกิจเฉพาะ (Special Business Tax) ในบางกรณี เฉพาะประเภทของธุรกิจอาจต้องเสียภาษีเฉพาะตามกฎหมายที่กำหนด เช่น ธุรกิจบางประเภทที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- ภาษีเงินนอกราชอาณาจักร (International Tax) หากธุรกิจของคุณเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจในประเทศอื่น ๆ คุณอาจต้องเสียภาษีตามกฎหมายของประเทศที่คุณทำธุรกิจ
- ภาษีโอนทรัพย์สิน (Property Transfer Tax) หากคุณทำการซื้อขายทรัพย์สิน เช่น อสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในธุรกิจ คุณอาจต้องเสียภาษีโอนทรัพย์สิน
- ภาษีสรรพสิ่ง (Excise Tax) บางประเภทของสินค้าหรือบริการทางเทคโนโลยีอาจมีการเสียภาษีสรรพสิ่ง เช่น การขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- ภาษีเงินกำไรนิติบุคคล (Corporate Income Tax) หากธุรกิจของคุณเป็นนิติบุคคล คุณอาจต้องเสียภาษีเงินกำไรนิติบุคคลจากรายได้ที่คุณได้รับจากธุรกิจ
- ภาษีธุรกิจออนไลน์ (Digital Services Tax) ในบางประเทศ มีการกำหนดภาษีเฉพาะสำหรับธุรกิจที่ให้บริการออนไลน์ เช่น การขายแอปพลิเคชันหรือบริการสตรีมมิ่ง
ข้อกำหนดเหล่านี้อาจแตกต่างกันตามกฎหมายและประเทศที่คุณทำธุรกิจ คุณควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางภาษีหรือที่ปรึกษาทางธุรกิจเพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นเอกสารเพื่อทราบเกี่ยวกับภาษีที่คุณต้องเสีย


บริษัท ปังปอน จำกัด
47/103 หมู่ 9 ถ.แจ้งวัฒนะ บางพูด ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 โทร.02-964-9800
รับทำบัญชี
โทร.081-931-8341 (คุณจ๋า)
แนวข้อสอบบัญชีเบื้องต้น พื้นฐานของโลกธุรกิจ ที่เน้นการ บันทึก-จัดประเภท-สรุปผลทางการเงิน ของกิจการ ผู้เรียนต้องเข้าใจ บัญชีเดบิต เครดิต งบการเงิน รายการ
สมัครงานตำแหน่งบัญชี เนื่องจากทุกธุรกิจ ต้องมีการจัดการทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็กหรือองค์กรใหญ่ นักบัญชี คือหัวใจในการควบคุมงบประมาณ บันทึก
Brought Forward บัญชี ยอดยกมา หรือยอดคงเหลือจากงวดก่อนหน้า ที่ถูกนำมาตั้งต้นเป็นยอดเริ่มต้นในงวดปัจจุบัน เช่น หากคุณมียอดเงินสดในเดือนมิถุนายน
บัญชีบัตรเครดิต บัญชีทางบัญชีประเภทเจ้าหนี้การค้า (Accounts Payable) ที่บันทึกภาระหนี้สินของผู้ถือบัตรกับสถาบันการเงินเจ้าของบัตร เมื่อคุณใช้บัตรเครดิตซื้อ
บัญชีโก: พลิกชีวิตเจ้าของธุรกิจด้วยการจัดการบัญชีอย่างม […]
บัญชีธนาคาร Shopee การบัญชีให้ถูกต้อง เพิ่มยอดขายแบบมือโปร! หรือเพิ่งเริ่มต้นขายของในแพลตฟอร์มนี้ คำว่า “บัญชีธนาคาร Shopee” ไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก ๆ