รับทำบัญชี.COM | เอกสารประกอบการบันทึกบัญชีของกิจการซื้อขายสินค้ามีอะไรบ้าง?

เอกสารประกอบการบันทึกบัญชีของกิจการซื้อขายสินค้า มีอะไรบ้าง

เอกสารประกอบการบันทึกบัญชีของกิจการซื้อขายสินค้ามีหลายประเภทที่ใช้ในกระบวนการบันทึกและรายงานกิจกรรมการซื้อขายสินค้าของบริษัท นี่คือเอกสารบางส่วนที่สำคัญ

  1. ใบสั่งซื้อ (Purchase Order) เอกสารที่บริษัทส่งถึงผู้ขายเพื่อสั่งซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบ ระบุรายละเอียดของสินค้า จำนวน ราคา และเงื่อนไขการส่งมอบ

  2. ใบเสนอราคา (Quotation) เอกสารที่ผู้ขายส่งถึงลูกค้าเพื่อเสนอราคาสินค้าหรือบริการ ระบุรายละเอียดของสินค้า ราคา และเงื่อนไขการซื้อ

  3. ใบส่งสินค้า (Delivery Note) เอกสารที่ใช้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการส่งสินค้าถึงลูกค้า ระบุรายละเอียดของสินค้า จำนวน และวันที่ส่ง

  4. ใบแจ้งหนี้ (Invoice) เอกสารที่ใช้ระบุรายละเอียดของการขายสินค้าหรือบริการ รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับราคา จำนวน ยอดรวม วันครบกำหนดชำระเงิน

  5. ใบเสร็จรับเงิน (Receipt) เอกสารที่แสดงการรับเงินจากลูกค้าหลังจากทำการขายสินค้า ระบุยอดเงินที่ได้รับและรายละเอียดของการทำธุรกรรม

  6. ใบเบิกสินค้า (Goods Issue) เอกสารที่ใช้ระบุรายละเอียดของสินค้าที่ถูกเบิกจ่ายจากคลังสินค้า เพื่อใช้ในการขายหรือจัดส่ง

  7. ใบรับสินค้า (Goods Receipt) เอกสารที่ใช้ระบุรายละเอียดของสินค้าที่ได้รับเข้าคลังสินค้าหลังจากการสั่งซื้อ

  8. บันทึกการขาย (Sales Record) เอกสารที่ใช้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการขายสินค้าหรือบริการ ระบุรายละเอียดของสินค้า จำนวน ราคา และรายละเอียดผู้ซื้อ

  9. รายงานการขาย (Sales Report) เอกสารที่ระบุยอดการขายของบริษัทในระยะเวลาที่กำหนด รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าที่ขายไป

  10. รายงานการคืนสินค้า (Returns Report) เอกสารที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการคืนสินค้าหรือการรับคืนสินค้าจากลูกค้า

เอกสารเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในกระบวนการบันทึกและรายงานกิจกรรมการซื้อขายสินค้าของบริษัท และการเก็บข้อมูลทางการเงินเพื่อให้สามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การบันทึกบัญชีธุรกิจซื้อขายสินค้า

การบันทึกบัญชีในธุรกิจซื้อขายสินค้าเป็นกระบวนการที่สำคัญเพื่อระบุและบันทึกกิจกรรมการซื้อขายสินค้าของบริษัท นี่คือขั้นตอนพื้นฐานในการบันทึกบัญชีธุรกิจซื้อขายสินค้า

  1. เปิดบัญชี เริ่มต้นโดยเปิดบัญชีบัญชีที่จำเป็นสำหรับการซื้อขายสินค้า เช่น บัญชีเงินสด บัญชีลูกหนี้การค้า บัญชีสินค้าคงเหลือ บัญชีค่าใช้จ่าย และอื่น ๆ ตามความต้องการของธุรกิจ

  2. บันทึกรายละเอียดการซื้อขาย บันทึกรายละเอียดของการซื้อขายสินค้าในสมุดรายวันหรือระบบบันทึกข้อมูล รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับวันที่ธุรกรรม ชื่อลูกค้าหรือผู้ขาย รายละเอียดสินค้า จำนวน ราคา และเงื่อนไขการซื้อขาย

  3. บันทึกใบสั่งซื้อ (Purchase Order) เมื่อมีการสั่งซื้อสินค้าจากผู้ขาย บันทึกข้อมูลใบสั่งซื้อเพื่อระบุรายละเอียดการซื้อ

  4. บันทึกใบเสนอราคา (Quotation) ถ้ามีการขอใบเสนอราคาก่อนการซื้อ บันทึกข้อมูลใบเสนอราคาและรายละเอียดเกี่ยวกับราคาและเงื่อนไขการซื้อ

  5. บันทึกใบส่งสินค้า (Delivery Note) บันทึกรายละเอียดของการส่งสินค้าถึงลูกค้า ระบุรายละเอียดสินค้า จำนวน และวันที่ส่ง

  6. บันทึกใบแจ้งหนี้ (Invoice) บันทึกรายละเอียดการขายสินค้าและออกใบแจ้งหนี้ไปยังลูกค้า รวมถึงรายละเอียดราคา จำนวน และวันครบกำหนดชำระเงิน

  7. บันทึกการรับเงิน (Receipt) หากมีการรับเงินจากลูกค้าหลังจากการขาย บันทึกรายละเอียดการรับเงินเพื่อบันทึกยอดเงินที่ได้รับ

  8. บันทึกการจ่ายเงิน (Payment Entry) หากมีการชำระเงินให้กับผู้ขายหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ บันทึกรายละเอียดการจ่ายเงินเพื่อบันทึกยอดเงินที่จ่าย

  9. รายงานและสรุปผล จัดทำรายงานการซื้อขายสินค้า เช่น รายงานยอดขาย รายงานรายได้ รายงานค่าใช้จ่าย และรายงานสินค้าคงเหลือ เพื่อให้ข้อมูลทางการเงินและบัญชีที่ชัดเจน

  10. ปิดบัญชีรายเดือนหรือรายปี ปิดบัญชีสิ้นเดือนหรือสิ้นปีโดยทำการรวบรวมยอดรายรับและรายจ่าย และทำการปรับปรุงยอดบัญชี

การบันทึกบัญชีในธุรกิจซื้อขายสินค้าเป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างรอบคอบเพื่อให้ข้อมูลทางการเงินและบัญชีเป็นไปถูกต้องและครอบคลุมทุกขั้นตอนของกิจกรรมการซื้อขายสินค้าในบริษัท.

เอกสารประกอบการบันทึกบัญชี มีอะไรบ้าง 

เอกสารประกอบการบันทึกบัญชีเป็นเอกสารที่ใช้ในกระบวนการบันทึกและรายงานกิจกรรมทางการเงินของธุรกิจหรือบริษัท นี่คือเอกสารบางส่วนที่อาจจะปรากฏในกระบวนการบันทึกบัญชี

  1. สมุดรายวัน (General Journal) เอกสารที่ใช้บันทึกทุกธุรกรรมการเงินที่เกิดขึ้นในบริษัท รายละเอียดของการทำธุรกรรมรวมถึงรหัสบัญชี วันที่ คำอธิบาย และจำนวนเงินที่เกี่ยวข้อง

  2. สมุดบัญชี (General Ledger) เอกสารที่รวบรวมข้อมูลจากสมุดรายวันและจัดเรียงตามบัญชีต่าง ๆ แต่ละบัญชีจะระบุยอดคงเหลือเป็นเวลา

  3. งบทดลอง (Trial Balance) เอกสารที่แสดงยอดคงเหลือของบัญชีทั้งหมดในบริษัท ใช้ในการตรวจสอบว่ายอดเครดิตและเดบิตเป็นเท่ากัน

  4. รายงานการเบิกจ่าย (Expense Reports) เอกสารที่รวบรวมรายการค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในบริษัท ระบุรายละเอียดของค่าใช้จ่ายแต่ละรายการ

  5. รายงานการรับเงิน (Receipt Reports) เอกสารที่รวบรวมรายการรับเงินที่เกิดขึ้น ระบุรายละเอียดของรายการรับเงินแต่ละรายการ

  6. รายงานการขาย (Sales Reports) เอกสารที่รวบรวมรายการการขายสินค้าหรือบริการ ระบุรายละเอียดของรายการการขายแต่ละรายการ

  7. รายงานทางการเงินรายปี (Year-End Financial Reports) เอกสารที่จัดทำเพื่อรายงานสถานะการเงินและกิจกรรมทางการเงินของบริษัทในรอบปี รวมถึงงบทดลองปิดบัญชีและรายงานการส่งมอบข้อมูลภาษี

  8. เอกสารทางธุรกรรม (Transactional Documents) เอกสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางธุรกรรมของบริษัท เช่น ใบสั่งซื้อ ใบส่งสินค้า ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน และใบเบิกค่าใช้จ่าย

  9. เอกสารทางภาษี (Tax Documents) เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการรายงานและชำระภาษี เช่น ใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) รายงานภาษีเงินได้ และเอกสารทางภาษีอื่น ๆ

  10. เอกสารทางทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources Documents) เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพยากรมนุษย์ในบริษัท เช่น ใบสมัครงาน สัญญาจ้างงาน ใบลา และใบเงินเดือน

เอกสารประกอบการบันทึกบัญชีเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการบันทึกและรายงานกิจกรรมทางการเงินของธุรกิจ และให้ข้อมูลทางการเงินแก่ผู้ที่สนใจหรือผู้มีส่วนสนใจในบริษัท เช่น ผู้ถือหุ้น ลูกค้า และหน่วยงานกำกับดูแล.

ธุรกิจซื้อขายสินค้า บัญชี

ธุรกิจซื้อขายสินค้ามีกระบวนการบัญชีที่เฉพาะเจาะจงเพื่อบันทึกและติดตามกิจกรรมการซื้อขายสินค้าของธุรกิจนั้น ตัวอย่างการจัดการบัญชีในธุรกิจซื้อขายสินค้ามีดังนี้

  1. บัญชีเงินสด (Cash Account) บันทึกรายการเงินสดที่เข้าออกในธุรกิจ รวมถึงรายละเอียดการรับเงินจากการขายสินค้าและการจ่ายเงินในการซื้อสินค้า

  2. บัญชีลูกหนี้การค้า (Accounts Receivable) บันทึกรายการเงินที่ค้างชำระจากลูกค้าในการขายสินค้า เป็นรายละเอียดของหนี้ที่ลูกค้าต้องชำระ

  3. บัญชีสินค้าคงเหลือ (Inventory Account) บันทึกรายการสินค้าที่คงอยู่ในคลังสินค้าของธุรกิจ รวมถึงการบันทึกการเบิกจ่ายสินค้า

  4. บัญชีค่าใช้จ่าย (Expense Account) บันทึกรายการค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับกิจกรรมการซื้อขายสินค้า เช่น ค่าขนส่ง ค่าโฆษณา และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

  5. บัญชีรายได้ (Revenue Account) บันทึกรายการรายได้ที่เกิดขึ้นจากการขายสินค้า รวมถึงการบันทึกรายการส่วนลดและโปรโมชั่น

  6. บัญชีภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Account) บันทึกรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่เกิดขึ้นในกระบวนการซื้อขายสินค้า

  7. บัญชีส่วนลด (Discount Account) บันทึกรายการส่วนลดที่มอบให้กับลูกค้าหรือรับจากผู้ขายในกระบวนการซื้อขายสินค้า

  8. สมุดรายวัน (General Journal) บันทึกรายละเอียดของทุกธุรกรรมการเงินที่เกิดขึ้นในบริษัท รวมถึงรายละเอียดของการซื้อขายสินค้า

  9. สมุดบัญชี (General Ledger) รวบรวมข้อมูลจากสมุดรายวันและจัดเรียงตามบัญชีต่าง ๆ เพื่อบันทึกรายการบัญชีทั้งหมด

  10. งบทดลอง (Trial Balance) แสดงยอดคงเหลือของบัญชีทั้งหมดเพื่อตรวจสอบว่ายอดเครดิตและเดบิตเป็นเท่ากัน

  11. งบการเงิน (Financial Statements) รายงานการเงินที่จัดทำเพื่อรายงานสถานะการเงินของธุรกิจ รวมถึงรายงานกำไรขาดทุน งบดุล และงบการเงินอื่น ๆ

  12. รายงานระหว่างรอบ (Interim Reports) รายงานที่จัดทำเพื่อสรุปผลการเงินและกิจกรรมการซื้อขายสินค้าระหว่างรอบปี

  13. รายงานการขาย (Sales Reports) รายงานที่แสดงยอดการขายของสินค้าในระยะเวลาที่กำหนด

ธุรกิจซื้อขายสินค้าต้องจัดการบัญชีให้เป็นระเบียบและถูกต้องเพื่อให้สามารถตรวจสอบสถานะการเงินและบัญชีของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ.

อ่านเพิ่มเติม >> จะต้องมีเอกสารหรือข้อมูลอะไรที่ต้องให้กับผู้ทำบัญชี

 

ปก alibaba

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )