คลังข้อมูลธุรกิจ

ตรวจค้น กรมพัฒนาธุรกิจคลังข้อมูลเก่า DBD มี 7 ประโยชน์มากๆ?

คลังข้อมูลธุรกิจ

คลังข้อมูลธุรกิจ (Business Database) คือ ระบบหรือพื้นที่ที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลทางธุรกิจขององค์กรหรือกิจการใหญ่ ๆ เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้ข้อมูลในการตัดสินใจและวางแผนกิจการอย่างมีประสิทธิภาพ คลังข้อมูลธุรกิจมักจะเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า, ผู้ขาย, การเงิน, พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, การผลิต, สินค้าและบริการ, และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการ

คลังข้อมูลธุรกิจมีหน้าที่สำคัญในการดำเนินกิจการ และมีประโยชน์มากในด้านต่าง ๆ ดังนี้

  1. การบริหารข้อมูลลูกค้า ช่วยในการจัดเก็บและจัดการข้อมูลลูกค้า รวมถึงประวัติการซื้อขายและการติดต่อ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้า

  2. การบริหารความรู้ ช่วยในการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับความรู้ทางธุรกิจ และประสบการณ์ที่มีค่า ที่องค์กรสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจและการวางแผนกิจการ

  3. การตรวจสอบความเชื่อถือได้ ในกรณีที่มีข้อมูลทางธุรกิจที่สำคัญ เช่น ข้อมูลการเงิน คลังข้อมูลช่วยในการตรวจสอบความถูกต้องและความเชื่อถือได้ของข้อมูล

  4. การวางแผนและการคาดการณ์ ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างแผนธุรกิจ การวางแผนการผลิต และการคาดการณ์สถานการณ์ทางธุรกิจในอนาคต

  5. การติดต่อกับพาร์ทเนอร์และผู้ขาย คลังข้อมูลสามารถใช้ในการติดต่อกับพาร์ทเนอร์และผู้ขายเพื่อสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ, และจัดการข้อมูลการจัดส่งและการสั่งซื้อ

  6. การจัดการคลังสินค้า ช่วยในการจัดการสต็อกสินค้าและความสามารถในการสั่งซื้อและจัดส่งสินค้าให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

  7. การสร้างรายงานและการวิเคราะห์ คลังข้อมูลช่วยในการสร้างรายงานทางธุรกิจและการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจที่มีมูลค่ามากขึ้น

การเลือกและการใช้ระบบคลังข้อมูลธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากมีหลายรูปแบบและความสามารถต่าง ๆ ให้เลือก เช่น ระบบฐานข้อมูล SQL, NoSQL, ระบบคลังข้อมูลในคลาวด์ (Cloud Database), และแพลตฟอร์มการจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่มีให้เลือกใช้บนตลาด การเลือกคลังข้อมูลธุรกิจที่เหมาะสมสำหรับองค์กรหรือกิจการของคุณเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สามารถนำข้อมูลมาใช้ในการสนับสนุนการตัดสินใจและการพัฒนาธุรกิจในระยะยาว

กรมพัฒนา ข้อมูลเก่า คลังข้อมูลธุรกิจ ใหญ่ที่สุด

 “กรมพัฒน์ฯ” จัดเต็ม! คลังข้อมูลธุรกิจใหญ่ที่สุดในประเทศ
             “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ต่อยอดการเป็นคลังข้อมูลธุรกิจ คล้องแขนสำนักงานสถิติแห่งชาติ สร้างคลังข้อมูลธุรกิจที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในประเทศ หวังใช้ข้อมูลพัฒนาธุรกิจไทยให้มีความเข้มแข็งอย่างครบวงจร พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มด้านข้อมูลธุรกิจให้นักลงทุนเชื่อมั่นก่อนการตัดสินใจลงทุน
             นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังจากมอบหมายให้  กรมพัฒนาธุรกิจการค้าประชุมหารือร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกิจระหว่างกัน เพื่อนำไปใช้เป็นฐานข้อมูลในการพัฒนาผู้ประกอบการและธุรกิจไทย
             “การเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกิจระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและสำนักงานสถิติแห่งชาติ นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างหน่วยงานภาครัฐ  ที่จะเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลระหว่างกัน  เนื่องจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นคลังข้อมูลนิติบุคคลที่ใหญ่ที่สุด ในขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเป็นคลังข้อมูลสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรมที่ดีที่สุด
             ฉะนั้น เมื่อ 2 หน่วยงานมีการเชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูลร่วมกัน คลังข้อมูลธุรกิจที่ใหญ่ และสมบูรณ์ที่สุดในประเทศจึงเกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อภาคธุรกิจ ประชาชนผู้ใช้บริการ รวมทั้งภาครัฐ  โดยผู้ประกอบธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้วสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์เพื่อต่อยอดธุรกิจ สร้างเครือข่าย และขยายการลงทุน ช่วยให้ธุรกิจของไทยมีความเข้มแข็ง มั่นคง ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น สำหรับภาครัฐสามารถนำมาใช้ในการวางแผนและกำหนดนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจด้านธุรกิจการค้า ธุรกิจการบริการ และภาคอุตสาหกรรม”
             ทั้งนี้ การเชื่อมโยงฐานข้อมูลธุรกิจของ 2 หน่วยงาน คาดว่าจะสามารถให้บริการแก่นักลงทุนและผู้ประกอบธุรกิจได้ในอนาคตอันใกล้นี้
             อนึ่ง นอกจากความร่วมมือฯ ดังกล่าวแล้ว กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ประกอบด้วย กรมศุลกากร กรมสรรพาสามิต กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมการจัดหางาน กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรมที่ดิน และสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลการประกอบธุรกิจ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบธุรกิจให้ได้รับความสะดวกในการติดต่อกับหน่วยงานราชการ ลดขั้นตอน ระยะเวลา ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และเป็นการยกระดับให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ง่ายต่อการดำเนินธุรกิจ (Ease of Doing Business) ตลอดจนเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้แก่นักลงทุน   และผู้ประกอบการไทยอีกด้วย

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?

คลิกที่ดาวเพื่อให้คะแนน!

เฉลี่ยได้กี่คะแนน 5 / 5. จำนวนโหวต: 1

ยังไม่มีคะแนนโหวต! เป็นคนแรกที่ให้คะแนนโพสต์นี้

จำนวนคอมเมนต์ของโพสต์ ID 3151: 121