คำนวณค่าล่วงเวลา
ค่าล่วงเวลา (Overtime Pay) คือ เงินที่จ่ายให้กับพนักงานที่ทำงานเกินเวลาที่กำหนดในเวลาทำงานปกติหรือเกินจำนวนชั่วโมงที่กำหนดตามกฎหมายแรงงานหรือนโยบายของบริษัท การจ่ายค่าล่วงเวลามักจะมีกฎหมายหรือข้อกำหนดที่บริษัทกำหนดขึ้นเพื่อให้กำหนดว่าพนักงานจะได้รับค่าล่วงเวลาเมื่อไรและในกรณีใดบ้าง โดยปกติแล้วค่าล่วงเวลามักมีอัตราค่าจ้างสูงกว่าราคาชั่วโมงทำงานปกติของพนักงาน
หลักการในการจ่ายค่าล่วงเวลามักคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
-
อัตราค่าล่วงเวลา อัตราค่าล่วงเวลามีการกำหนดโดยกฎหมายแรงงานหรือนโยบายของบริษัท โดยทั่วไปแล้วอัตราค่าล่วงเวลาจะมากกว่าค่าจ้างในชั่วโมงปกติ เช่น 1.5 เท่าหรือ 2 เท่าของค่าจ้างปกติในชั่วโมงเดียวกัน
-
เงื่อนไขการจ่าย บริษัทมักกำหนดเงื่อนไขการจ่ายค่าล่วงเวลา เช่น จ่ายค่าล่วงเวลาเมื่อพนักงานทำงานเกิน 8 ชั่วโมงต่อวันหรือเกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เป็นต้น
-
หลักการคำนวณ ค่าล่วงเวลามักถูกคำนวณโดยการคูณอัตราค่าล่วงเวลากับจำนวนชั่วโมงเกินปกติที่ทำงาน
-
ประเภทของค่าล่วงเวลา บางบริษัทอาจมีระบบค่าล่วงเวลาที่แตกต่างกันสำหรับวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือวันหยุดประจำสัปดาห์ เช่น ค่าล่วงเวลาสำหรับวันหยุดอาจจ่ายสูงกว่า.
ค่าล่วงเวลามีไว้เพื่อส่งเสริมและรางวัลพนักงานที่ทำงานเพิ่มเวลาเพื่อให้กับบริษัท เป็นส่วนหนึ่งของระบบค่าจ้างแรงงานและสวัสดิการสำหรับพนักงานที่ทำงานเสริมเวลา การจ่ายค่าล่วงเวลามีความสำคัญในการให้ความยุติธรรมและสิทธิพนักงานที่ทำงานเกินเวลาให้ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม
การคำนวณค่าจ้างในการทำงานล่วงเวลา
การทำงานล่วงเวลา หรือทำงานพิเศษนั้น ขอจำแนกตามกฎหมายออกเป็น 3 ประเภท คือ
1. การทำงานล่วงเวลาในวันปกติ
2. การทำงานในวันหยุด
3. การทำงานล่วงเวลาในวันหยุด
ซึ่งจะขออธิบายการคิดคำนวณเป็นข้อๆ ดังนี้
1. การทำงานล่วงเวลา การทำงานที่เกินจากการทำงานเวลาปกติไปแล้ว พรบ.คุ้มครองแรงงานมาตรา 61 กำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างไม่น้อยกว่า 1.5 (หนึ่งเท่าครึ่ง) ของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง
เช่น จากตัวอย่างข้างต้นเราได้มาแล้วว่า อัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงปกติของเรานั้นอยู่ที่ 41.67 บาทต่อชั่วโมงดังนั้นหากเราอยากรู้ว่า วันนี้เราทำงานล่วงเวลาไปแล้ว 1 ชั่วโมง จะได้ค่าทำงานล่วงเวลาเท่าไร ก็สามารถคำนวณง่ายๆโดย ( อัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงปกติ คูณด้วย 1.5 เท่า) คุณ จำนวนชั่วโมงที่ทำงานล่วงเวลา สำหรับกรณีตัวอย่างข้างต้น อัตราทำงานล่วงเวลาในวันปกติจะอยู่ที่ (41.67 X 1.5) X 1 ชั่วโมง = 62.50 บาท ครับ
*** หมายเหตุ การทำงานล่วงเวลา นอกจากจะมีกฎหมายกำหนดค่าจ้างเอาไว้แล้ว ยังมีกฎหมายกำหนดวิธีการจัดการที่ลูกจ้างต้องรู้อีกด้วย เช่น
– ห้ามนายจ้างบังคับลูกจ้างทำงานล่วงเวลา ยกเว้นลูกจ้างยินยอม (มาตรา 24)
– การทำงานล่วงเวลาเกินจากเวลาปกติ นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างพักก่อนไม่น้อยกว่า 20 นาทีก่อนเริ่มทำงานล่วงเวลา (มาตรา 27 วรรค 4)
– งานบางอย่าง บางหน้าที่ อาจไม่ได้รับค่าจ้างทำงานล่วงเวลา ที่ 1.5 เท่าตามมาตรา 61 แต่จะได้รับเพียง 1 เท่าเพียงเท่านั้น เช่น ลูกจ้างที่ทีหน้าที่กระทำการแทนนายจ้าง , งานเปิดปิดประตูระบายน้ำ ฯลฯ (มาตรา 65)
2. การมาทำงานในวันหยุด ประเด็นนี้ขอแยกออกเป็นข้อย่อย 2 ประเภทคือ พนักงานรายเดือน และพนักงานรายวัน เนื่องจาก
– พนักงานรายเดือน หรือพนักงานประจำ ถือเป็นลูกจ้างที่ได้รับค่าจ้างในวันหยุด นั้นคือตามกฎหมายแล้ว วันเสาร์อาทิตย์ที่ลูกจ้างหยุด ถือว่าได้รับค่าจ้างตามกฎหมายอยู่แล้ว
– พนักงานรายวัน พนักงานประเภทนี้ วันไหนมาทำงานจึงได้ค่าจ้าง วันไหนไม่มาทำงาน ไม่ได้รับค่าจ้าง ดังนั้นพนักงานรายวันถือว่าเป็นพนักงานที่ไม่ได้รับค่าจ้างในวันหยุด
ดังนั้นการคำนวณค่าทำงานล่วงเวลาสำหรับพนักงานสองประเภทนี้ จึงต่างกันออกไป ดังนี้
2.1 กรณีพนักงานรายเดือน หรือพนักงานประจำ ให้จ่ายค่าทำงานในวันหยุดไม่น้อยกว่า 1 เท่า (มาตรา 62 (1)
2.2 กรณีพนักงานรายวัน ให้ ให้จ่ายค่าทำงานในวันหยุดไม่น้อยกว่า 2 เท่า (มาตรา 62 (2)
สำหรับประเด็นที่ผมยกกฎหมายมาอ้างอิงนั้น เป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด เพราะฉะนั้นไม่ต้องมานั่งถกเถียงกันว่า บริษัทนี้ให้ที่ 1 เท่า บริษัทนั้นให้ที่ 2 เท่า เพราะพื้นฐานที่ให้อยู่เพียง 1 เท่าเท่านั้นหากบริษัทใดให้มากกว่า 1 เท่าแล้ว ถือว่าเป็นคุณต่อลูกจ้าง และไม่ได้ถือว่าผิดแต่อย่างใดครับ
3. การทำงานล่วงเวลาในวันหยุด
หลังจากที่ทำงานในวันหยุดครบ 8 ชั่วโมงไปแล้ว หรือหลังเวลาเลิกงานในวันหยุดไปแล้ว หากต้องทำงานล่วงเวลา การคำนวณค่าทำงานล่วงเวลาในวันหยุดจะคล้ายๆกับการคำนวณการทำงานล่วงเวลาในวันทำงานปกติ เพียงแต่เปลี่ยนจาก 1.5 เท่า เป็นอัตราชั่วโมงละไม่น้อยกว่า 3 (สาม) เท่า เท่านั้นเองครับ (มาตรา 63)
ดังนั้นตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นเลย การคำนวณค่าทำงานล่วงเวลาในวันหยุดจะเท่ากับ
( อัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงปกติ คูณด้วย 3.0 เท่า) คุณ จำนวนชั่วโมงที่ทำงานล่วงเวลา
เช่น อัตราทำงานล่วงเวลาในวันปกติจะอยู่ที่ (41.67 X 3.0) X 1 ชั่วโมง = 125 บาท ครับ
ซึ่งจากทั้งหมดที่ผมได้เรียบเรียงนำเสนอมานั้น คิดว่าคงเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆพันทิปไม่มากก็น้อย แต่อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องดังกล่าว ยังสามารถแตกประเด็นและปัญหาการจัดการไปได้อีกมาก ซึ่งหากผมเขียนบรรยายจนหมด คงใช้เวลามาก เอาเป็นว่าหากท่านใดมีปัญหาสอบถามอันสืบเนื่องจากเรื่องดังกล่าว สามารถสอบถามมาได้เลยครับ ผมและเพื่อนๆสมาชิกจะช่วยกันแชร์ความรู้ให้แก่กันครับ
-
วิธีคิดโอทีชั่วโมงละเท่าไหร่
- เพื่อคำนวณค่าโอทีชั่วโมงละเท่าไหร่ คุณต้องทราบอัตราค่าแรงที่ใช้ในการทำงานโอที
- หากอัตราค่าแรงต่อชั่วโมงเป็น A บาท ค่าโอทีชั่วโมงละเท่าไหร่จะเป็น A บาท
ตัวอย่าง ถ้าอัตราค่าแรงต่อชั่วโมงเป็น 100 บาท ค่าโอทีชั่วโมงละเท่าไหร่ก็จะเป็น 100 บาท
-
วิธีคิดโอที 1.5 รายเดือน
- ในกรณีที่โอทีถูกคิดเป็นรายเดือน คุณจะได้รับค่าโอทีที่มีอัตราเป็น 1.5 เท่าของค่าแรงต่อชั่วโมง
- เมื่อคุณทำงานโอทีและคำนวณค่าแรงรายเดือน ค่าโอทีที่ได้จะเป็น 1.5 เท่าของค่าแรงต่อชั่วโมงคูณด้วยจำนวนชั่วโมงการทำงานโอทีในรอบเดือน
ตัวอย่าง ถ้าค่าแรงต่อชั่วโมงเป็น 100 บาท และคุณทำงานโอที 20 ชั่วโมงในเดือนนั้น ค่าโอทีรายเดือนจะเป็น 1.5 x 100 บาท x 20 ชั่วโมง = 3,000 บาท
-
วิธีคิดโอทีตามกฎหมายแรงงาน
- วิธีนี้ใช้กำหนดโดยกฎหมายแรงงานที่รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด
- ค่าโอทีจะถูกคำนวณตามกฎหมายแรงงานและคำนวณโดยใช้อัตราค่าแรงที่กำหนดโดยกฎหมาย
ตัวอย่าง ถ้ากฎหมายแรงงานกำหนดว่าโอทีจะได้รับเป็น 1.5 เท่าของค่าแรงต่อชั่วโมง และค่าแรงต่อชั่วโมงเป็น 100 บาท ค่าโอทีจะเป็น 1.5 x 100 บาท = 150 บาท
-
ค่าโอที ชั่วโมงละเท่าไหร่
- ค่าโอที ชั่วโมงละเท่าไหร่หมายถึงค่าตอบแทนที่คุณจะได้รับต่อชั่วโมงของการทำงานโอที
- ค่าโอทีต้องอ้างอิงกับอัตราค่าแรงที่กำหนด
ตัวอย่าง ถ้าค่าโอทีเป็น 150 บาท ค่าแรงต่อชั่วโมงเป็น 100 บาท ค่าโอทีชั่วโมงละเท่าไหร่ก็จะเป็น 150 บาท
-
วิธีคิดค่าแรงรายวัน
- วิธีนี้ใช้สำหรับการคิดค่าแรงตามจำนวนวันที่ทำงาน
- คุณคูณอัตราค่าแรงต่อชั่วโมงกับจำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันเพื่อคำนวณค่าแรงรายวัน
ตัวอย่าง ถ้าค่าแรงต่อชั่วโมงเป็น 100 บาท และคุณทำงาน 8 ชั่วโมงในแต่ละวัน ค่าแรงรายวันจะเป็น 100 บาท x 8 ชั่วโมง = 800 บาท
-
โอที 3 แรง คือ
- โอที 3 แรงหมายถึงการทำงานเกินกำหนดเวลาทำงานปกติ 3 ชั่วโมง
- เมื่อคุณทำงานโอที 3 แรงคุณจะได้รับค่าตอบแทนที่มากกว่าอัตราค่าแรงปกติ
-
วิธีคิดโอทีรายวัน
- วิธีนี้ใช้สำหรับการคิดค่าโอทีตามจำนวนวันที่ทำงาน
- คุณคูณอัตราค่าแรงโอทีต่อชั่วโมงกับจำนวนชั่วโมงการทำงานโอทีในแต่ละวันเพื่อคำนวณค่าโอทีรายวัน
ตัวอย่าง ถ้าค่าแรงต่อชั่วโมงเป็น 100 บาท และคุณทำงานโอที 3 ชั่วโมงในแต่ละวัน ค่าโอทีรายวันจะเป็น 100 บาท x 3 ชั่วโมง = 300 บาท
-
วิธีคิดโอที 3 แรง
- วิธีนี้ใช้สำหรับการคิดค่าโอทีเมื่อทำงานโอที 3 แรง
- ค่าตอบแทนที่คุณจะได้รับต่อชั่วโมงของการทำงานโอที 3 แรงจะมากกว่าอัตราค่าแรงปกติ
ตัวอย่าง ถ้าค่าแรงต่อชั่วโมงเป็น 100 บาท และค่าโอที 3 แรงมีอัตราเพิ่มขึ้น 50% ค่าโอทีชั่วโมงละเท่าไหร่ก็จะเป็น 1.5 x 100 บาท = 150 บาท
อ่านบทความทั้งหมด >>> รับทำบัญชี.com
ปริญญาตรี บัญชี นักบัญชี ที่ชอบทำบทความ รักการทำบทความมากว่า 20 ปี
รับทำบัญชี โทร.081-931-8341 (คุณจ๋า)
ลาซาด้า Lazada #5 ภาษี รายรับ รายจ่าย?
สินเชื่อ ธุรกิจจำหน่ายเงิน กำไรต่างประเทศ
ตัวอย่างวาระการประชุมบริษัท บริษัท ปังปอน จำกัด
วิธีการตลาดสินค้าออนไลน์ รายได้ ความเสี่ยง?
ทุนจดทะเบียนบริษัท ขั้นต่ำ เรียกเก็บ ปัญหาการเพิ่มทุน ลดทุน?
กระเป๋าผ้า ภาษี กิจการค้า รายรับ รายจ่าย?
ฐานภาษี สำคัญ คืออะไร มีอะไรบ้าง? 2566-67
7 คุณสมบัติ บริษัทรับทำบัญชี บริการ ที่ดี?