วิธียอดลดลงทวีคูณ
วิธียอดลดลงทวีคูณ
วิธียอดลดลงทวีคูณ ( Double Declining Balance Method ) หมายถึง หลักการคำนวณ คือ จะคำนวณหาอัตราค่าเสื่อมราคาต่อปีและปรับจำนวนเป็น 2 เท่า นำอัตรา 2 เท่าที่คำนวณได้ไปคำนวณหาค่าเสื่อมราคาประจำงวด โดยคำนวณจากราคาตามบัญชี ( Book Value ) ของสินทรัพย์ถาวรที่ลดลงทุกปี และวิธีนี้ไม่นำราคาซากมาเกี่ยวข้องกับการคำนวณ การคำนวณ ค่าเสื่อมราคา = ( 2 x อัตราร้อยละของวิธีเส้นตรง ) x ราคาตามบัญชี ณ วันต้นงวด
วิธีการคำนวณยอดลดลงทวีคูณ (Compound Interest) โดยใช้สูตรประมาณคือ:
A = P(1 + r/n)^(nt)
โดยที่:
- A คือ ยอดสิ้นสุดหลังจากการลงทุน (หรือยอดหนี้หลังจากการกู้ยืม)
- P คือ เงินต้น (จำนวนเงินหรือเงินลงทุนเริ่มต้น)
- r คือ อัตราดอกเบี้ยต่อรอบ (เป็นร้อยละและแปรงเป็นเลขทศนิยม)
- n คือ จำนวนครั้งที่ดอกเบี้ยเรียกเก็บต่อปี
- t คือ ระยะเวลา (ปี) ที่ลงทุนหรือกู้ยืมเงิน
สูตรนี้ใช้สำหรับการลงทุนหรือการกู้ยืมเงินที่ดอกเบี้ยเรียกเก็บทุกครั้งที่ผ่านไป โดยแบ่งรอบออกเป็น n รอบต่อปี เช่น หากดอกเบี้ยเรียกเก็บทุกปี ค่า n จะเท่ากับ 1 และถ้าดอกเบี้ยเรียกเก็บทุกสามเดือน ค่า n จะเท่ากับ 4 (ครั้งต่อไปในแต่ละไตรมาส).
ตัวอย่าง: หากคุณลงทุนเงินต้น 1,000 บาทในบัญชีธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี (r = 0.05) และธนาคารเรียกเก็บดอกเบี้ยทุกเดือน (n = 12) จะได้ยอดสิ้นสุดหลังจาก 1 ปี (t = 1) ดังนี้:
A = 1,000(1 + 0.05/12)^(12*1)
A ≈ 1,051.16 บาท
ดังนั้น ยอดสิ้นสุดหลังจาก 1 ปีจะเป็นประมาณ 1,051.16 บาท ซึ่งมากกว่าเงินต้นที่ลงทุนเริ่มต้นคือ 1,000 บาท.
สูตรนี้เป็นวิธีการคำนวณยอดสิ้นสุดในกรณีดอกเบี้ยเรียกเก็บแบบดอกเบี้ยเรียกเก็บทวีคูณ ซึ่งถูกนำไปใช้ในการวางแผนการลงทุนและการกู้ยืมเงินเพื่อปรับปรุงสถานะการเงินในระยะยาว
ค่าเสื่อมราคาวิธียอดลดลงทวีคูณ
การคำนวณค่าเสื่อมราคาวิธียอดลดลงทวีคูณ (Diminishing Balance Method) เป็นวิธีการคำนวณค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินที่ลดลงทุนลงทุนตามระยะเวลา วิธีนี้ใช้ง่ายและเป็นที่นิยมในการบัญชีและการเงิน.
สูตรการคำนวณค่าเสื่อมราคาวิธียอดลดลงทวีคูณคือ:
ค่าเสื่อมราคา=(ราคาซื้อ−มูลค่าสิ่งที่คงเหลือ)/ระยะเวลาการใช้งาน
โดยที่:
- ราคาซื้อ (Cost): คือ ราคาที่คุณจ่ายเมื่อซื้อทรัพย์สินหรือสิ่งของ
- มูลค่าสิ่งที่คงเหลือ (Salvage Value): คือ มูลค่าที่คุณคาดหวังจะขายได้จากทรัพย์สินหรือสิ่งของหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการใช้งาน
- ระยะเวลาการใช้งาน (Useful Life): คือ ระยะเวลาที่คุณคาดหวังทรัพย์สินหรือสิ่งของจะถูกใช้งาน
ตัวอย่าง: คุณซื้อรถยนต์ใหม่ราคา 500,000 บาทและคาดหวังจะขายรถนี้ได้ในราคา 100,000 บาทหลังจากใช้งาน 5 ปี การคำนวณค่าเสื่อมราคาวิธียอดลดลงทวีคูณคือ:
ค่าเสื่อมราคา=(500,000−100,000)/5=80,000บาทต่อปี
ดังนั้น ค่าเสื่อมราคาที่คุณต้องบันทึกในบัญชีสำหรับรถยนต์ในปีแรกคือ 80,000 บาท และจะลดลงทุนลงทุนตามจำนวนปีที่ผ่านไป.
วิธีนี้มีข้อดีคือค่าเสื่อมราคาลดลงทุนลงทุนตามจำนวนปีที่ผ่านไป ซึ่งสอดคล้องกับความเสื่อมราคาจริงของสิ่งที่คุณลงทุน แต่ก็สามารถใช้ในการประเมินมูลค่าสิ่งที่คงเหลือในแต่ละปีได้อย่างถูกต้อง.