แผนธุรกิจของที่ระลึก
การเริ่มต้นธุรกิจธุรกิจของที่ระลึกเป็นกระบวนการที่ต้องการการวางแผนและการดำเนินการอย่างรอบคอบ ดังนั้นนี่คือขั้นตอนเบื้องต้นในการเริ่มต้นธุรกิจของที่ระลึก
- วางแผนธุรกิจ (Business Planning)
- สำรวจและวางแผนธุรกิจของคุณโดยรอบ. ระบุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของธุรกิจของคุณ, ตลาดเป้าหมาย, ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณจะขาย, การจัดการการเงิน, และแผนการเสริมการขาย.
- ศึกษาตลาด (Market Research)
- ศึกษาตลาดและคำนวณความต้องการของลูกค้า. หาข้อมูลเกี่ยวกับคู่แข่งขัน, ตลาดเป้าหมาย, และโอกาสทางธุรกิจ.
- การวางแผนการเงิน (Financial Planning)
- วางแผนการเงินของคุณโดยรวบรวมค่าใช้จ่ายเริ่มต้น ทุนทรัพย์สินทุนต้นแบบ, รายรับและกำไรที่คาดหวัง, และระยะเวลาที่คาดว่าจะใช้ในการคืนทุนทรัพย์.
- จดทะเบียนธุรกิจ (Business Registration)
- จดทะเบียนธุรกิจของคุณในหน่วยงานที่รับผิดชอบ และเรียกรับหมายเลขประจำตัวธุรกิจ (Business Identification Number) หากเป็นที่จำเป็น.
- เลือกโครงสร้างธุรกิจ (Choose Business Structure)
- เลือกโครงสร้างธุรกิจที่เหมาะกับคุณ เช่น บริษัทจำกัด, บริษัทห้างหุ้นส่วน, หรือธุรกิจร่วมทุน.
- ข้อมูลทางกฎหมาย (Legal Requirements)
- รับคำแนะนำจากทนายความเกี่ยวกับข้อกำหนดทางกฎหมายสำหรับธุรกิจของคุณ เช่น สัญญาการจ้างงาน, การลงทะเบียนทางภาษี, และอื่น ๆ.
- คำนวณการเงิน (Financial Calculations)
- คำนวณค่าใช้จ่ายและราคาสินค้าหรือบริการของคุณให้แน่ใจว่าคุณสามารถรอดรับกำไรในระยะยาว.
- การเลือกสถานที่ (Location Selection)
- เลือกสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ ซึ่งต้องตรงกับกำหนดการขายและการบริการของคุณ.
- การตรวจสอบข้อมูลทางธุรกิจ (Business Checking)
- เปิดบัญชีธนาคารธุรกิจแยกจากบัญชีส่วนบุคคลของคุณเพื่อการบริหารจัดการการเงินของธุรกิจ.
- การตลาดและโฆษณา (Marketing and Advertising)
- สร้างแผนการตลาดและโฆษณาเพื่อเพิ่มความรู้สึกในตลาดและสร้างลูกค้า.
- การรับสิ่งมอบต่อ (Sourcing Supplies)
- หาแหล่งที่มาของวัสดุและสินค้าที่คุณต้องการในธุรกิจของคุณ.
- การจ้างงาน (Hiring)
- หากคุณต้องการพนักงาน สรรหาและเลือกบุคคลที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ.
- การเปิดร้านและบริการ (Opening and Operations)
- เริ่มต้นการให้บริการหรือการผลิตตามแผนธุรกิจของคุณและบริหารการดำเนินงานของธุรกิจให้เป็นไปตามแผน.
- การติดต่อกับลูกค้า (Customer Engagement)
- สร้างความสัมพันธ์ด้วยลูกค้าและติดต่อกับพวกเขาเพื่อรับข้อเสนอแนะและข้อมูลจากพวกเขา.
- ตรวจสอบและปรับปรุง (Review and Adapt)
- ตรวจสอบผลลัพธ์ของธุรกิจของคุณอย่างสม่ำเสมอและปรับแผนการทำงานของคุณตามความจำเป็น.
- การเริ่มขึ้นต้นด้วยน้ำหนึ่ง (Start Small)
- หากเป็นเรื่องใหม่สำหรับคุณ คิดให้เริ่มต้นเล็ก ๆ และขยายธุรกิจของคุณเมื่อคุณมีความเชื่อมั่นและความเสถียร.
การเริ่มต้นธุรกิจธุรกิจของที่ระลึกเป็นแผนการรายละเอียดและค่อย ๆ สร้างความเข้าใจและปรับปรุงเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง หากคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม คุณอาจค้นหาคำแนะนำจากองค์กรสนับสนุนธุรกิจเล็ก ๆ ในพื้นที่ของคุณหรือปรึกษากับที่ปรึกษาทางธุรกิจเพื่อรับคำแนะนำและคำปรึกษาที่เป็นประโยชน์ในการเริ่มต้นธุรกิจของคุณ
ตารางรายรับรายจ่าย ตัวอย่างบัญชี ธุรกิจของที่ระลึก
ขอแสดงตัวอย่างรายรับและรายจ่ายของธุรกิจของที่ระลึกในรูปแบบของ comparison table ดังนี้
รายการ | รายรับ (บาท) | รายจ่าย (บาท) |
---|---|---|
การขายสินค้า | 50,000 | 20,000 |
บริการค่าสินเชื่อ | 10,000 | 5,000 |
การลงโฆษณา | 5,000 | 2,000 |
ค่าเช่าสถานที่ | 8,000 | 8,000 |
ค่าจ้างพนักงาน | 15,000 | 15,000 |
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ | 2,000 | 1,000 |
รวมรายรับ | 70,000 | |
รวมรายจ่าย | 51,000 | |
กำไรสุทธิ | 19,000 |
ในตัวอย่างนี้, รายรับและรายจ่ายของธุรกิจของที่ระลึกถูกแสดงในรูปแบบของตารางเปรียบเทียบ โดยรายรับแต่ละรายการถูกแสดงอยู่ในคอลัมน์ที่สอง และรายจ่ายแต่ละรายการถูกแสดงอยู่ในคอลัมน์ที่สาม ในส่วนท้ายของตาราง, รวมรายรับและรายจ่ายถูกแสดงเพื่อคำนวณกำไรสุทธิของธุรกิจของที่ระลึก ในตัวอย่างนี้, กำไรสุทธิคือ 19,000 บาท ซึ่งคือผลต่างระหว่างรายรับรวมและรายจ่ายรวมของธุรกิจนี้ในช่วงเวลาที่ระบุไว้ในตาราง.
อาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจของที่ระลึก
การวิเคราะห์ SWOT (Strengths, Weaknesses, Opportunities, Threats) เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถทราบเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นข้อดีและข้อเสียของธุรกิจของที่ระลึก รวมถึงโอกาสและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ดังนี้
Strengths (ข้อแข็งของธุรกิจของที่ระลึก)
- การผลิตที่มีคุณภาพสูง ที่ระลึกมีความสามารถในการผลิตสินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพสูง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด.
- ยี่ห้อและสิทธิบัตรทางการค้า ที่ระลึกอาจมียี่ห้อและสิทธิบัตรทางการค้าที่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าและป้องกันการลองแกล้งจากคู่แข่ง.
- การตลาดแบบหลากหลาย ที่ระลึกอาจมีหลากหลายสินค้าหรือบริการที่มีตลาดกว้างขวางและหลายกลุ่มเป้าหมาย.
- การบริการลูกค้าที่ดี ที่ระลึกอาจมีการบริการลูกค้าที่ดีและมีความพร้อมที่จะรับฟังความคิดเสนอแนะจากลูกค้า.
Weaknesses (ข้ออ่อนของธุรกิจของที่ระลึก)
- ระบบการจัดการแย่ ขาดระบบการจัดการที่เหมาะสมอาจทำให้การดำเนินธุรกิจของที่ระลึกเป็นไปอย่างไม่ราบรื่น.
- ข้อจำกัดทางการเงิน การมีทุนจำกัดอาจทำให้ยากในการลงทุนในการสร้างสินค้าหรือบริการใหม่.
- การตลาดไม่เพียงพอ ที่ระลึกอาจมีข้อจำกัดในการตลาดหรือการโฆษณาที่ไม่เพียงพอเพื่อเติบโต.
Opportunities (โอกาสสำหรับธุรกิจของที่ระลึก)
- ตลาดขยายอย่างรวดเร็ว มีโอกาสในการขยายธุรกิจของที่ระลึกไปยังตลาดใหม่หรือรวดเร็วเนื่องจากความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้น.
- นวัตกรรมใหม่ โอกาสในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ที่สามารถเสริมสร้างรายได้และดึงดูดลูกค้าใหม่.
- การขยายธุรกิจออนไลน์ การเติบโตในโลกออนไลน์และการขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นโอกาสที่สำคัญในยุคปัจจุบัน.
Threats (อุปสรรคสำหรับธุรกิจของที่ระลึก)
- การแข่งขันรุนแรง มีคู่แข่งที่มีความแข็งแกร่งอาจทำให้มีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น.
- เปลี่ยนแปลงในกฎหมายและระเบียบ เปลี่ยนแปลงในกฎหมายทางธุรกิจหรือระเบียบการแข่งขันอาจมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ.
- ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการการเงินของที่ระลึก.
การวิเคราะห์ SWOT ช่วยให้ธุรกิจของที่ระลึกเข้าใจแนวทางที่ดีที่สุดในการนำเสนอและแก้ไขปัญหา โดยการใช้ข้อแข็งของธุรกิจในการนำเสนอโอกาสและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต.
วิเคราะห์ SWOT ธุรกิจของที่ระลึก
การวิเคราะห์ SWOT (Strengths, Weaknesses, Opportunities, Threats) เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถทราบเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นข้อดีและข้อเสียของธุรกิจของที่ระลึก รวมถึงโอกาสและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ดังนี้
Strengths (ข้อแข็งของธุรกิจของที่ระลึก)
- การผลิตที่มีคุณภาพสูง ที่ระลึกมีความสามารถในการผลิตสินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพสูง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด.
- ยี่ห้อและสิทธิบัตรทางการค้า ที่ระลึกอาจมียี่ห้อและสิทธิบัตรทางการค้าที่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าและป้องกันการลองแกล้งจากคู่แข่ง.
- การตลาดแบบหลากหลาย ที่ระลึกอาจมีหลากหลายสินค้าหรือบริการที่มีตลาดกว้างขวางและหลายกลุ่มเป้าหมาย.
- การบริการลูกค้าที่ดี ที่ระลึกอาจมีการบริการลูกค้าที่ดีและมีความพร้อมที่จะรับฟังความคิดเสนอแนะจากลูกค้า.
Weaknesses (ข้ออ่อนของธุรกิจของที่ระลึก)
- ระบบการจัดการแย่ ขาดระบบการจัดการที่เหมาะสมอาจทำให้การดำเนินธุรกิจของที่ระลึกเป็นไปอย่างไม่ราบรื่น.
- ข้อจำกัดทางการเงิน การมีทุนจำกัดอาจทำให้ยากในการลงทุนในการสร้างสินค้าหรือบริการใหม่.
- การตลาดไม่เพียงพอ ที่ระลึกอาจมีข้อจำกัดในการตลาดหรือการโฆษณาที่ไม่เพียงพอเพื่อเติบโต.
Opportunities (โอกาสสำหรับธุรกิจของที่ระลึก)
- ตลาดขยายอย่างรวดเร็ว มีโอกาสในการขยายธุรกิจของที่ระลึกไปยังตลาดใหม่หรือรวดเร็วเนื่องจากความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้น.
- นวัตกรรมใหม่ โอกาสในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ที่สามารถเสริมสร้างรายได้และดึงดูดลูกค้าใหม่.
- การขยายธุรกิจออนไลน์ การเติบโตในโลกออนไลน์และการขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นโอกาสที่สำคัญในยุคปัจจุบัน.
Threats (อุปสรรคสำหรับธุรกิจของที่ระลึก)
- การแข่งขันรุนแรง มีคู่แข่งที่มีความแข็งแกร่งอาจทำให้มีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น.
- เปลี่ยนแปลงในกฎหมายและระเบียบ เปลี่ยนแปลงในกฎหมายทางธุรกิจหรือระเบียบการแข่งขันอาจมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ.
- ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการการเงินของที่ระลึก.
การวิเคราะห์ SWOT ช่วยให้ธุรกิจของที่ระลึกเข้าใจแนวทางที่ดีที่สุดในการนำเสนอและแก้ไขปัญหา โดยการใช้ข้อแข็งของธุรกิจในการนำเสนอโอกาสและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต.
คําศัพท์พื้นฐาน ธุรกิจของที่ระลึก ที่ควรรู้
- บริษัท (Company) – องค์กรหรือธุรกิจที่มีการลงทุนและดำเนินกิจการเพื่อผลกำไรหรือการดำเนินธุรกิจอื่น ๆ ในแวดวงที่ระลึก.
- สินค้า (Product) – สิ่งของหรือบริการที่ธุรกิจของที่ระลึกผลิตหรือให้บริการให้กับลูกค้า.
- ตลาด (Market) – กลุ่มคนหรือองค์กรที่มีความต้องการและความสนใจในสินค้าหรือบริการของที่ระลึก.
- การตลาด (Marketing) – กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณาและการสร้างความตระหนักให้กับสินค้าหรือบริการของที่ระลึกให้แก่ลูกค้า.
- กำไร (Profit) – จำนวนเงินที่รายได้รวมลบด้วยรายจ่ายรวมของธุรกิจของที่ระลึก.
- การบริหาร (Management) – กระบวนการในการดำเนินธุรกิจของที่ระลึก รวมถึงการบริหารทรัพยากรและการตัดสินใจ.
- การเจริญเติบโต (Growth) – การขยายธุรกิจของที่ระลึกในมิติต่าง ๆ เช่น การเพิ่มยอดขาย, การขยายตลาด, หรือการเข้าสู่ตลาดใหม่.
- การย่อยขาย (Retail) – การขายสินค้าหรือบริการโดยตรงแก่ลูกค้าที่สุดของธุรกิจ, โดยปกติจะเป็นการขายส่วนต่อประชาชน.
- ความยั่งยืน (Sustainability) – ความพยายามในการดำเนินธุรกิจของที่ระลึกโดยให้ความสำคัญกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสังคม.
- การอยู่รอด (Survival) – ความสามารถในการรักษาการดำเนินธุรกิจของที่ระลึกให้ยังคงดำเนินไปได้ในระยะยาวโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีการแข่งขันรุนแรงหรือปัญหาทางธุรกิจ.
คำศัพท์เหล่านี้เป็นพื้นฐานและเป็นสำคัญสำหรับการเข้าใจและดำเนินธุรกิจของที่ระลึกอย่างเหมาะสมในตลาดและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง.
ธุรกิจ ของที่ระลึก ต้อง จดทะเบียนบริษัท หรือไม่
การจดทะเบียนธุรกิจของที่ระลึกต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดที่แตกต่างไปในแต่ละประเทศและพื้นที่ การจดทะเบียนขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจและที่ตั้งของธุรกิจนั้น ๆ ดังนั้น ข้อมูลด้านล่างนี้เป็นแนวทางทั่วไปและอาจต้องปรับเปลี่ยนตามกฎหมายและระเบียบของสถานที่ที่ธุรกิจของที่ระลึกตั้งอยู่
- การจดทะเบียนธุรกิจ ธุรกิจของที่ระลึกจำเป็นต้องจดทะเบียนเป็นธุรกิจในประเทศหรือพื้นที่ที่มีการดำเนินธุรกิจ การจดทะเบียนนี้จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดที่กำหนดโดยหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง เช่น การจดทะเบียนบริษัทหรือธุรกิจทางการค้า.
- การรับอนุญาตและสิทธิ์การใช้เครื่องหมายการค้า หากธุรกิจของที่ระลึกมีเครื่องหมายการค้าหรือลิขสิทธิ์ทางการค้า, ควรทำการลงทะเบียนเครื่องหมายการค้าและได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายนั้นตามกฎหมายท้องถิ่น.
- สิทธิบัตรทางการค้า ถ้าธุรกิจของที่ระลึกมีการประดิษฐ์หรือนวัตกรรมใหม่ที่มีคุณค่าทางธุรกิจ, การขอสิทธิบัตรทางการค้า (Patent) เพื่อป้องกันคนอื่นไม่ให้ทำซ้ำนั้นอาจเป็นสิ่งสำคัญ.
- การจดทะเบียนธุรกิจออนไลน์ หากธุรกิจของที่ระลึกมีการตลาดหรือขายสินค้าออนไลน์, ควรพิจารณาการจดทะเบียนโดเมนเนม (Domain Name) และป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ทางอินเทอร์เน็ต.
- การจดทะเบียนธุรกิจที่เป็นธุรกิจควบคุม หากธุรกิจของที่ระลึกมีความเกี่ยวข้องกับการควบคุมในสาขาหรือกลุ่มธุรกิจที่เป็นวิชาชีพควบคุม เช่น การเดินทาง, การแพทย์, การศึกษา, ควรจดทะเบียนและปฏิบัติตามกฎหมายของหน่วยงานที่รับผิดชอบ.
- การรับอนุญาตและสิทธิ์ทางระบบควบคุมการสัมผัสทางอากาศ หากธุรกิจของที่ระลึกเกี่ยวข้องกับการใช้ทางอากาศ (เช่น การใช้เครื่องบินส่วนตัว) ควรปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและรับอนุญาตตามกฎหมายการบิน.
- การจดทะเบียนสถานประกอบการ หากธุรกิจของที่ระลึกต้องการสถานที่ทำงานหรือสำนักงาน ควรจดทะเบียนสถานประกอบการในสถานที่ที่เหมาะสมตามกฎหมายท้องถิ่น.
- การรับอนุญาตอาคาร หากคุณก่อสร้างหรือเปลี่ยนแปลงอาคารสำหรับธุรกิจของที่ระลึก, คุณอาจต้องขออนุญาตให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบอาคารและสิ่งแวดล้อม.
- ภาษีธุรกิจ คุณต้องทำการลงทะเบียนเพื่อชำระภาษีธุรกิจในประเทศหรือพื้นที่ที่คุณดำเนินธุรกิจ.
- การปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน คุณต้องปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การจ้างงาน, การจ่ายค่าจ้าง, และการรักษาเงื่อนไขที่ดีต่อพนักงาน.
คำแนะนำที่ดีคือ ให้ติดต่อหน่วยงานรัฐบาลหรือนักทนายที่เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายธุรกิจเพื่อขอคำปรึกษาและแนวทางการจดทะเบียนที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของที่ระลึกของคุณในสถานที่ที่คุณต้องการดำเนินกิจการ.
บริษัท ธุรกิจของที่ระลึก เสียภาษีอย่างไร
ธุรกิจของที่ระลึกจะต้องชำระภาษีและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามกฎหมายและข้อบังคับของแต่ละประเทศหรือพื้นที่ที่ธุรกิจนั้นดำเนินกิจการ ภาษีและค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจและสถานที่ที่ธุรกิจนั้นตั้งอยู่ นี่คือภาษีและค่าใช้จ่ายที่อาจเกี่ยวข้องกับธุรกิจของที่ระลึก
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax) หากธุรกิจของที่ระลึกเป็นธุรกิจรูปแบบรายรับรายจ่าย (sole proprietorship) หรือบริษัทที่เป็นบุคคลธรรมดา, เจ้าของธุรกิจจะต้องรับผิดชอบชำระภาษีเงินได้ส่วนบุคคลจากกำไรที่ได้จากธุรกิจนั้น.
- ภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax) หากธุรกิจของที่ระลึกเป็นบริษัทหรือนิติบุคคล, บริษัทจะต้องชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรที่ได้จากธุรกิจ.
- ภาษีขาย (Sales Tax or Value Added Tax – VAT) ภาษีขายคิดจากมูลค่าเพิ่มของสินค้าหรือบริการที่ธุรกิจขายให้แก่ลูกค้า ต้องสมัครรับรหัสภาษีขายและแสดงการเรียกเก็บภาษีในใบกำกับภาษี.
- ภาษีธุรกิจ (Business Tax) บางประเทศมีภาษีธุรกิจสำหรับธุรกิจที่กำไรต่ำหรือมีการจดทะเบียนเป็นรายเฉพาะกิจการ.
- ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (Property Tax) หากธุรกิจของที่ระลึกเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ เช่น สำนักงานหรือโรงงาน จะต้องชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง.
- ภาษีสิ่งแวดล้อม (Environmental Tax) ธุรกิจที่ส่งออกหรือผลิตสินค้าหรือบริการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอาจต้องชำระภาษีสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายท้องถิ่น.
- ค่าใช้จ่ายสำหรับการขออนุญาตและใบอนุญาต (License and Permit Fees) ธุรกิจอาจต้องจ่ายค่าใช้จ่ายสำหรับการขออนุญาตหรือใบอนุญาตตามกฎหมายท้องถิ่น.
- การส่งเสริมและค่าประกันสังคม (Social Security and Benefits) ธุรกิจอาจต้องจ่ายค่าประกันสังคมและสวัสดิการสำหรับพนักงานตามกฎหมายแรงงาน.
- ภาษีอื่น ๆ (Other Taxes) ภาษีและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อาจจะเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบท้องถิ่น เช่น ภาษีทางกำลังคน, ภาษีศุลกากร, ภาษีสรรพสามิต, ภาษีรถยนต์, ภาษีส่วนบุคคล, ภาษีมูลค่าเพิ่มบริการอื่น ๆ และอื่น ๆ.
การชำระภาษีและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับกฎหมายและข้อบังคับของสถานที่ที่ธุรกิจของที่ระลึกตั้งอยู่ ควรปรึกษานักทนายหรือที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อตรวจสอบข้อกำหนดและค่าใช้จ่ายที่เป็นที่ต้องการสำหรับธุรกิจของคุณในสถานที่นั้น.