รับทำบัญชี.COM | Interior บริษัทตกแต่งภายในหัก ณ ที่จ่ายกี่%

แผนธุรกิจ interior

การเริ่มต้นธุรกิจด้านออกแบบภายใน (Interior Design Business) มีขั้นตอนหลายขั้นตอนที่ควรพิจารณาให้ดีก่อนที่คุณจะเริ่มธุรกิจของคุณ ตราบใดที่คุณปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างถูกต้องและตระหนักถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ข้างล่างนี้คือขั้นตอนเบื้องต้นในการเริ่มต้นธุรกิจออกแบบภายใน

  1. วางแผนธุรกิจ (Business Planning)
    • กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายของธุรกิจคุณ
    • วางแผนธุรกิจที่รวมถึงการจัดการงบประมาณ, ราคาบริการ, และกำหนดระยะเวลาในการเริ่มต้นและการเติบโตของธุรกิจ
  2. ศึกษาตลาด (Market Research)
    • ศึกษาตลาดในพื้นที่ที่คุณต้องการทำธุรกิจ เข้าใจความต้องการของลูกค้าและคู่แข่งในตลาด
    • สำรวจโอกาสและความสามารถในการทำธุรกิจในพื้นที่นั้น
  3. สร้างแผนการตลาด (Marketing Plan)
    • สร้างแผนการตลาดเพื่อสร้างความรู้สึกและโปรโมตบริการของคุณให้กับลูกค้าเป้าหมาย
    • เลือกช่องทางการตลาดที่เหมาะสม เช่น เว็บไซต์, สื่อสังคมออนไลน์, การแสดงสินค้า, หรือการโฆษณาในสื่อมวลชน
  4. การเลือกที่ตั้ง (Location)
    • ถ้าคุณมีสถานที่ที่คุณจะเปิดร้านหรือสำนักงานให้เหมาะสมและใกล้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
  5. การจัดการการเงิน (Financial Management)
    • กำหนดงบประมาณและการเงินสำหรับธุรกิจของคุณ
    • ตรวจสอบความเป็นไปได้ทางการเงินและการเสี่ยง
  6. ขอใบอนุญาตและการลงทะเบียน (Licensing and Registration)
    • ตรวจสอบกฎหมายและข้อกำหนดการให้บริการธุรกิจออกแบบภายในในพื้นที่ของคุณและขอใบอนุญาตหรือการลงทะเบียนตามที่จำเป็น
  7. สร้างพอร์ตโดลิโอ (Portfolio)
    • สร้างพอร์ตโดลิโอที่ประกอบด้วยผลงานออกแบบภายในที่คุณได้ทำไว้แล้ว เพื่อแสดงให้ลูกค้าเห็นความสามารถของคุณ
  8. การตรวจสอบกฎหมายและความเสี่ยง (Legal and Risk Assessment)
    • ปรึกษากับทนายความเพื่อตรวจสอบสัญญาและข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของคุณ
  9. เริ่มทำธุรกิจและการการตลาด (Launch and Marketing)
    • เริ่มทำธุรกิจและเริ่มต้นการตลาดตามแผนที่คุณได้กำหนด
    • ควบคุมงบประมาณและดูแลการเสี่ยงในระหว่างการเริ่มต้น
  10. ดูแลลูกค้า (Customer Care)
    • ดูแลลูกค้าของคุณอย่างดี ให้บริการที่ดีและตอบสนองความต้องการของลูกค้า
  11. การวางแผนการเติบโต (Growth Planning)
    • พิจารณาวางแผนการขยายธุรกิจของคุณในอนาคต โดยอาจรวมการสร้างทีมงานหรือการขยายบริการ

การเริ่มต้นธุรกิจด้านออกแบบภายในต้องการการวางแผนและการจัดการอย่างรอบด้าน คุณอาจต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจหรือคำแนะนำจากผู้ที่มีประสบการณ์เพื่อช่วยในการเริ่มต้นธุรกิจของคุณอย่างเต็มที่และประสบความสำเร็จในอนาคต

ตารางรายรับรายจ่าย ตัวอย่างบัญชี ธุรกิจinterior

ตารางเปรียบเทียบรายรับและรายจ่ายของธุรกิจ Interior Design อาจมีลักษณะที่แตกต่างกันตามขนาดและลักษณะการดำเนินธุรกิจ ดังนั้นข้อมูลที่แสดงในตารางนี้เป็นแบบอย่างเท่านั้น คุณควรปรับแต่งตารางเพิ่มเติมตามธุรกิจและสถานการณ์ของคุณ

รายรับ (บาท) รายจ่าย (บาท)
รายได้จากบริการออกแบบภายใน ค่าจ้างพนักงานและนักออกแบบ
ค่าประกันคุณภาพสินค้าหรือบริการ ค่าเช่าสำนักงานและอุปกรณ์
ค่าซื้อวัสดุและเครื่องมือ ค่าใช้จ่ายในการตลาดและโฆษณา
รายได้จากค่าคอนซัลแตนต์ ค่าอุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์สำหรับโปรเจ็กต์
ค่าประกันและค่าบริการอื่น ๆ ค่าสนับสนุนทางด้านเทคนิค
รายได้จากการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ค่าใช้จ่ายทางด้านกฎหมายและภาษี
รายได้จากการควบคุมโครงการ ค่าเดินทางและค่าพาหนะ
ค่าประกันคุณภาพและบริการหลังการขาย ค่าสำรวจและทดสอบซื้อ
รายได้จากบริการออกแบบภายในในอนาคต รายจ่ายอื่น ๆ
รายได้จากการแนะนำลูกค้า ส่วนแบ่งสำหรับพันธมิตร (หากมี)

โดยการดำเนินธุรกิจ Interior Design อาจมีความหลากหลายในรายรับและรายจ่าย ขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงการและลูกค้าของคุณ คุณควรติดตามการเงินของธุรกิจของคุณอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่ารายรับและรายจ่ายอยู่ในสมดุลและสามารถดำเนินธุรกิจไปอย่างยั่งยืนได้

อาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจinterior

ธุรกิจออกแบบภายใน (Interior Design) เป็นอาชีพที่มีความเกี่ยวข้องกับหลายสาขาและอาชีพที่ร่วมงานกันเพื่อสร้างโครงการออกแบบภายในที่ประสบความสำเร็จ นี่คืออาชีพที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ Interior Design

  1. นักออกแบบภายใน (Interior Designer) นักออกแบบภายในเป็นคนที่ออกแบบและวางแผนภายในสถานที่ พวกเขารับงานจากลูกค้าและทำงานเพื่อสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมภายในที่ตรงตามความต้องการและสไตล์ของลูกค้า
  2. นักสถาปัตยกรรม (Architect) นักสถาปัตยกรรมเป็นผู้ออกแบบและวางแผนสถาปัตยกรรมทั้งภายนอกและภายในของสถาปัตยกรรมโครงการ พวกเขาร่วมงานกับนักออกแบบภายในเพื่อให้สร้างสรรค์สภาพแวดล้อมภายนอกและภายในที่สอดคล้องกัน
  3. ผู้จัดการโครงการ (Project Manager) ผู้จัดการโครงการเป็นคนที่รับผิดชอบในการจัดการโครงการออกแบบภายในตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการสรุปโครงการ พวกเขาควบคุมงบประมาณ ติดตามความคืบหน้า และประสานงานกับทีมงาน
  4. นักดูแลโครงการ (Project Coordinator) นักดูแลโครงการรับผิดชอบในการประสานงานและควบคุมข้อมูลของโครงการออกแบบภายใน พวกเขาช่วยให้โครงการเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องและตามแผน
  5. นักเฟอร์นิเจอร์ (Furniture Designer) นักเฟอร์นิเจอร์ออกแบบและสร้างเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ในโครงการออกแบบภายใน พวกเขาต้องมีความเข้าใจในการออกแบบที่สวยงามและสามารถผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพ
  6. นักวิเคราะห์แสงและสี (Lighting and Color Analyst) นักวิเคราะห์แสงและสีทำหน้าที่แนะนำสีและแสงที่เหมาะสมสำหรับโครงการออกแบบภายใน เพื่อสร้างอารมณ์และบรรยากาศที่เหมาะสม
  7. นักจัดแสดงสินค้า (Visual Merchandiser) นักจัดแสดงสินค้าเป็นคนที่จัดการแสดงสินค้าและออกแบบหน้าร้านหรือสถานที่การค้าเพื่อดึงดูดลูกค้า
  8. นักออกแบบกราฟิก (Graphic Designer) นักออกแบบกราฟิกช่วยในการออกแบบสื่อโฆษณาและสื่อสารสำหรับโครงการออกแบบภายใน เช่น โบรชัวร์ แผ่นพับ หรือเว็บไซต์
  9. ช่างสถาปัตยกรรมภายนอก (Exterior Architect) ช่างสถาปัตยกรรมภายนอกรับผิดชอบในการออกแบบและวางแผนสถาปัตยกรรมภายนอกของสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการออกแบบภายใน
  10. นักตกแต่งภายนอก (Exterior Decorator) นักตกแต่งภายนอกเป็นคนที่ให้คำแนะนำในการตกแต่งสถาปัตยกรรมภายนอกของสถานที่เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศและสไตล์ภายใน

นอกจากนี้ยังมีอาชีพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจออกแบบภายในแบบไม่ตรงตามที่กล่าวมาข้างต้น ขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงการและความต้องการของลูกค้าของคุณที่อาจจะต้องร่วมงานเพิ่มเติมกับหลายสาขาอาชีพเหล่านี้

วิเคราะห์ SWOT ธุรกิจinterior

นี่คือ 10 คำศัพท์พื้นฐานที่เป็นที่รู้จักในธุรกิจ Interior Design พร้อมคำอธิบายเป็นภาษาไทยและอังกฤษ

  1. ออกแบบภายใน (Interior Design)
    • คำอธิบาย (ไทย) การวางแผนและสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมภายในอาคารหรือสถานที่เพื่อให้มีลักษณะที่สวยงามและสอดคล้องกับการใช้งาน
    • คำอธิบาย (อังกฤษ) The planning and creative process of enhancing the interior of a building or space to make it aesthetically pleasing and functional
  2. สเกล (Scale)
    • คำอธิบาย (ไทย) ขนาดที่ใช้ในการวางแผนและออกแบบ ซึ่งอาจแสดงเป็นสัดส่วนหรือขนาดจริงของวัสดุและเฟอร์นิเจอร์
    • คำอธิบาย (อังกฤษ) The size used in planning and designing, which can be represented as proportions or actual dimensions of materials and furniture
  3. ระเบียง (Balcony)
    • คำอธิบาย (ไทย) พื้นที่ระเบียงหรือเนื้อที่นอกอาคารที่สามารถใช้ในการพักผ่อนหรือชิลเล่น
    • คำอธิบาย (อังกฤษ) An outdoor platform or space attached to a building that can be used for relaxation or leisure
  4. มิติ (Dimension)
    • คำอธิบาย (ไทย) การวัดความยาว ความกว้าง และความสูงของวัตถุหรือพื้นที่
    • คำอธิบาย (อังกฤษ) The measurement of length, width, and height of an object or space
  5. เทคนิคการสร้างแสง (Lighting Techniques)
    • คำอธิบาย (ไทย) วิธีการใช้แสงในการสร้างอารมณ์และบรรยากาศภายในสถานที่
    • คำอธิบาย (อังกฤษ) Methods of using light to create moods and ambiance within a space
  6. เฟอร์นิเจอร์ (Furniture)
    • คำอธิบาย (ไทย) วัสดุหรือวัตถุที่ใช้ในการตกแต่งและจัดเรียงในพื้นที่ภายใน เช่น เก้าอี้ โต๊ะ หรือตู้
    • คำอธิบาย (อังกฤษ) Materials or objects used for decorating and arranging spaces, such as chairs, tables, or cabinets
  7. สไตล์ (Style)
    • คำอธิบาย (ไทย) ลักษณะหรือลักษณะรูปแบบของการออกแบบภายในที่มีคุณลักษณะเฉพาะ
    • คำอธิบาย (อังกฤษ) The characteristic or distinctive design pattern of interior design
  8. ราคาบริการ (Service Fees)
    • คำอธิบาย (ไทย) ค่าบริการที่รับจากลูกค้าสำหรับการออกแบบภายใน รวมถึงค่าจ้างนักออกแบบและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
    • คำอธิบาย (อังกฤษ) The fees charged to clients for interior design services, including designer fees and other expenses
  9. เนื้อหาสื่อ (Media Content)
    • คำอธิบาย (ไทย) วัสดุสื่อที่ใช้ในการโปรโมตและสื่อสารเกี่ยวกับโครงการออกแบบภายใน รวมถึงรูปภาพและข้อความ
    • คำอธิบาย (อังกฤษ) The media materials used for promoting and communicating about interior design projects, including images and text
  10. สถาปัตยกรรมภายนอก (Exterior Architecture)
    • คำอธิบาย (ไทย) การออกแบบและสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่เกี่ยวข้องกับภายนอกของสถานที่หรืออาคาร
    • คำอธิบาย (อังกฤษ) The design and creation of architecture related to the exterior of a location or building

คำศัพท์เหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของภาษาที่ใช้ในธุรกิจ Interior Design และจะช่วยให้คุณสื่อสารและเข้าใจงานออกแบบภายในอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

คําศัพท์พื้นฐาน ธุรกิจinterior ที่ควรรู้

ธุรกิจ Interior Design ต้องจดทะเบียนและปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดทางธุรกิจที่เป็นที่ยอมรับในสถานที่ที่คุณกำลังดำเนินธุรกิจ ตราบเท่าที่ระบบทางกฎหมายและภาษีของประเทศของคุณกำหนด นี่คือรายการหลายอย่างที่คุณควรพิจารณาในการจดทะเบียนและปฏิบัติตาม

  1. การจดทะเบียนธุรกิจ (Business Registration) คุณจะต้องจดทะเบียนธุรกิจในรูปแบบที่เหมาะสมในประเทศของคุณ เช่น บริษัท หรือร้านค้า
  2. การรับอนุญาต (Licensing) บางประเทศหรือรัฐบาลท้องถิ่นอาจกำหนดการรับอนุญาตสำหรับธุรกิจ Interior Design เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีความสอดคล้องกับกฎหมายและมีความรับผิดชอบในการปฏิบัติอาชีพนี้
  3. ภาษีเงินได้ (Income Tax) คุณจะต้องลงทะเบียนและชำระภาษีเงินได้ตามกฎหมายภาษีของประเทศของคุณ รวมถึงรายงานรายได้จากธุรกิจของคุณ
  4. การสร้างบัญชีรายรับรายจ่าย (Accounting) คุณควรติดตามรายรับและรายจ่ายของธุรกิจ Interior Design อย่างเป็นระบบ เพื่อการบัญชีที่ถูกต้องและการสร้างรายงานการเงินที่ครบถ้วน
  5. การประกันคุณภาพ (Quality Assurance) หากมีการรับประกันคุณภาพสินค้าหรือบริการในธุรกิจของคุณ คุณต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
  6. การรักษาความปลอดภัย (Safety Regulations) การปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัยในสถานที่ทำงานและในโครงการออกแบบภายใน
  7. การตลาดและโฆษณา (Marketing and Advertising) คุณอาจต้องรับอนุญาตหรือปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการโฆษณาและการตลาด รวมถึงการเก็บค่าบริการหรือค่าแสดงโฆษณา
  8. สิทธิบัตรและลิขสิทธิ์ (Patents and Copyrights) ถ้าคุณออกแบบสิ่งของหรือผลงานที่เป็นสิทธิบัตรหรือลิขสิทธิ์ คุณควรประยุกต์สิทธิ์เหล่านี้และปกป้องความเป็นเจ้าของของผลงานของคุณ
  9. ประกันภัย (Insurance) คุณอาจต้องมีประกันภัยธุรกิจเพื่อปกป้องตัวคุณและสินทรัพย์ธุรกิจจากความเสี่ยงต่าง ๆ
  10. ความรับผิดชอบสังคม (Social Responsibility) บางประเทศและหน่วยงานอื่น ๆ อาจต้องการการรับผิดชอบสังคมจากธุรกิจของคุณ อาจมีการสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงแนวทางทั่วไป ควรติดต่อหน่วยงานท้องถิ่นและจัดหาคำปรึกษาทางกฎหมายเพื่อให้แน่ใจว่าคุณปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดในสถานที่ที่คุณตั้งธุรกิจ Interior Design ของคุณได้อย่างถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมายที่ใช้ในพื้นที่ของคุณ

ธุรกิจ interior ต้อง จดทะเบียนบริษัท หรือไม่

การจดทะเบียนธุรกิจ Interior Design จะขึ้นอยู่กับกฎหมายและข้อกำหนดที่ใช้ในประเทศและพื้นที่ที่คุณกำลังดำเนินธุรกิจ ตราบเท่าที่ระบบทางกฎหมายและภาษีของประเทศของคุณกำหนด นี่คือรายการบางอย่างที่คุณอาจต้องจดทะเบียนและปฏิบัติตามในธุรกิจ Interior Design

  1. การจดทะเบียนธุรกิจ (Business Registration) คุณจะต้องจดทะเบียนธุรกิจในรูปแบบที่เหมาะสมในประเทศของคุณ เช่น บริษัท หรือร้านค้า
  2. การรับอนุญาต (Licensing) บางประเทศหรือรัฐบาลท้องถิ่นอาจกำหนดการรับอนุญาตสำหรับธุรกิจ Interior Design เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีความสอดคล้องกับกฎหมายและมีความรับผิดชอบในการปฏิบัติอาชีพนี้
  3. ภาษีเงินได้ (Income Tax) หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ Interior Design ในรูปแบบของบุคคลธรรมดาและได้รับรายได้จากธุรกิจนี้ เงินรายได้ที่คุณได้รับอาจต้องเสียภาษีเป็นไปตามอัตราภาษีรายได้ที่ใช้ในประเทศของคุณ
  4. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax, VAT) ในบางประเทศ บริการ Interior Design อาจถูกต้องตามกฎหมายในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งคือภาษีที่เพิ่มไว้กับราคาบริการและสินค้าที่ถูกขาย
  5. ภาษีอากรตราภาษีธุรกิจ (Business Tax) บางประเทศอาจกำหนดภาษีอากรตราภาษีธุรกิจสำหรับธุรกิจเฉพาะ ซึ่งอาจต้องเสียตามกำหนดของรัฐบาลและเมือง
  6. ภาษีสิทธิบัตร (License Tax) ในบางสถานที่ ธุรกิจ Interior Design อาจต้องเสียภาษีสิทธิบัตรเพื่อรับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจ
  7. ภาษีอาคารและที่ดิน (Property Tax) หากคุณครอบครองสถานที่ที่ใช้ในธุรกิจ Interior Design คุณอาจต้องเสียภาษีอาคารและที่ดินตามมูลค่าของสถานที่นั้น
  8. ภาษีประกันสังคม (Social Security Tax) ในบางประเทศ คุณอาจต้องชำระเงินประกันสังคมสำหรับพนักงานของคุณ
  9. ภาษีสิ่งแวดล้อม (Environmental Tax) ภาษีสิ่งแวดล้อมอาจต้องเสียหากคุณมีการประมาณค่าสิ่งแวดล้อมในการออกแบบภายในที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  10. ภาษีอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับกฎหมายและข้อกำหนดในพื้นที่ของคุณ อาจมีภาษีอื่น ๆ ที่ต้องเสียในธุรกิจ Interior Design เช่น ภาษีอากรทางธุรกิจและภาษีอื่น ๆ

ควรตรวจสอบกับหน่วยงานภาษีและคำปรึกษาทางกฎหมายเพื่อทราบข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับเกี่ยวกับการจดทะเบียนและเสียภาษีในธุรกิจ Interior Design ในพื้นที่ของคุณและปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้ในการจดทะเบียนและเสียภาษีอย่างถูกต้องและประสบความสำเร็จในธุรกิจของคุณ

บริษัท ธุรกิจinterior เสียภาษีอย่างไร

การเสียภาษีในธุรกิจ Interior Design มีความหลากหลายและขึ้นอยู่กับประเทศและพื้นที่ที่คุณดำเนินธุรกิจ นี่คือบางประเภทของภาษีที่อาจเสียในธุรกิจ Interior Design

  1. ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax) หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ Interior Design ในรูปแบบของบุคคลธรรมดาและได้รับรายได้จากธุรกิจนี้ เงินรายได้ที่คุณได้รับอาจต้องเสียภาษีเป็นไปตามอัตราภาษีรายได้ที่ใช้ในประเทศของคุณ
  2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax, VAT) ในบางประเทศ บริการ Interior Design อาจถูกต้องตามกฎหมายในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งคือภาษีที่เพิ่มไว้กับราคาบริการและสินค้าที่ถูกขาย
  3. ภาษีอากรตราภาษีธุรกิจ (Business Tax) บางประเทศอาจกำหนดภาษีอากรตราภาษีธุรกิจสำหรับธุรกิจเฉพาะ ซึ่งอาจต้องเสียตามกำหนดของรัฐบาลและเมือง
  4. ภาษีสิทธิบัตร (License Tax) ในบางสถานที่ ธุรกิจ Interior Design อาจต้องเสียภาษีสิทธิบัตรเพื่อรับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจ
  5. ภาษีอาคารและที่ดิน (Property Tax) หากคุณครอบครองสถานที่ที่ใช้ในธุรกิจ Interior Design คุณอาจต้องเสียภาษีอาคารและที่ดินตามมูลค่าของสถานที่นั้น
  6. ภาษีประกันสังคม (Social Security Tax) ในบางประเทศ คุณอาจต้องชำระเงินประกันสังคมสำหรับพนักงานของคุณ
  7. ภาษีสิ่งแวดล้อม (Environmental Tax) ภาษีสิ่งแวดล้อมอาจต้องเสียหากคุณมีการประมาณค่าสิ่งแวดล้อมในการออกแบบภายในที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  8. ภาษีอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับกฎหมายและข้อกำหนดในพื้นที่ของคุณ อาจมีภาษีอื่น ๆ ที่ต้องเสียในธุรกิจ Interior Design เช่น ภาษีอากรทางธุรกิจและภาษีอื่น ๆ

ควรตรวจสอบกับหน่วยงานภาษีและคำปรึกษาทางกฎหมายเพื่อทราบข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับเกี่ยวกับการเสียภาษีในธุรกิจ Interior Design ในพื้นที่ของคุณและปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้ในการจดทะเบียนและเสียภาษีอย่างถูกต้องและประสบความสำเร็จในธุรกิจของคุณ

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )