สูตรการหาดอกเบี้ยทบต้น
ดอกเบี้ยทบต้น สมมุติเอาเงิน 100 บาทไปฝากแบงค์ ดอกเบี้ย 7% ผ่านไป 1 ปี เงินจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 x 1.07 = 107 บาท
ผ่านไปอีก 1 ปี เงินจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 x 1.07 x 1.07 = 114.49 บาท
ผ่านไปอีก 1 ปี เงินจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 x 1.07 x 1.07 x 1.07 = 122.50 บาท
พูดสั้น ๆ ว่า ผ่านไปกี่ปี ก็เอา 1.07 คูณเข้าไปเท่านั้นครั้ง
ดังนั้น เงินต้น 2000 บาท ฝากเงินไว้ 5 ปีจะเพิ่มเป็นเท่าไร
คำตอบคือ 2000 x 1.07 x 1.07 x 1.07 x 1.07 x 1.07 = 2805.10 บาท หรือเ ท่ากับ 2000 x (1.07)5 ตรงกับ สูตรดอกเบี้ยทบต้น คือ
“ดอกเบี้ยทบต้น” (Compound Interest) เป็นรูปแบบของดอกเบี้ยที่คิดคำนวณจากยอดเงินต้นเริ่มต้นและดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ก่อนหน้า ซึ่งเมื่อดอกเบี้ยถูกเทียบกับยอดเงินต้นในแต่ละรอบ จะทำให้ยอดเงินต้นเพิ่มมากขึ้นทุกครั้งที่ดอกเบี้ยถูกเทียบกับมัน รูปแบบนี้ทำให้เงินเติบโตอย่างรวดเร็วขึ้นตามระยะเวลาที่ผ่านไป.
สูตรการคำนวณดอกเบี้ยทบต้นคือ:
โดยที่:
- A คือ ยอดสิ้นสุดหลังจากการลงทุน (หรือยอดหนี้หลังจากการกู้ยืม)
- P คือ เงินต้น (จำนวนเงินหรือเงินลงทุนเริ่มต้น)
- r คือ อัตราดอกเบี้ยต่อรอบ (เป็นร้อยละและแปรงเป็นเลขทศนิยม)
- n คือ จำนวนครั้งที่ดอกเบี้ยเรียกเก็บต่อปี
- t คือ ระยะเวลา (ปี) ที่ลงทุนหรือกู้ยืมเงิน
สูตรนี้ใช้สำหรับการคำนวณดอกเบี้ยทบต้นในระยะเวลาหลาย ๆ รอบ โดยการเทียบดอกเบี้ยกับยอดเงินต้นในแต่ละรอบ ซึ่งทำให้เงินเติบโตเร็วขึ้นเมื่อมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยต่อไป.
ตัวอย่าง: หากคุณลงทุนเงินต้น 1,000 บาทในบัญชีธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี (r = 0.05) และธนาคารเรียกเก็บดอกเบี้ยทุกเดือน (n = 12) และลงทุนเป็นระยะเวลา 1 ปี (t = 1) คำนวณดอกเบี้ยทบต้นจะได้:
ดังนั้น ยอดสิ้นสุดหลังจาก 1 ปีจะเป็นประมาณ 1,051.16 บาท ซึ่งมากกว่าเงินต้นที่ลงทุนเริ่มต้นคือ 1,000 บาท.
เครื่องคำนวณดอกเบี้ยทบต้น
สูตรการคำนวณ: A = P(1 + r/n)nt
โดยที่:
- A = มูลค่ารวมเมื่อสิ้นสุดการลงทุน
- P = เงินต้น (จำนวนเงินเริ่มต้นที่ลงทุน)
- r = อัตราดอกเบี้ยต่อปี (เป็นทศนิยม เช่น 5% = 0.05)
- n = จำนวนครั้งที่ดอกเบี้ยทบต้นต่อปี
- t = จำนวนปีที่ลงทุน