ต้นทุนการผลิตสินค้า

ส่วนประกอบต้นทุนการผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ 9 ค่าใช้จ่ายขาย?

ส่วนประกอบของ ต้นทุนที่ใช้ในการผลิตสินค้า หรือผลิตภัณฑ์

ต้นทุนการผลิตสินค้า

ต้นทุนการผลิตสินค้า (Cost of Goods Manufactured, COGM) เป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตสินค้าในรอบการผลิตที่กำหนด เพื่อให้สินค้าพร้อมขาย ค่าใช้จ่ายนี้มีบทบาทสำคัญในการคำนวณต้นทุนของสินค้าที่จะนำไปขาย

ส่วนประกอบของต้นทุน

ส่วนประกอบของต้นทุน ที่ใช้ในการผลิตสินค้า หรือผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด จะประกอบด้วยวัตถุดิบทางตรง ค่าแรงงานทางตรง และค่าใช้จ่ายการผลิต ซึ่งถ้าเราพิจารณาในด้านทรัพยากรที่เป็นส่วนประกอบของสินค้าแล้ว จะประกอบไปด้วย วัตถุดิบ วัตถุดิบถือว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับการผลิตสินค้า

ต้นทุนที่เกี่ยวกับการใช้วัตถุดิบ

ต้นทุนที่เกี่ยวกับการใช้วัตถุดิบในการผลิตสินค้า สามารถแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ

วัตถุดิบทางตรง หมายถึง วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิต และสามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าใช้ในการผลิตสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่งในปริมาณและต้นทุนเท่าใด รวมทั้งจัดเป็นวัตถุดิบส่วนใหญ่ที่ใช้ในการผลิตสินค้าชนิดนั้นๆ

วัตถุดิบทางอ้อม หมายถึง วัตถุดิบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยทางอ้อมกับการผลิตสินค้า แต่ไม่ใช่วัตถุดิบหลักหรือวัตถุดิบส่วนใหญ่ ค่าแรงงาน

  1. ค่าแรงงาน คือ ค่าจ้างหรือผลตอบแทนที่จ่ายให้แก่ลูกจ้างหรือคนงานที่ทำหน้าที่ในการผลิตสินค้า ซึ่งค่าแรงนั้นสามารถแบ่งได้ 2 ชนิด ดังนี้
    ค่าแรงงานทางตรง คือ ค่าแรงงานต่างๆ ที่จ่ายให้แก่คนงานหรือลูกจ้างที่ทำหน้าที่ในการผลิตสินค้าสำเร็จรูปโดยตรง ซึ่งเป็นค่าแรงงานที่มีจำนวนมากเมื่อเทียบกับค่าแรงงานทางอ้อมในการผลิตสินค้าหน่วยหนึ่งๆ และจัดเป็นค่าแรงงานที่สำคัญในการแปรรูปวัตถุดิบให้เป็นสินค้าสำเร็จรูป ( บทความเรื่อง ค่าแรงงานทางตรง ตัวอย่างสูตร เป็นต้นทุนอะไร? )
    – ค่าแรงงานทางอ้อม หมายถึง ค่าแรงงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับค่าแรงงานทางตรงที่ใช้ในการผลิตสินค้า ค่าใช้จ่ายการผลิต ค่าใช้จ่ายการผลิต คือ แหล่งรวบรวมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าซึ่งนอกเหนือจากวัตถุดิบทางตรง ( บทความเรื่อง ค่าแรงงานทางอ้อม ความสำคัญและวิธีการจัดการค่าใช้จ่าย? )

ค่าแรงงานทางตรง เช่น

ค่าแรงงานทางตรง (Direct Labor Cost) ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการจ้างงานแรงงานที่เข้ามาโดยตรงในกระบวนการผลิตสินค้าหรือบริการ ค่าแรงงานทางตรงรวมถึงค่าจ้างแรงงานหรือค่าจ้างคนงานที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างหรือผลิตสินค้าหรือบริการ นี่คือตัวอย่างของค่าแรงงานทางตรง

  1. ค่าจ้างแรงงานผลิต ค่าจ้างคนงานที่ทำงานในกระบวนการผลิตสินค้า อาทิเช่น ค่าจ้างช่างที่ทำงานในโรงงาน ค่าจ้างคนงานผลิตสินค้า หรือค่าจ้างคนงานเพื่อประกอบส่วนประกอบของสินค้า

  2. ค่าจ้างแรงงานบริการ ค่าจ้างคนงานที่มีบทบาทสำคัญในการให้บริการ อาทิเช่น ค่าจ้างคนงานในโรงแรม ค่าจ้างคนงานที่ให้บริการลูกค้า หรือค่าจ้างคนงานในงานบริการอื่น ๆ

  3. ค่าแรงงานทางตรงสำหรับโครงการหรือโปรเจกต์ หากมีโครงการหรือโปรเจกต์เฉพาะที่ต้องจ้างแรงงานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการ ค่าจ้างแรงงานที่มีบทบาทในโครงการนี้จะถูกรวมเข้าไปในค่าแรงงานทางตรง

  4. ค่าแรงงานทางตรงในการปรับแต่งสินค้า ในกรณีที่ต้องการปรับแต่งหรือปรับปรุงสินค้าก่อนจำหน่าย ค่าจ้างคนงานที่มีบทบาทในกระบวนการนี้จะเป็นค่าแรงงานทางตรง

ค่าแรงงานทางตรงเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการผลิตหรือการให้บริการ และมักถูกคำนวณรวมเข้ากับค่าวัสดุเข้าและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพื่อหาค่าต้นทุนรวมของการผลิตหรือบริการนั้น ๆ ซึ่งจะถูกใช้ในการคำนวณกำไรหรือขาดทุนของธุรกิจ นอกจากนี้ ค่าแรงงานทางตรงยังมีบทบาทสำคัญในการวางแผนการผลิต ปรับปรุงกระบวนการ และควบคุมต้นทุนในการผลิตหรือการให้บริการ

ค่าแรงงานทางตรง เช่น

ค่าแรงงานทางอ้อม (Indirect Labor Cost) ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากแรงงานที่ไม่ได้เข้าร่วมโดยตรงในกระบวนการผลิตหรือการให้บริการ แรงงานทางอ้อมมักไม่มีบทบาทสำคัญในการสร้างหรือผลิตสินค้าหรือบริการโดยตรง แต่เป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาและบำรุงรักษาโรงงาน หรือการสนับสนุนกระบวนการให้บริการ นี่คือตัวอย่างของค่าแรงงานทางอ้อม

  1. ผู้ดูแลโรงงาน ค่าจ้างพนักงานที่มีหน้าที่ดูแลและรักษาความพร้อมใช้งานของโรงงาน รวมถึงการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษาอุปกรณ์และเครื่องจักร

  2. สำนักงานที่สนับสนุน ค่าจ้างคนงานที่ทำงานในสำนักงานหรือแผนกที่สนับสนุนกระบวนการผลิตหรือการบริการ อาทิเช่น พนักงานฝ่ายบัญชี ฝ่ายการตลาด หรือฝ่ายบุคคล

  3. ค่าจ้างพนักงานทำความสะอาดและรักษาความเรียบร้อย ค่าจ้างคนงานที่ทำงานในการทำความสะอาดโรงงาน หรือรักษาความเรียบร้อยของสถานที่ทำงาน

  4. ค่าจ้างพนักงานที่รับผิดชอบการจัดเก็บและจัดส่งสินค้า ค่าจ้างคนงานที่มีหน้าที่จัดเก็บสินค้าในคลังสินค้า และจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า

  5. ค่าจ้างพนักงานทางบริการลูกค้า ค่าจ้างคนงานที่ให้บริการลูกค้า เช่น พนักงานในฝ่ายบริการลูกค้าหรือแผนกบริการหลังการขาย

  6. ค่าจ้างคนงานในการบำรุงรักษาเครื่องจักร ค่าจ้างช่างหรือคนงานที่ทำงานในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมเครื่องจักรและอุปกรณ์

  7. ค่าจ้างพนักงานในฝ่ายควบคุมคุณภาพ ค่าจ้างคนงานที่รับผิดชอบในการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพของสินค้าหรือบริการ

ค่าแรงงานทางอ้อมมักถูกรวมเข้ากับค่าใช้จ่ายทางอ้อมอื่น ๆ เพื่อคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดในกระบวนการผลิตหรือการให้บริการ และมีบทบาทสำคัญในการควบคุมต้นทุนทั้งหมดของธุรกิจ นอกจากนี้ ค่าแรงงานทางอ้อมยังมีบทบาทในการบำรุงรักษาอุปกรณ์และโครงสร้าง การบริหารการคลังสินค้า และบริการลูกค้าโดยตรงหรือทางอ้อม

ความสำคัญของบัญชีและส่วนประกอบต้นทุนการผลิต

ความสำคัญของบัญชี

บัญชีเป็นหัวใจสำคัญของทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือองค์กรขนาดใหญ่ เพราะช่วยให้เจ้าของกิจการสามารถ ติดตามรายรับ-รายจ่าย และ บริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำบัญชีที่ถูกต้องและแม่นยำช่วยให้ธุรกิจสามารถควบคุมค่าใช้จ่าย ลดความเสี่ยงทางการเงิน และปฏิบัติตามกฎหมายภาษีได้อย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ การจัดทำบัญชีที่ดีช่วยให้ธุรกิจมีข้อมูลที่แม่นยำ เพื่อใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ ทั้งในเรื่องของการตั้งราคาสินค้า การขยายกิจการ และการขอสินเชื่อจากธนาคาร

ส่วนประกอบของต้นทุนการผลิต

ต้นทุนการผลิตแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่

  1. ต้นทุนวัตถุดิบ (Raw Material Costs)

    • เป็นต้นทุนที่เกิดจากวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า เช่น วัตถุดิบหลักและวัตถุดิบรอง
    • ตัวอย่าง: ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าใช้ผ้า กระดุม และด้ายเป็นวัตถุดิบหลัก
  2. ต้นทุนแรงงานทางตรง (Direct Labor Costs)

    • ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากแรงงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกระบวนการผลิต เช่น ค่าจ้างพนักงานผลิต
    • ตัวอย่าง: ค่าแรงช่างเย็บผ้าในโรงงานผลิตเสื้อผ้า
  3. ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิต (Manufacturing Overhead Costs)

    • ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการผลิตแต่ไม่สามารถจำแนกเป็นต้นทุนวัตถุดิบหรือแรงงานได้โดยตรง
    • ตัวอย่าง: ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าโรงงาน ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร

การจัดการต้นทุนและการทำบัญชีรายรับรายจ่าย

เพื่อให้ธุรกิจสามารถควบคุมต้นทุนและบริหารเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำบัญชีรายรับรายจ่ายรายเดือน เป็นสิ่งสำคัญ โดยสามารถศึกษา วิธีทํารายรับรายจ่าย รายเดือน เพื่อช่วยให้การจัดทำบัญชีมีระบบและง่ายขึ้น

ธุรกิจที่มีการบันทึกต้นทุนและรายรับ-รายจ่ายอย่างเป็นระบบจะสามารถบริหารเงินสดได้ดียิ่งขึ้น ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น และเพิ่มกำไรในระยะยาว

 

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?

คลิกที่ดาวเพื่อให้คะแนน!

เฉลี่ยได้กี่คะแนน 5 / 5. จำนวนโหวต: 1

ยังไม่มีคะแนนโหวต! เป็นคนแรกที่ให้คะแนนโพสต์นี้

จำนวนคอมเมนต์ของโพสต์ ID 406: 249