ฟอร์เวิดเดอร์
ฟอร์เวิดเดอร์ (Forwarder) คือบริษัทหรือบุคคลที่มีหน้าที่ในการจัดการและประสานงานในกระบวนการขนส่งสินค้าหรือส่งออก-นำเข้าสินค้าให้กับลูกค้า ฟอร์เวิดเดอร์มักเป็นผู้เชี่ยวชาญในการจัดการขนส่งสินค้าและมีความรู้และประสบการณ์ในการเรียกตัวตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีการขนส่งที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าของพวกเขา บางครั้งฟอร์เวิดเดอร์ยังสามารถรับผิดชอบในการจัดหาบริการขนส่งและการจัดการเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการส่งสินค้าของลูกค้าด้วย
ฟอร์เวิดเดอร์มักทำงานร่วมกับหลายบริษัทขนส่งและผู้ประกอบการอื่น ๆ เพื่อให้บริการที่ครอบคลุมและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในการขนส่งสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ฟอร์เวิดเดอร์มีบทบาทสำคัญในภาคธุรกิจขนส่งและการค้านานาชาติ เพราะช่วยให้การขนส่งสินค้ารายการยาวหรือข้ามแดนกับประเทศอื่น ๆ เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลูกค้าในการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในกระบวนการขนส่งสินค้าของพวกเขาได้บางครั้งด้วยเช่นกัน
ฟอร์เวิดเดอร์ กำลังขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศและการขนส่งสินค้า
การค้าระหว่างประเทศและการขนส่งสินค้าเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน มีการนำเข้าและส่งออกสินค้าไปมาอย่างต่อเนื่องระหว่างประเทศต่าง ๆ ซึ่งต้องผ่านกระบวนการที่ซับซ้อนและมีผู้เชี่ยวชาญคอยจัดการให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยและปลอดภัย ในบทความนี้เราจะได้รู้จักกับบทบาทของฟอร์เวิดเดอร์และตัวแทนขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในกระบวนการนี้
บริษัท Shipping ความสำคัญในการขนส่งทางน้ำ
บริษัท Shipping เป็นผู้เชี่ยวชาญในการขนส่งสินค้าทางน้ำ พวกเขามีเรือและท่าเรือที่เป็นส่วนสำคัญในการโหลดและขนส่งสินค้าไปยังปลายทางที่ต่างประเทศ บริษัท Shipping ทำหน้าที่ในกระบวนการการขนส่งที่ซับซ้อน เช่นการจัดการกับการจัดสินค้าให้พร้อมขนส่ง การจัดเก็บสินค้าในคลัง และการจัดการเรือและเวลาเดินทางของเรือ เพื่อให้สินค้ามาถึงปลายทางตามเวลาที่กำหนด
ตัวแทนนำเข้า (Import Agent) และตัวแทนส่งออก (Export Agent) หัวหน้าสำคัญในการเรียกเข้าและส่งออกสินค้า
ตัวแทนนำเข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญในกระบวนการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศหนึ่ง พวกเขาคอยจัดการเรื่องเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและกระบวนการทางศุลกากร เพื่อให้สินค้าผ่านขอบเขตประเทศได้โดยไม่มีปัญหา ในขณะที่ตัวแทนส่งออกคอยจัดการเรื่องเอกสารและกระบวนการส่งออกสินค้าออกจากประเทศไปยังประเทศอื่น ๆ พวกเขาเป็นที่ปรึกษาสำหรับลูกค้าในการเตรียมเอกสารและข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้ในกระบวนการส่งออก
ฟอร์เวิดเดอร์ (Forwarder) ตัวกลางในการค้าและขนส่งระหว่างประเทศ
ฟอร์เวิดเดอร์เป็นผู้เชี่ยวชาญในการจัดการและประสานงานในกระบวนการค้าและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ พวกเขามีความรู้และประสบการณ์ในการเลือกทางเดินขนส่งที่เหมาะสมสำหรับสินค้าของลูกค้า ฟอร์เวิดเดอร์มักทำงานร่วมกับบริษัท Shipping และตัวแทนขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเพื่อให้บริการที่ครอบคลุมและเรียบร้อย นอกจากนี้ พวกเขายังช่วยลูกค้าในการจัดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออก และประสานงานกับต่างประเทศในกระบวนการนี้
ในภาคธุรกิจการค้าและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ความร่วมมือระหว่างบริษัท Shipping, ตัวแทนนำเข้า, ตัวแทนส่งออก, ฟอร์เวิดเดอร์, และตัวแทนขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเป็นสำคัญอย่างมาก เพื่อให้การค้าและการขนส่งสินค้าข้ามแดนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับธุรกิจและลูกค้าของพวกเขา
ตารางรายรับรายจ่าย ตัวอย่างบัญชี ธุรกิจ ฟอร์เวิดเดอร์
การทำรายรับและรายจ่ายเป็นกระบวนการที่สำคัญในการจัดการเงินส่วนตัวหรือธุรกิจ การรับรู้ว่ารายได้มากจากไหน และรายจ่ายที่สำคัญมีอะไรบ้าง สามารถช่วยให้คุณมีการควบคุมเงินทองและวางแผนการเงินอย่างมีระบบได้ดีขึ้น
ตัวอย่างบัญชีรายรับและรายจ่ายและระบบบัญชีของธุรกิจฟอร์เวิร์ดเดอร์ (Forwarder) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ให้บริการการจัดการและการขนส่งสินค้าสำหรับลูกค้า
บัญชีรายรับ
- รายรับจากค่าบริการการจัดส่งสินค้า เป็นรายรับหลักที่ได้จากการให้บริการการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า รายรับนี้มาจากค่าบริการการจัดส่งสินค้าตามระยะทางหรือปริมาณของสินค้า
- รายรับจากค่าบริการประกันสินค้า รายรับจากการให้บริการประกันความเสี่ยงในการขนส่งสินค้า ในกรณีที่สินค้าสูญหายหรือเสียหายระหว่างการขนส่ง
- รายรับจากค่าบริการตรวจสอบและบรรจุหีบห่อ รายรับจากบริการตรวจสอบสภาพและบรรจุหีบห่อสินค้าก่อนการขนส่ง
บัญชีรายจ่าย
- ค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงาน ค่าจ้างพนักงานที่ทำงานในการจัดส่งสินค้า, การตรวจสอบสินค้า, หรือการบรรจุหีบห่อสินค้า
- ค่าใช้จ่ายในการเช่าโกดังหรือสต็อกสินค้า ค่าเช่าสถานที่ที่ใช้เก็บสินค้ารอการขนส่ง
- ค่าใช้จ่ายในการรักษาความปลอดภัยของสินค้า ค่าใช้จ่ายในการรักษาความปลอดภัยของสินค้าและการขนส่ง, รวมถึงค่าประกันสินค้า
- ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถขนส่ง ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถขนส่งเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างประสิทธิภาพและปลอดภัย
- ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ค่าเช่าสถานที่ทำงาน, ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการธุรกิจ, ค่าใช้จ่ายในการตลาดและโฆษณา, ค่าใช้จ่ายในการบริหารการเงินและบัญชี
- ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจขนส่งสินค้า เช่น ค่าใช้จ่ายในการบริการลูกค้า, ค่าใช้จ่ายในการบริการสินค้า, ค่าใช้จ่ายในการบริการสินค้า, หรือค่าใช้จ่ายในการบริการสินค้า
ระบบบัญชีจะช่วยให้คุณติดตามและบริหารการเงินในธุรกิจขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณควรใช้ซอฟต์แวร์บัญชีหรือสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญทางการบัญชีเพื่อรวบรวมข้อมูลและสร้างรายงานทางการเงินที่ต้องการสำหรับธุรกิจของคุณ
นี่คือตารางรายรับและรายจ่ายในธุรกิจฟอร์เวิร์ดเดอร์ (Forwarder) ในรูปแบบ comparison table
รายการ | รายรับ (บาท) | รายจ่าย (บาท) |
---|---|---|
รายรับจากค่าบริการจัดส่งในประเทศ | 30,000 บาท/เดือน | – |
รายรับจากค่าบริการจัดส่งต่างประเทศ | 20,000 บาท/เดือน | – |
รายรับจากค่าบริการพิเศษ (เช่น ค่าบริการด่วน) | 5,000 บาท/เดือน | – |
รายรับจากค่าคอมมิชชั่นจากพันธมิตร | 10,000 บาท/เดือน | – |
รวมรายรับ | 65,000 บาท/เดือน | – |
ค่าจ้างพนักงานการจัดส่ง | – | 25,000 บาท/เดือน |
ค่าเช่าสำนักงานและค่าเช่าโกดัง | – | 10,000 บาท/เดือน |
ค่าน้ำมันและบำรุงรักษารถรถบรรทุก | – | 7,000 บาท/เดือน |
ค่าเช่ารถบรรทุกพิเศษ | – | 5,000 บาท/เดือน |
ค่าบริการโฆษณาและการตลาด | – | 3,000 บาท/เดือน |
รวมรายจ่าย | – | 50,000 บาท/เดือน |
กำไรสุทธิ | 15,000 บาท/เดือน | – |
ในตารางนี้ รายรับและรายจ่ายของธุรกิจฟอร์เวิร์ดเดอร์ถูกแสดงเพื่อให้คุณเห็นภาพรวมที่ชัดเจนของการเปรียบเทียบระหว่างรายรับและรายจ่ายของธุรกิจนี้ ค่ากำไรสุทธิคือ 15,000 บาทต่อเดือน นั่นหมายความว่าธุรกิจนี้มีกำไรสุทธิ
การบันทึกข้อมูล การจัดเก็บใบเสร็จ และเอกสารทางบัญชี ธุรกิจฟอร์เวิดเดอร์
ธุรกิจฟอร์เวิดเดอร์ (Forwarder Business) เป็นกิจการที่มุ่งเน้นในการจัดการการขนส่งสินค้าและพัสดุของลูกค้า ธุรกิจนี้มักต้องทำการบันทึกข้อมูล การจัดเก็บใบเสร็จ และเอกสารทางบัญชีเพื่อติดตามการขนส่งและการเงินของบริษัทของคุณ ต่อไปนี้คือตัวอย่างขั้นตอนที่คุณสามารถทำได้
- บันทึกข้อมูลการขนส่ง
- บันทึกข้อมูลลูกค้าและรายละเอียดการขนส่ง
- ชื่อลูกค้าและข้อมูลติดต่อ
- วันที่รับคำสั่งขนส่ง
- สถานที่รับสินค้าและสถานที่จัดส่ง
- รายละเอียดสินค้า (ประเภท, จำนวน, น้ำหนัก, ขนาด)
- ระบุสถานะของการขนส่ง (รับสินค้า, อยู่ในระหว่างขนส่ง, ถึงสถานที่จัดส่ง)
- บันทึกข้อมูลลูกค้าและรายละเอียดการขนส่ง
- การออกใบเสร็จและใบส่งของ
- เมื่อการขนส่งเสร็จสิ้น คุณควรออกใบเสร็จให้แก่ลูกค้า ในใบเสร็จควรรวมถึงข้อมูลต่อไปนี้
- ชื่อลูกค้าและข้อมูลติดต่อ
- วันที่ออกใบเสร็จ
- รายละเอียดการขนส่ง (สินค้าที่ขนส่ง, จำนวน, ราคาต่อหน่วย)
- รวมยอดเงินที่ต้องชำระ
- รองรับการออกใบส่งของและเอกสารที่จำเป็นสำหรับการขนส่ง เช่น ใบอนุญาตการขนส่ง, ใบรับรองการส่งของ, ใบกำกับภาษี, และเอกสารทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- เมื่อการขนส่งเสร็จสิ้น คุณควรออกใบเสร็จให้แก่ลูกค้า ในใบเสร็จควรรวมถึงข้อมูลต่อไปนี้
- การจัดการทางบัญชี
- บันทึกข้อมูลการรับเงินจากลูกค้าและรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งในระบบบัญชีของคุณ
- ตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีและการบัญชีของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลและการเงิน
- ประมวลผลข้อมูลบัญชีเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการยื่นรายงานภาษีและการจัดทำงบการเงินประจำปี
การบันทึกข้อมูล การจัดเก็บใบเสร็จ และเอกสารทางบัญชีเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจฟอร์เวิดเดอร์ของคุณมีการดำเนินงานอย่างเรียบร้อยและมีความเป็นระบบในด้านการเงินและบัญชี แนะนำให้ใช้ระบบบัญชีคอมพิวเตอร์หรือซอฟต์แวร์บัญชีเพื่อให้การบันทึกข้อมูลและการจัดเก็บเอกสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
คําศัพท์พื้นฐาน ฟอร์ร์เวิดเดอร์ ที่ควรรู้
นี่คือ 7 คำศัพท์พื้นฐานเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ Freight Forwarder พร้อมคำอธิบายในภาษาอังกฤษและภาษาไทย
- Freight Forwarder (ผู้ส่งของ) A company or individual that organizes shipments of goods on behalf of importers and exporters ผู้ส่งของ คือ บริษัทหรือบุคคลที่จัดการการขนส่งสินค้าในนามของผู้นำเข้าและผู้ส่งออก
- Shipment (การขนส่งสินค้า) The process of transporting goods from one location to another การขนส่งสินค้า คือ กระบวนการส่งของจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง
- Bill of Lading (ใบแสดงรายการขนส่ง) A document that provides details about a shipment of goods and serves as a contract of carriage between the shipper and the carrier ใบแสดงรายการขนส่ง คือ เอกสารที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าและเป็นสัญญาการขนส่งระหว่างผู้ส่งและผู้ขนส่ง
- Warehousing (การจัดเก็บสินค้า) The process of storing goods in a warehouse or storage facility การจัดเก็บสินค้า คือ กระบวนการเก็บรักษาสินค้าในโกดังหรือสถานที่เก็บของ
- Container (คอนเทนเนอร์) A standardized metal box used for transporting goods by sea, land, or air คอนเทนเนอร์ คือ กล่องโลหะมาตรฐานที่ใช้ในการขนส่งสินค้าทางทะเล ทางบก หรือทางอากาศ
- Freight Rate (อัตราค่าขนส่ง) The price charged for the transportation of goods from one place to another อัตราค่าขนส่ง คือ ราคาที่เรียกเก็บสำหรับการขนส่งสินค้าจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง
- Customs Duty (อากรศุลกากร) A tax imposed on imported or exported goods by customs authorities อากรศุลกากร คือ ภาษีที่เก็บกับสินค้าที่นำเข้าหรือส่งออกโดยเจ้าหน้าที่ศุลกากร
ธุรกิจ ฟอร์เวิดเดอร์ ต้อง จดทะเบียนบริษัท หรือไม่
การเปิดร้านฟอร์เวิดเดอร์ (Forwarder) หรือบริการการขนส่งสินค้าในประเทศไทยต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับกิจการดังกล่าว ต่อไปนี้คือขั้นตอนพื้นฐานที่คุณควรพิจารณา
- การจดทะเบียนกิจการ คุณควรจดทะเบียนกิจการขนส่งสินค้าหรือบริการ Forwarding กับกรมการขนส่งทางบก หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับอนุญาตให้ดำเนินกิจการ Forwarding
- การรับอนุญาตและสิทธิ์ในการ Forwarding คุณควรสอบถามและปรึกษากับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบเกี่ยวกับอนุญาตและสิทธิ์ที่จำเป็นในการ Forwarding นอกจากนี้ คุณอาจต้องปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการ Forwarding เพื่อเหมาะสมกับเส้นทางและประเภทของสินค้า
- การปฏิบัติตามกฎหมายการจราจร คุณต้องปฏิบัติตามกฎหมายการจราจรและกฎข้อบังคับทางถนน รวมถึงข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้า อาจมีกฎหมายและข้อบังคับเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการ Forwarding ทางบก
- การปฏิบัติตามกฎหมายสาธารณะบริการ คุณต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการสาธารณะ รวมถึงสิทธิ์และความรับผิดชอบของคุณต่อลูกค้าและสินค้าของลูกค้า
- การเปิดบัญชีธนาคาร เปิดบัญชีธนาคารเพื่อดำเนินธุรกิจของคุณและรับเงินรายได้จากลูกค้า
- การปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการ Forwarding อาจมีกฎหมายเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของสินค้า การแก้ไขสินค้า และการประกันภัยสินค้า เป็นต้น
การจดทะเบียนและปฏิบัติตามกฎหมายขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจการ Forwarding และที่ตั้งของคุณ คุณควรปรึกษากับนักบริหารและนักกฎหมายที่มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ Forwarding ในประเทศไทยเพื่อให้แน่ใจว่าคุณปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ถูกต้องและสามารถดำเนินธุรกิจของคุณได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและข้อกำหนดที่มีอยู่ในประเทศไทย
บริษัท Freight Forwarder เสียภาษีอะไร
การดำเนินธุรกิจฟอร์เวิดเดอร์ (Forwarder) หรือบริการ Forwarding ที่เป็นการจัดการการขนส่งสินค้า ส่วนใหญ่ไม่มีภาษีอย่างเดิมที่เป็นรายได้สำหรับฟอร์เวิดเดอร์โดยตรงในประเทศไทย แต่ฟอร์เวิดเดอร์สามารถเสียภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจและรายได้ที่ได้รับได้ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และภาษีกำไรนิติบุคคล (Corporate Income Tax) ขึ้นอยู่กับโครงสร้างองค์กรและประเภทของกิจการที่ดำเนิน
นี่คือภาษีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจฟอร์เวิดเดอร์ในประเทศไทย
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax – VAT) หากฟอร์เวิดเดอร์ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออกสินค้า การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้านำเข้าและส่งออก ฟอร์เวิดเดอร์อาจต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในกรณีที่มีรายได้จากบริการเหล่านี้
- ภาษีกำไรนิติบุคคล (Corporate Income Tax) หากฟอร์เวิดเดอร์เป็นบริษัทหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย ก็ต้องเสียภาษีกำไรนิติบุคคลตามกฎหมายรายได้นิติบุคคล
- ค่าธรรมเนียมและค่าบริการอื่น ๆ ฟอร์เวิดเดอร์อาจมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ เช่น ค่าบริการการบริหารจัดการการขนส่ง ค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบสินค้า หรือค่าใช้จ่ายในการจัดการเอกสาร
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) เป็นรูปแบบหนึ่งของภาษีที่มีผู้จ่ายเงินหรือจ่ายเงินต้องหักภาษีจากรายได้ที่จ่ายให้กับผู้รับเงิน ภาษีนี้จะถูกหักจากรายได้ในตอนที่จ่าย และจะถูกนำส่งให้หน่วยงานภาษีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในประเทศไทยมีหลายประเภทของภาษีหัก ณ ที่จ่าย แต่น่าจะมีบางประเภทที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุด
- ภาษีหัก ณ ที่จ่ายเงินเดือน (Personal Income Tax) นายจ้างหรือนายจ้างส่งเสริมต้องหักภาษีเงินเดือนของลูกจ้างและนำส่งให้กับกรมสรรพากร เพื่อใช้ส่งเสริมการเสียภาษีส่วนบุคคลของลูกจ้าง
- ภาษีหัก ณ ที่จ่ายในการขายสินค้าและบริการ (Withholding Tax on Sales and Services) ภาษีนี้มักเกี่ยวข้องกับการชำระเงินในการซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบการ ภาษีจะถูกหักจากรายได้ที่จ่ายและนำส่งให้กับกรมสรรพากร
- ภาษีหัก ณ ที่จ่ายดอกเบี้ย (Withholding Tax on Interest) ผู้จ่ายดอกเบี้ยต้องหักภาษีจากรายได้ดอกเบี้ยที่จ่ายให้กับผู้รับเงิน และนำส่งให้กับกรมสรรพากร
- ภาษีหัก ณ ที่จ่ายค่าจ้าง (Withholding Tax on Professional Fees) การจ่ายค่าจ้างให้กับบุคคลที่ให้บริการมืออาชีพหรือบริการอื่น ๆ อาจต้องหักภาษีและนำส่งให้กับกรมสรรพากร
- ภาษีหัก ณ ที่จ่ายค่าจ้างที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (Withholding Tax on Rental of Immovable Property) การจ่ายค่าเช่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอาจต้องหักภาษีและนำส่งให้กับกรมสรรพากร
- อื่น ๆ นอกเหนือจากภาษีและค่าธรรมเนียมที่กล่าวมาแล้วยังมีภาษีหัก ณ ที่จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินในรูปแบบอื่น ๆ อาจมีค่าธรรมเนียมการนำส่งให้กับหน่วยงานภาษีและการเงินด้วย
ควรติดต่อกรมสรรพากรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติมและคำแนะนำเกี่ยวกับภาษีและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจฟอร์เวิดเดอร์ในประเทศไทย การใช้บริการที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษีและการเงินอาจช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการจัดการธุรกิจของคุณ