รับทำบัญชี.COM | บริษัทชิปปิ้ง ส่งออกบริการขนส่ง Transport?

บริษัทชิปปิ้ง

บริษัทชิปปิ้งในประเทศไทย การคาร์โก้ Shipping และบริการนำเข้า-ส่งออกและภาษีขนส่งสินค้า

บริษัทชิปปิ้ง เป็นบริษัทที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการคาร์โก้ (Cargo) และ Shipping ในประเทศไทย การนำเข้าและส่งออกสินค้าเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจและการค้าของประเทศ และบริษัทชิปปิ้งเป็นผู้ช่วยสำคัญในการอำนวยความสะดวกแก่ธุรกิจต่าง ๆ ในการขนส่งสินค้าไปมาระหว่างประเทศ บทความนี้จะสอดแทรกความสำคัญของบริษัทชิปปิ้งและบริการที่พวกเขาให้ เช่นการนำเข้า-ส่งออกและภาษีขนส่งสินค้า

บริษัทชิปปิ้งในประเทศไทย

บริษัทชิปปิ้งในประเทศไทยเป็นผู้นำเข้าและส่งออกสินค้าหลากหลายประเภท เช่น สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบ และสินค้าอื่น ๆ ซึ่งมีตลาดต่าง ๆ ในระดับโลก บริษัทชิปปิ้งมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดความซับซ้อนในกระบวนการคาร์โก้และ Shipping ที่ซับซ้อนโดยให้บริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

การนำเข้าและส่งออก

บริษัทชิปปิ้งมีความเชี่ยวชาญในการจัดการขนส่งสินค้าที่นำเข้าและส่งออก กระบวนการนี้เป็นเรื่องซับซ้อนและมีความซับซ้อนในเรื่องของการเรียกเก็บภาษีและอนุมัติการนำเข้า บริษัทชิปปิ้งช่วยในการจัดการกระบวนการนี้ให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย ทำให้ลูกค้าสามารถนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศหรือส่งออกสินค้าไปยังตลาดระหว่างประเทศได้อย่างเรียบง่าย

ภาษีขนส่งสินค้า

การคิดคำนวณภาษีขนส่งสินค้าเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการคาร์โก้และ Shipping บริษัทชิปปิ้งมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่สามารถช่วยลูกค้าในการคำนวณภาษีขนส่งสินค้าให้ถูกต้องตามกฎหมายและข้อกำหนด นอกจากนี้ พวกเขายังสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการลดภาษีและประหยัดค่าใช้จ่ายในกระบวนการคาร์โก้

สรุป

บริษัทชิปปิ้งในประเทศไทยเป็นพันธมิตรสำคัญในการคาร์โก้และ Shipping ที่ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถนำเข้าและส่งออกสินค้าไปยังตลาดระหว่างประเทศได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยรวมแล้ว บริษัทชิปปิ้งเป็นพันธมิตรที่เสริมสร้างการค้าระหว่างประเทศและส่งเสริมการเจริญเติบ

นำเข้าสินค้าจากจีน มาขาย

การนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อขายในประเทศไทยเป็นธุรกิจที่มีความนิยมและมีโอกาสในการสร้างรายได้อย่างมาก การเลือกใช้บริการขนส่งเป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการนี้ เพื่อช่วยให้คุณสามารถนำสินค้ามาได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ดังนั้น ในบทความนี้จะแนะนำรายชื่อบริษัทที่เป็นเจ้าหน้าที่ในการจัดส่งสินค้าจากจีนเข้ามาในประเทศไทย

รายชื่อบริษัทชิปปิ้งในประเทศไทยและเว็บไซต์

บริษัท เว็บไซต์
DHL Express Thailand wwwdhlcoth
FedEx Express Thailand wwwfedexcom/th
UPS Thailand wwwupscom/th
TNT Express Thailand wwwtntcom/th
Kerry Express Thailand wwwkerryexpresscom/th
Thai Post wwwthailandpostcoth
CJ Logistics Thailand wwwcjlogisticscoth
Best Express Thailand wwwbestexpresscoth
Ninja Van Thailand wwwninjavanco/th
J&T Express Thailand wwwjtexpresscoth
SCG Logistics Management Company Limited wwwscglogisticscoth
เทรนโนล็อกส์ (Thailand) จำกัด wwwtranslogisticscoth

คุณสามารถติดต่อกับบริษัทเหล่านี้เพื่อขอใบเสนอราคา และปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการขนส่งสินค้า (Forwarder) จากจีนเข้าไทย นอกจากนี้ ยังควรพิจารณาค่าใช้จ่าย ระยะเวลาในการจัดส่ง และบริการที่เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจของคุณด้วย เพื่อให้สามารถเลือกบริษัทที่ตรงกับความต้องการของคุณได้อย่างเหมาะสม ขั้นตอนนี้คือขั้นตอนแรกในการนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อขายในประเทศไทย และบทความนี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการเริ่มต้นธุรกิจของคุณในสายธุรกิจนี้ได้ดีขึ้น อย่าลืมตรวจสอบกฎหมายและข้อกำหนดทางศุนย์ธรรมาภิบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้าเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องและเป็นธรรม

แนะนำการ shipping จีน-ไทย

การคาร์โก้ (Cargo) และ Shipping ระหว่างจีนและไทยเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญสำหรับธุรกิจและการค้าระหว่างสองประเทศนี้ นี่คือขั้นตอนและบริษัทที่คุณสามารถนำเข้าพิจารณาเพื่อการคาร์โก้และ Shipping จากจีนเข้าไทย

  1. เลือกบริษัทการขนส่ง คุณควรเลือกบริษัทการขนส่งที่มีความเชี่ยวชาญในการคาร์โก้และ Shipping ระหว่างจีนและไทย เช่น DHL, FedEx, UPS, TNT, และบริษัทขนส่งอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงในวงการ
  2. เรียนรู้เกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออก ควรทำการศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับขั้นตอนและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ เช่น ใบขนส่งสินค้า, ใบกำกับภาษี, และเอกสารสรรพสินค้าอื่น ๆ นอกจากนี้ยังต้องเข้าใจเรื่องของภาษีขนส่งสินค้าและอาจต้องติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขออนุญาตในกรณีที่จำเป็น
  3. เลือกวิธีการคาร์โก้ มีหลายวิธีในการคาร์โก้สินค้าระหว่างจีนและไทย เช่น ทางบก (ทางถนน), ทางทะเล, และทางอากาศ ควรพิจารณาความเร็วในการจัดส่ง, ราคา, และความเหมาะสมกับสินค้าของคุณเมื่อเลือกวิธีการคาร์โก้
  4. สร้างความร่วมมือกับบริษัท Shipping ติดต่อกับบริษัท Shipping และสอบถามเกี่ยวกับบริการที่พวกเขามีให้ เช่น ค่าบริการ, ระยะเวลาในการจัดส่ง, และบริการเสริมอื่น ๆ เพื่อเลือกบริษัทที่ตรงกับความต้องการของคุณ
  5. ติดตามสินค้า หลังจากที่ส่งสินค้าไปแล้ว ควรติดตามสถานะของสินค้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ทราบว่าสินค้ากำลังเดินทางอย่างปลอดภัย บริษัท Shipping บางแห่งมีระบบติดตามออนไลน์ที่ช่วยให้คุณสามารถติดตามสินค้าได้อย่างง่ายดาย

การคาร์โก้และ Shipping ระหว่างจีนและไทยเป็นกระบวนการที่สำคัญและซับซ้อน การเลือกบริษัท บริษัทนําเข้าสินค้า ที่เหมาะสมและการเรียนรู้เกี่ยวกับขั้นตอนและเอกสารที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้คุณสามารถนำเข้าและส่งออกสินค้าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย อย่าลืมติดตามกฎหมายและข้อกำหนดทางศุนย์ธรรมาภิบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องและเป็นธรรม

แนะนำเอกสารที่ บริษัทชิปปิ้งในประเทศไทย ต้องรู้

การทำกิจการชิ้บปิ้ง (shipping) มีเอกสารหลายชนิดที่ใช้ในกระบวนการการส่งสินค้าจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อ หรือจากสถานที่ผลิตไปยังสถานที่หมายหมุ่นมีบางส่วนที่สำคัญอาจประกอบด้วย

  1. ใบสั่งซื้อ (Purchase Order) เป็นเอกสารที่ผู้ซื้อส่งถึงผู้ขาย เพื่อสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ ซึ่งระบุรายละเอียดของสินค้า เช่น ปริมาณที่สั่งซื้อและราคาที่ตกลง
  2. ใบส่งของ (Delivery Note) เป็นเอกสารที่ผู้ขายจัดทำเมื่อส่งสินค้าถึงผู้ซื้อ ซึ่งระบุรายละเอียดของสินค้าที่ถูกส่ง เช่น ปริมาณและคุณภาพของสินค้า
  3. ใบกำกับสินค้า (Invoice) เป็นเอกสารทางการเงินที่ผู้ขายส่งถึงผู้ซื้อ เพื่อระบุราคาของสินค้าและราคาสุทธิ รวมถึงข้อมูลการชำระเงิน
  4. หมายเลขติดตาม (Tracking Number) เป็นรหัสหรือหมายเลขที่ใช้ในการติดตามการขนส่งของสินค้า ผู้ขายจะแจ้งให้ผู้ซื้อทราบหมายเลขนี้เพื่อให้สามารถติดตามสถานะการจัดส่งได้
  5. ใบขนส่งสินค้า (Bill of Lading) เป็นเอกสารที่ใช้ในการระบุสินค้าที่อยู่บนเรือหรือขนส่ง ซึ่งมักใช้ในกรณีขนส่งทางทะเล
  6. ใบสมัครขนส่ง (Shipping Manifest) เป็นรายการสรุปของที่จะขนส่งในการขนส่งเดียว ซึ่งระบุรายละเอียดของสินค้าแต่ละรายการ และใช้ในการตรวจสอบความถูกต้องของการขนส่ง
  7. ใบอนุญาตขนส่ง (Shipping Permit) เป็นเอกสารที่อาจจำเป็นต้องมีในกรณีที่สินค้ามีลักษณะพิเศษหรือต้องการอนุญาตเฉพาะในการขนส่ง
  8. เอกสารส่งมอบ (Delivery Receipt) เป็นเอกสารที่ใช้ในการยืนยันการรับสินค้า ผู้ซื้อต้องเซ็นรับรองเมื่อได้รับสินค้า
  9. ใบสมัครนำเข้า-ส่งออก (Import-Export Documents) สำหรับการส่งออกและนำเข้าสินค้าข้ามชาติ อาจจำเป็นต้องมีเอกสารเพิ่มเติม เช่น ใบขนส่งระหว่างประเทศ, ใบประกันการส่งของ (Certificate of Insurance), ใบอนุญาตการนำเข้า-ส่งออก (Import-Export License) เป็นต้น

เอกสารที่จะใช้ในการทำกิจการชิ้บปิ้งจะขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจและการขนส่งที่ต้องการทำ และอาจมีการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมตามความต้องการของบริษัทหรือผู้รับสินค้าแต่ละราย

การจัดการข้อมูล และเอกสารทางบัญชี ธุรกิจชิปปิ้ง เบื้องต้น

  1. สร้างระบบการจัดเก็บเอกสาร กำหนดสถานที่เก็บเอกสาร เช่น ตู้เอกสาร ลิ้นชัก ห้องเก็บเอกสาร หรือเครื่องมือเก็บเอกสารออนไลน์
  2. กำหนดสถานที่เก็บเอกสาร ให้สถานที่เก็บเอกสารมีการระบุชื่อและหมายเลขเพื่อค้นหาได้ง่าย
  3. ใช้เวลาสัปดาห์หรือเดือนหนึ่งครั้งเพื่อทำความสะอาดและจัดเรียงเอกสาร บำรุงรักษาสภาพเอกสารเพื่อไม่ให้มีความสกปรกและไม่สูญหาย
  4. กำหนดระบบและการจัดเก็บ สร้างระเบียบในการจัดเก็บเอกสาร เช่น แยกเอกสารตามประเภท วันที่ หรือหมวดหมู่
  5. ใช้ป้ายชื่อหรือป้ายสีเพื่อระบุหมวดหมู่ของเอกสาร ทำให้ง่ายต่อการค้นหา
  6. ใช้กล่องหรือฟังก์ชันอื่น ๆ เช่น โฟลเดอร์ ไฟล์ หรือการจัดเก็บออนไลน์ เพื่อให้เรียบร้อยและเข้าถึงง่าย
  7. ระบุเอกสารสำคัญ ใช้สีหรือป้ายชื่อเพื่อระบุเอกสารที่สำคัญ
  8. การบันทึกเอกสารออนไลน์ ใช้บริการเก็บเอกสารออนไลน์ เพื่อรักษาสำเนาสำรองและเข้าถึงจากทุกที่
  9. สร้างรายการและดัชนี สร้างรายการหรือดัชนีของเอกสารเพื่อค้นหาง่ายเมื่อต้องการ
  10. การทำสำเนาสำรอง สร้างสำเนาสำรองของเอกสารสำคัญและเก็บไว้ในสถานที่ปลอดภัย
  11. การทำลายเอกสารที่ไม่จำเป็น ทำลายเอกสารที่ไม่จำเป็นเพื่อลดปริมาณข้อมูลที่ต้องจัดเก็บ
  12. การส่งออกเอกสารอย่างปลอดภัย ใช้ช่องทางที่ปลอดภัยในการส่งเอกสารออก เช่น การเข้ารหัสข้อมูล (encryption) หรือใช้บริการจัดส่งที่มีระบบรักษาความปลอดภัย
  13. การติดตามระยะเวลาการเก็บเอกสาร ระบุระยะเวลาการเก็บเอกสารและกำหนดเวลาที่จะทำลายเอกสารที่ไม่จำเป็น
  14. การอบรมพนักงาน ฝึกพนักงานให้รู้จักและปฏิบัติตามระเบียบการจัดเก็บเอกสารอย่างถูกต้อง

บริษัท นำเข้าสินค้าจากจีน เสียภาษีอย่างไร

การนำเข้าและส่งออกสินค้าผ่านทางการขนส่ง (shipping) มีภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย ต่อไปนี้คือภาษีและค่าธรรมเนียมสำคัญที่คุณควรทราบ

  1. ค่าธรรมเนียมการขนส่ง (Freight Charges) ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บในการขนส่งสินค้า อัตราค่าธรรมเนียมนี้จะขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าและระยะทางการขนส่ง
  2. ค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนพาหนะ (Demurrage and Detention Charges) ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมที่คุณอาจต้องจ่ายหากสินค้าค้างคลัง (demurrage) หรือพาหนะการขนส่งใช้เวลานานเกินกำหนด (detention)
  3. ภาษีศุลกากร (Customs Duty) ถ้าคุณนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศผ่านทางการขนส่ง คุณอาจต้องเสียภาษีศุลกากรตามกฎหมาย อัตราภาษีศุลกากรจะขึ้นอยู่กับประเภทและมูลค่าของสินค้า
  4. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สินค้าที่นำเข้าและใช้ในประเทศไทยอาจต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งมีอัตราภาษีแน่นอนตามกฎหมาย
  5. ค่าธรรมเนียมสาธารณูปโภค (Excise Tax) บางสินค้าที่นำเข้าหรือส่งออกอาจมีค่าธรรมเนียมสาธารณูปโภค (excise tax) เช่น น้ำมันเชื้อเพลิงและบางรายการอื่น
  6. ค่าธรรมเนียมพิเศษ บางครั้งมีค่าธรรมเนียมพิเศษอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง เช่น ค่าธรรมเนียมในการทำบัตรพรรคชน
  7. อื่น ๆ นอกเหนือจากภาษีและค่าธรรมเนียมแล้วยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง อาจมีค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบสินค้า หรือค่าบริการอื่น ๆ จากผู้ให้บริการขนส่ง
  8. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) เป็นรูปแบบหนึ่งของภาษีที่มีผู้จ่ายเงินหรือจ่ายเงินต้องหักภาษีจากรายได้ที่จ่ายให้กับผู้รับเงิน ซึ่งภาษีนี้จะถูกหักจากรายได้ในตอนที่จ่าย และจะถูกนำส่งให้หน่วยงานภาษีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในประเทศไทยมีหลายประเภทของภาษีหัก ณ ที่จ่าย แต่น่าจะมีบางประเภทที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุด
    1. ภาษีหัก ณ ที่จ่ายเงินเดือน (Personal Income Tax) นายจ้างหรือนายจ้างส่งเสริมต้องหักภาษีเงินเดือนของลูกจ้างและนำส่งให้กับกรมสรรพากร เพื่อใช้ส่งเสริมการเสียภาษีส่วนบุคคลของลูกจ้าง
    2. ภาษีหัก ณ ที่จ่ายในการขายสินค้าและบริการ (Withholding Tax on Sales and Services) ภาษีนี้มักเกี่ยวข้องกับการชำระเงินในการซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบการ ภาษีจะถูกหักจากรายได้ที่จ่ายและนำส่งให้กับกรมสรรพากร
    3. ภาษีหัก ณ ที่จ่ายดอกเบี้ย (Withholding Tax on Interest) ผู้จ่ายดอกเบี้ยต้องหักภาษีจากรายได้ดอกเบี้ยที่จ่ายให้กับผู้รับเงิน และนำส่งให้กับกรมสรรพากร
    4. ภาษีหัก ณ ที่จ่ายค่าจ้าง (Withholding Tax on Professional Fees) การจ่ายค่าจ้างให้กับบุคคลที่ให้บริการมืออาชีพหรือบริการอื่น ๆ อาจต้องหักภาษีและนำส่งให้กับกรมสรรพากร
    5. ภาษีหัก ณ ที่จ่ายค่าจ้างที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (Withholding Tax on Rental of Immovable Property) การจ่ายค่าเช่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอาจต้องหักภาษีและนำส่งให้กับกรมสรรพากร

ควรติดต่อบริษัทขนส่งหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติมและคำแนะนำเกี่ยวกับภาษีและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งในประเทศไทย การใช้บริการที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้อาจช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการจัดการการขนส่งสินค้าของคุณ

เพิ่มเติม การนำเข้าสินค้าบันทึกบัญชีรูปแบบ ​FOB และ CIF

  1. CIF (Cost, Insurance, and Freight):
    • CIF เป็นเงื่อนไขการจัดหาสินค้าและค่าบริการที่ผู้ขายรับผิดชอบในกระบวนการนำเข้า.
    • ผู้ขายต้องรับผิดชอบในการจัดส่งสินค้าไปยังท่าเรือหรือท่าอากาศยานที่ระบุโดยผู้ซื้อ.
    • ผู้ขายต้องรับผิดชอบในการจัดหาค่าประกันและค่าจัดส่งสินค้าไปยังท่าเรือหรือท่าอากาศยานนั้น ๆ.
    • ผู้ซื้อรับผิดชอบในกระบวนการนำเข้าสินค้าและค่าภาษีนำเข้า.
  2. FOB (Free On Board):
    • FOB เป็นเงื่อนไขการจัดหาสินค้าและค่าบริการที่ผู้ขายรับผิดชอบในกระบวนการนำเข้าสินค้า.
    • ผู้ขายต้องรับผิดชอบในการจัดส่งสินค้าไปยังท่าเรือหรือท่าอากาศยานที่ระบุโดยผู้ซื้อ.
    • ผู้ซื้อรับผิดชอบในกระบวนการนำเข้าสินค้า, ค่าประกัน, และค่าจัดส่งสินค้าหลังจากที่สินค้าออกจากท่าเรือหรือท่าอากาศยาน.

สรุปคือ CIF คือเงื่อนไขที่ผู้ขายรับผิดชอบในค่าบริการและค่าส่งสินค้าถึงท่าเรือหรือท่าอากาศยาน ในขณะที่ FOB ผู้ขายรับผิดชอบในกระบวนการจัดส่งสินค้าไปยังท่าเรือหรือท่าอากาศยานที่ระบุ และผู้ซื้อรับผิดชอบในค่าประกันและค่าจัดส่งสินค้าหลังจากที่สินค้าออกจากท่าเรือหรือท่าอากาศยาน

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )