รับทำบัญชี.COM | ตัวอย่างธุรกิจ b2b B2C B2B Marketing ในไทย

ธุรกิจ b2b

ธุรกิจ b2b หมายถึง ธุรกิจที่ซื้อขายสินค้าหรือบริการกับธุรกิจอื่นๆ โดยไม่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคทั่วไป แต่เน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่เป็นธุรกิจอย่างเดียว ในธุรกิจ b2b ผู้ซื้อและผู้ขายมักเป็นบริษัทหรือองค์กรที่มีขนาดใหญ่ และมักเกี่ยวข้องกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่เฉพาะเจาะจง เช่น ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือธุรกิจการผลิต เป็นต้น

ธุรกิจ b2b มีลักษณะการตลาดที่แตกต่างจากธุรกิจ b2c (business-to-consumer) โดยทั่วไป เนื่องจากลูกค้าในธุรกิจ b2b มักมีการตัดสินใจที่ซับซ้อนและต้องการการสนับสนุนทางเทคนิคและบริการหลังการขายที่มีคุณภาพสูง ซึ่งมักต้องมีการสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับลูกค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเป็นพันธมิตรกันในระยะยาว นอกจากนี้ การตลาดในธุรกิจ b2b ยังมีการใช้ช่องทางการตลาดแบบอื่นๆ เช่น การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์และสื่อสังคมออนไลน์เป็นต้น

ธุรกิจ b2b ในไทย

ธุรกิจ b2b เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เฉพาะเจาะจง เช่น อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมแร่และโลหะ อุตสาหกรรมเครื่องจักรและอุปกรณ์ อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการเติบโตของธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมีธุรกิจ b2b ที่เกี่ยวข้องเช่น การพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ การบริการโฮสติ้ง เป็นต้น

การตลาดในธุรกิจ b2b ในไทยมีการใช้ช่องทางการตลาดหลายช่องทาง เช่น การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า การใช้เครื่องมือการตลาดออนไลน์ เช่น SEO, SEM, การสร้างเนื้อหา (content marketing) และการใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อเพิ่มความรู้สึกของผู้บริโภค นอกจากนี้ยังมีการใช้งานช่องทางการตลาดแบบโทรศัพท์เพื่อติดต่อลูกค้าโดยตรงและทำการติดต่อซ้ำๆ และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเพื่อสร้างความไว้วางใจและความซื่อสัตย์ในการซื้อขายในระยะยาว

b2b ตัวอย่างธุรกิจ

ตัวอย่าง ของธุรกิจ b2b ที่ประสบความสำเร็จในตลาดไทย ได้แก่

1. ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ, เครื่องทำน้ำอุ่น, เครื่องดูดฝุ่น, และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ
2. ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด, แชมพูและครีมสำหรับเครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, อาหารว่าง, และเครื่องดื่ม
3. ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น ธุรกิจให้บริการโฮสติ้งเว็บไซต์, ธุรกิจพัฒนาระบบซอฟต์แวร์, และธุรกิจสื่อสารและโทรคมนาคม
4. ธุรกิจเครื่องจักรและอุปกรณ์ เช่น ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรและอุปกรณ์เกี่ยวกับอุตสาหกรรม, เครื่องจักรกล, เครื่องจักรกลไฟฟ้า, และอุปกรณ์ไฟฟ้า
5. ธุรกิจอุตสาหกรรมและการผลิต เช่น ธุรกิจผลิตสินค้าอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม, ธุรกิจผลิตสินค้าอุตสาหกรรมเครื่องปรุงอาหาร, และธุรกิจผลิตสินค้าอุตสาหกรรมเครื่องเขียนและสำนักงาน
6. ธุรกิจโลจิสติกส์ เช่น ธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางบก, ทางเรือและทางอากาศ, ธุรกิจจัดส่งสินค้าและโลจิสติกส์คลังสินค้า, และธุรกิจบริการเกี่ยวกับการจัดการสินค้าและสต็อก
7. ธุรกิจการเงินและการลงทุน เช่น ธุรกิจบริการทางการเงิน, ธุรกิจบริการทางการลงทุน, ธุรกิจหลักทรัพย์, และธุรกิจประกันภัย
8. ธุรกิจการศึกษาและอบรม เช่น ธุรกิจให้บริการการศึกษาและการอบรมในหลายสาขาวิชา, ธุรกิจให้บริการการฝึกอบรมด้านธุรกิจ, และธุรกิจให้บริการการสอนภาษาต่างประเทศ
9. ธุรกิจบริการในสายอาชีพ เช่น ธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับการจัดหาแรงงาน, ธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับการจัดการเอกสารและห้องปฏิบัติการ, และธุรกิจบริการด้านสุขภาพและความงาม

ธุรกิจ b2b มีความหลากหลายและต้องการความสามารถในการตลาดและการเข้าถึงลูกค้าที่เหมาะสม เพื่อสร้างความสำเร็จในการขายสินค้าและบริการในตลาดไทย

ธุรกิจ b2b มีอะไรบ้าง

ตัวอย่าง ของธุรกิจ b2b ที่ประสบความสำเร็จในตลาด ได้แก่

1. Amazon Business เป็นส่วนของเว็บไซต์ Amazon ที่ให้บริการสำหรับธุรกิจที่ต้องการซื้อสินค้าในปริมาณมาก มีสินค้าหลากหลายและมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าธุรกิจ
2. HubSpot เป็นซอฟต์แวร์การตลาดแบบ all-in-one ที่ให้บริการเพื่อการบริหารจัดการการตลาดของธุรกิจ b2b
3. ADP เป็นธุรกิจบริการทางการเงินที่ให้บริการเกี่ยวกับการจัดการเงินเดือนและค่าตอบแทนของพนักงานสำหรับธุรกิจ b2b
4. Salesforce เป็นซอฟต์แวร์การบริหารจัดการลูกค้า (CRM) ที่ใช้ในการจัดการข้อมูลลูกค้าและการติดตามการขายสำหรับธุรกิจ b2b
5. SAP เป็นซอฟต์แวร์ทางธุรกิจที่ให้บริการเพื่อการจัดการธุรกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์ การจัดการสินค้าคงคลัง และการบัญชีและการเงิน

ธุรกิจ B2C

ธุรกิจ B2C (business-to-consumer) คือ ธุรกิจที่ซื้อขายสินค้าหรือบริการกับผู้บริโภคทั่วไป โดยเจ้าของธุรกิจจะมีความต้องการในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคเพื่อเพิ่มการขายและช่วยให้ธุรกิจของตนเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

ตัวอย่าง ของธุรกิจ B2C ที่มักจะเจอในตลาด ได้แก่

1. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, ร้านเบเกอรี่, ร้านเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์อาหาร
2. ธุรกิจเสื้อผ้าและแฟชั่น เช่น ร้านเสื้อผ้า, ร้านรองเท้า, ร้านเครื่องประดับและร้านขายกระเป๋า
3. ธุรกิจสุขภาพและความงาม เช่น ร้านเครื่องสำอาง, ร้านอาหารเสริมสร้างสุขภาพ, สปาและเวลเนส
4. ธุรกิจออนไลน์ เช่น ร้านค้าออนไลน์, บริการจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบิน, บริการสื่อสารสั้นๆ หรือแชทบอท
5. ธุรกิจบันเทิงและกีฬา เช่น ร้านซีดี, ร้านหนังสือ, ร้านเกม, ร้านบันเทิงสด
6. ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม เช่น โรงแรม, สถานที่ท่องเที่ยว, บริการทัวร์และการจัดงานเที่ยว
7. ธุรกิจของขวัญและสินค้าตกแต่งบ้าน เช่น ร้านของขวัญ, ร้านเฟอร์นิเจอร์, ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและของตกแต่งบ้าน
8. ธุรกิจการศึกษาและการอบรม เช่น ธุรกิจให้บริการการศึกษาและการอบรมในหลายสาขาวิชา, ธุรกิจให้บริการการฝึกอบรมด้านธุรกิจ
9. ธุรกิจการเงินและการลงทุน เช่น ธุรกิจบริการทางการเงิน, ธุรกิจบริการทางการลงทุน, ธุรกิจหลักทรัพย์, และธุรกิจประกันภัย
10. ธุรกิจบริการในสายอาชีพ เช่น ธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับการจัดหาแรงงาน, ธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับการจัดการเอกสารและห้องปฏิบัติการ, และธุรกิจบริการด้านสุขภาพและความงาม

ธุรกิจ B2C มีความหลากหลายในแต่ละกลุ่มผู้บริโภค และต้องการความสามารถในการตลาดและการเข้าถึงลูกค้าที่เหมาะสม เพื่อสร้างความสำเร็จในการขายสินค้าและบริการในตลาดได้

ตัวอย่างธุรกิจ b2c

ตัวอย่าง ธุรกิจ B2C ที่มักจะเจอในตลาด ได้แก่

1. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่น, ร้านกาแฟ, ร้านเบเกอรี่, ร้านเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์อาหาร
2. ธุรกิจเสื้อผ้าและแฟชั่น เช่น ร้านเสื้อผ้า, ร้านรองเท้า, ร้านเครื่องประดับและร้านขายกระเป๋า
3. ธุรกิจสุขภาพและความงาม เช่น ร้านเครื่องสำอาง, ร้านอาหารเสริมสร้างสุขภาพ, สปาและเวลเนส
4. ธุรกิจออนไลน์ เช่น ร้านค้าออนไลน์, บริการจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบิน, บริการสื่อสารสั้นๆ หรือแชทบอท
5. ธุรกิจบันเทิงและกีฬา เช่น ร้านซีดี, ร้านหนังสือ, ร้านเกม, ร้านบันเทิงสด
6. ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม เช่น โรงแรม, สถานที่ท่องเที่ยว, บริการทัวร์และการจัดงานเที่ยว
7. ธุรกิจของขวัญและสินค้าตกแต่งบ้าน เช่น ร้านของขวัญ, ร้านเฟอร์นิเจอร์, ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและของตกแต่งบ้าน
8. ธุรกิจการศึกษาและการอบรม เช่น ธุรกิจให้บริการการศึกษาและการอบรมในหลายสาขาวิชา
9. ธุรกิจการเงินและการลงทุน เช่น ธุรกิจบริการทางการเงิน, ธุรกิจบริการทางการลงทุน, ธุรกิจหลักทรัพย์, และธุรกิจประกันภัย
10. ธุรกิจบริการในสายอาชีพ เช่น ธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับการจัดหาแรงงาน, ธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับการจัดการเอกสารและห้องปฏิบัติการ, และธุรกิจบริการด้านสุขภาพและความงาม

ธุรกิจ B2C มีความหลากหลายในแต่ละกลุ่มผู้บริโภค และต้องการความสามารถในการตลาดและการเข้าถึงลูกค้าที่เหมาะสม เพื่อสร้างความสำเร็จในการขายสินค้าและบริการในตลาดได้

ธุรกิจ B2B คือ

ธุรกิจ B2B (business-to-business) คือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการระหว่างธุรกิจและธุรกิจ ซึ่งธุรกิจในกลุ่มนี้มักจะเน้นการขายสินค้าหรือบริการในปริมาณมากกว่าการขายในปริมาณเล็กๆ แต่มีมูลค่าสูงกว่า ซึ่งอาจจะเป็นการซื้อขายวัตถุดิบ, วัสดุอุปกรณ์, เครื่องจักร, บริการทางธุรกิจ และสินค้าหรือบริการอื่นๆ ที่เป็นส่วนประกอบของกระบวนการผลิต หรือการให้บริการของธุรกิจอื่นๆ

ธุรกิจ B2B มักจะมีการเจรจาซื้อขายที่ซับซ้อนกว่าธุรกิจ B2C เนื่องจากธุรกิจในกลุ่มนี้มีการซื้อขายสินค้าหรือบริการในปริมาณมาก และมีการต่อรองระหว่างฝ่ายขายและลูกค้าเพื่อความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย

ตัวอย่างของธุรกิจ B2B ที่เราคุ้นเคยได้แก่ ธุรกิจขายอุปกรณ์ไฟฟ้า, ธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์, ธุรกิจการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรม, ธุรกิจบริการทางการเงินและการลงทุน, และธุรกิจบริการทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อยของธุรกิจในกลุ่ม B2B ที่มีอยู่ในตลาดวันนี้

B2B Marketing คือ

B2B Marketing คือกลยุทธ์การตลาดที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์และการติดต่อกับธุรกิจเพื่อเข้าสู่การซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างธุรกิจ ซึ่งการตลาดในกลุ่ม B2B มักเน้นการวางแผนการตลาดที่มีความชัดเจนและตรงกับกลุ่มลูกค้าที่เป้าหมาย โดยเฉพาะการวางแผนการตลาดที่เน้นการสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในการทำธุรกิจระหว่างฝ่ายขายและลูกค้า นอกจากนี้ การตลาดในกลุ่ม B2B ยังเน้นการสร้างความเข้าใจและการสร้างความรู้เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ และวิธีการใช้งานของลูกค้าเป้าหมาย

เทคนิคการตลาดในกลุ่ม B2B มักมีการนำเสนอสินค้าหรือบริการโดยใช้ข้อมูลทางธุรกิจและคำนวณค่าใช้จ่ายโดยละเอียด เนื่องจากลูกค้าในกลุ่ม B2B มักมีการตัดสินใจการซื้อขายโดยใช้ข้อมูลทางธุรกิจและการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายอย่างละเอียด ดังนั้นการตลาดในกลุ่ม B2B จึงมีการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น การใช้เว็บไซต์เพื่อสื่อสารและสร้างความรู้ให้กับลูกค้า การใช้โซเชียลมีเดียสำหรับการสร้างความสัมพันธ์และการติดตามผลการตลาด

b2b คืออะไร และให้ยกตัวอย่าง

B2B ย่อมาจากคำว่า Business-to-Business ซึ่งหมายถึงธุรกิจที่มีการซื้อ-ขายสินค้าหรือบริการระหว่างกัน โดยเน้นไปที่การซื้อ-ขายระหว่างธุรกิจและธุรกิจ และไม่เน้นไปที่ผู้ใช้หรือผู้บริโภคสุดท้าย ซึ่งธุรกิจในกลุ่มนี้มักจะเน้นการซื้อ-ขายในปริมาณที่มากกว่าธุรกิจในกลุ่ม B2C (Business-to-Consumer) แต่มีมูลค่าต่อรองสูงกว่า

ตัวอย่าง ของธุรกิจ B2B ได้แก่

1. บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรม
2. บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง
3. บริษัทที่ให้บริการโฆษณาและการตลาดสำหรับธุรกิจ
4. บริษัทที่ให้บริการด้านการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์
5. บริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้า
6. บริษัทที่จัดหาแรงงานให้กับธุรกิจในต่างประเทศ
7. บริษัทที่ให้บริการด้านการศึกษาและการอบรมให้กับธุรกิจ
8. บริษัทที่ให้บริการทางการเงินและการลงทุน

ธุรกิจ B2B มีลักษณะการตลาดที่แตกต่างจากธุรกิจ B2C โดยใน B2B มีการใช้ข้อมูลทางธุรกิจและข้อมูลอื่นๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจใน

รับทำบัญชี
โทร.081-931-8341 (คุณจ๋า)