รับทำบัญชี.COM | โลจิสติกส์ภาษีรายได้หักณที่จ่าย Logistics?

Click to rate this post!
[Total: 92 Average: 5]

ธุรกิจโลจิสติกส์

ธุรกิจโลจิสติกส์น่าท้าทายมาก เริ่มต้นได้ด้วยการกล่าวถึงความสำคัญของฟอเวิดเดอร์ (forwarder) ในวงการขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นตัวกลางที่มีบทบาทสำคัญในการจัดการและประสานกับการขนส่งสินค้าทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติ ความสำเร็จของธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์บ้านเมืองได้ขึ้นอยู่กับความเชื่อมโยงและประสานงานที่ดีของบริษัทขนส่งและฟอเวิดเดอร์ ในการเคลื่อนย้ายสินค้าจากจุด A ไปยังจุด B โดยมีความรวดเร็ว ปลอดภัย และทันเวลา

การตีความหมายของคำว่า “ขนส่ง” และ “โลจิสติกส์” เป็นสิ่งสำคัญ โดยการบูรณาการและการปรับปรุงกระบวนการขนส่งเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการใช้เทคโนโลยีในการจัดการและติดตามการขนส่งสินค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยง

ในแง่ของธุรกิจ ความสำคัญของการคิดเชิงกลยุทธ์และการวางแผนก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย เพื่อให้บริษัทขนส่งเอกชนและฟอเวิดเดอร์สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถเป็นผู้นำในวงการนี, การเข้าใจแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น และการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาจะเป็นปัจจัยที่สำคัญ

ประเภทของธุรกิจโลจิสติกส์

  1. การขนส่งและโลจิสติกส์สากล การบริการขนส่งสินค้าทางบก, ทางน้ำ, ทางอากาศ และการโลจิสติกส์สากล เช่น การจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศ

  2. โลจิสติกส์อุตสาหกรรม การจัดการโลจิสติกส์ในอุตสาหกรรมผู้ผลิต ซึ่งเน้นการจัดส่งวัสดุในกระบวนการผลิตและจัดส่งสินค้าสำเร็จรูป

  3. โลจิสติกส์การค้า การจัดการโลจิสติกส์ในการค้าระหว่างประเทศ เช่น การจัดการคลัสเตอร์, คลัสเตอร์บรรทุก, การบริการโลจิสติกส์ในโซนอุตสาหกรรม

  4. โลจิสติกส์ทางการค้าออนไลน์ การจัดการโลจิสติกส์ในธุรกิจออนไลน์ เช่น การจัดส่งสินค้าที่สั่งซื้อออนไลน์

แนวโน้มของธุรกิจโลจสติกส์

  1. การใช้เทคโนโลยีในโลจิสติกส์ การบริษัทในธุรกิจโลจิสติกส์ในปัจจุบันใช้เทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการโลจิสติกส์ เช่น การใช้ระบบการจัดการคลังสินค้าอัตโนมัติ, ระบบติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์, และการใช้โซลูชั่นดิจิทัลในการติดตามข้อมูลและกระบวนการขนส่ง

  2. การให้บริการโลจิสติกส์ที่ยืดหยุ่น ลูกค้าต้องการบริการโลจิสติกส์ที่มีความยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บริษัทจึงต้องพัฒนาการบริการเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแบบทันที

  3. ความสำคัญของยักษ์ในโลจิสติกส์ การลดการใช้พลังงาน, การใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, และการลดโลหะกำลังงาน กลายเป็นหัวข้อที่มีความสำคัญในธุรกิจโลจิสติกส์ในปัจจุบัน

ธุรกิจโลจิสติกส์ในไทยปัจจุบัน

ในประเทศไทย ธุรกิจโลจิสติกส์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เราเห็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งและการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาโลจิสติกส์ ทำให้มีการพัฒนาพื้นที่โลจิสติกส์ในอุตสาหกรรมและพื้นที่พิเศษสำหรับคลัสเตอร์ในทุกภูมิภาคของประเทศ เราเห็นการร่วมมือกับบริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำในโลก เพื่อพัฒนาระบบการขนส่งและการโลจิสติกส์ในประเทศ การปรับตัวและการใช้เทคโนโลยีใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการที่ยืดหยุ่นและมีความปลอดภัย ธุรกิจโลจิสติกส์ในไทยกำลังเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและลูกค้าในยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาด้วยความรวดเร็วและมีความยืดหยุ่น

ตารางรายรับรายจ่าย ตัวอย่างบัญชี ธุรกิจโลจิสติกส์

การทำรายรับและรายจ่ายเป็นกระบวนการที่สำคัญในการจัดการเงินส่วนตัวหรือธุรกิจ การรับรู้ว่ารายได้มากจากไหน และรายจ่ายที่สำคัญมีอะไรบ้าง สามารถช่วยให้คุณมีการควบคุมเงินทองและวางแผนการเงินอย่างมีระบบได้ดีขึ้น

แนวทางการจัดบัญชีรายรับและรายจ่ายของธุรกิจโลจิสติกส์ อาจประกอบด้วย

รายรับ

  1. ค่าบริการขนส่งสินค้า รายรับหลักมาจากการให้บริการขนส่งสินค้าให้กับลูกค้า โดยจะคิดอัตราค่าบริการตามระยะทางหรือน้ำหนักของสินค้า

  2. ค่าบริการเสริม รายรับจากบริการเสริม เช่น บริการเก็บเงินปลายทาง, บริการตรวจสอบและบรรจุสินค้า, หรือบริการติดตามสถานะการขนส่ง

  3. ค่าบริการรถขนส่ง รายรับจากการให้บริการรถขนส่งสินค้าให้กับธุรกิจอื่นๆ

รายจ่าย

  1. ค่าใช้จ่ายในการรักษาความปลอดภัยของสินค้า ค่าใช้จ่ายในการรักษาความปลอดภัยของสินค้าระหว่างการขนส่ง

  2. ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถขนส่ง ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถขนส่งเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างประสิทธิภาพและปลอดภัย

  3. ค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงาน ค่าจ้างพนักงานที่ทำงานในการขนส่งสินค้า, การตรวจสอบสินค้า, หรือการบรรจุหีบห่อสินค้า

  4. ค่าใช้จ่ายในการเช่าโกดังหรือสต็อกสินค้า ค่าเช่าสถานที่ที่ใช้เก็บสินค้ารอการขนส่ง

  5. ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ค่าเช่าสถานที่ทำงาน, ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการธุรกิจ, ค่าใช้จ่ายในการตลาดและโฆษณา, ค่าใช้จ่ายในการบริหารการเงินและบัญชี

  6. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจขนส่งสินค้า เช่น ค่าใช้จ่ายในการบริการลูกค้า, ค่าใช้จ่ายในการบริการสินค้า, ค่าใช้จ่ายในการบริการสินค้า, หรือค่าใช้จ่ายในการบริการสินค้า

การจัดบัญชีให้ครบถ้วนและตรงตามขั้นตอนทางบัญชีเพื่อให้ข้อมูลทางการเงินแม่นยำ และเพื่อความคงทนของธุรกิจ แนะนำให้ใช้ซอฟต์แวร์บัญชีหรือได้ความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญทางการบัญชีในการจัดทำบัญชีรายรับและรายจ่ายของธุรกิจของคุณ

นี่คือตัวอย่างของรูปแบบ comparison table ที่แสดงรายรับและรายจ่ายของธุรกิจโลจิสติกส์

รายการ รายรับ (บาท) รายจ่าย (บาท)
ยอดขายสินค้า 500,000
ค่าขนส่งสินค้า 100,000
ค่าเช่าคลังสินค้า 50,000
ค่าจ้างพนักงาน 200,000
ค่าใช้จ่ายในการตลาด 30,000
ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 80,000
กำไรสุทธิ 40,000

ในตัวอย่างนี้ รายรับของธุรกิจโลจิสติกส์มาจากยอดขายสินค้าที่มียอดรวมเป็น 500,000 บาท ส่วนรายจ่ายประกอบด้วยค่าขนส่งสินค้า 100,000 บาท, ค่าเช่าคลังสินค้า 50,000 บาท, ค่าจ้างพนักงาน 200,000 บาท, ค่าใช้จ่ายในการตลาด 30,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการบริหาร 80,000 บาท ทำให้กำไรสุทธิของธุรกิจเป็น 40,000 บาท

อาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจโลจิสติกส์

อาชีพที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโลจิสติกส์มีหลากหลาย ซึ่งมีตั้งแต่กระบวนการในภายในธุรกิจและการให้บริการต่างๆ จนถึงบุคคลที่มีหน้าที่ในกลุ่มอื่น ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการในโลจิสติกส์ ตัวอย่างเช่น

  1. ผู้จัดการโลจิสติกส์ คือผู้ที่รับผิดชอบในการวางแผนและดำเนินการทั้งหมดในธุรกิจโลจิสติกส์ เช่น วางแผนการจัดส่งสินค้า การจัดการคลังสินค้า และการตรวจสอบการขนส่ง

  2. พนักงานคลังสินค้า คือผู้ที่รับผิดชอบในการจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้า และการจัดส่งสินค้าออกไปยังลูกค้า หรือบริษัทอื่น

  3. พนักงานทำความสะอาดและบำรุงรักษาพื้นที่ในคลังสินค้า โกดัง หรือบริษัทโลจิสติกส์

  4. พนักงานส่งมอบ คือผู้ที่รับผิดชอบในการนำสินค้าไปส่งถึงลูกค้า โดยใช้พาหนะที่เหมาะสม

  5. ผู้เชี่ยวชาญในการจัดการสต็อกและคลังสินค้า คือผู้ที่มีความรู้และทักษะในการจัดการสต็อกและคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุน

นอกจากนี้ยังมีอาชีพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโลจิสติกส์อีกมากมาย เช่น ผู้จัดการธุรกิจ เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี ผู้เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต เป็นต้น ซึ่งทุกอาชีพมีบทบาทสำคัญในการให้บริการและสนับสนุนกิจการให้กับธุรกิจโลจิสติกส์ค่ะ

การบันทึกข้อมูล การจัดเก็บใบเสร็จ และเอกสารทางบัญชี ธุรกิจโลจิสติกส์

สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ (Logistics) การบันทึกข้อมูลและการจัดเก็บเอกสารทางบัญชีเป็นสิ่งสำคัญเพื่อการติดตามการจัดส่งสินค้าและการบริหารการเงินให้มีประสิทธิภาพ นี่คือตัวอย่างของขั้นตอนที่อาจเกิดขึ้นในธุรกิจโลจิสติกส์

  1. บันทึกข้อมูลการจัดส่ง

    • บันทึกข้อมูลการจัดส่ง เช่น รายละเอียดของสินค้า, วันที่จัดส่ง, สถานที่รับสินค้าและสถานที่ส่งสินค้า, ปริมาณ, น้ำหนัก, และวิธีการขนส่ง
  2. การเก็บใบเสร็จและเอกสารการเงิน

    • เก็บใบเสร็จและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่ง เช่น ใบแจ้งหนี้, ใบรับรองการส่งสินค้า, ใบเสร็จรับเงินจากลูกค้า, และเอกสารขนส่ง
    • ระบุการชำระเงินที่ได้รับจากลูกค้าและรายละเอียดของค่าบริการขนส่ง
  3. การบันทึกรายได้และรายจ่าย

    • บันทึกรายได้จากการจัดส่ง รวมถึงการชำระเงินจากลูกค้าและรายละเอียดของรายได้
    • บันทึกรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจขนส่ง เช่น ค่าน้ำมันรถยนต์, ค่าบริการขนส่ง, ค่าภาษี, ค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ดินและสิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่ง
  4. การจัดทำรายงานการเงิน

    • จัดทำรายงานการเงินเพื่อสรุปรายได้และรายจ่ายของการขนส่งสินค้า
    • วิเคราะห์ผลการขนส่งเพื่อปรับปรุงแผนการเงินและการดำเนินธุรกิจ
  5. การตรวจสอบความถูกต้อง

    • ตรวจสอบความถูกต้องของใบเสร็จและเอกสารการเงินก่อนบันทึกข้อมูลและการจัดเก็บ
    • ตรวจสอบว่าค่าขนส่งและการชำระเงินตรงตามราคาและข้อมูลทางบัญชี
  6. การออกใบเสร็จและใบส่งของ

    • เมื่อการขนส่งเสร็จสิ้น คุณควรออกใบเสร็จให้แก่ลูกค้า ในใบเสร็จควรรวมถึงข้อมูลต่อไปนี้

      • ชื่อลูกค้าและข้อมูลติดต่อ
      • วันที่ออกใบเสร็จ
      • รายละเอียดการขนส่ง (สินค้าที่ขนส่ง, จำนวน, ราคาต่อหน่วย)
      • รวมยอดเงินที่ต้องชำระหรือรับ
    • รองรับการออกใบส่งของและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง เช่น ใบอนุญาตการขนส่ง, ใบรับรองการส่งของ, ใบกำกับภาษี, และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย

  7. การจัดการทางบัญชี

    • บันทึกข้อมูลการรับเงินจากลูกค้าและรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งในระบบบัญชีของคุณ
    • ตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีและการบัญชีของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลและการเงิน
    • ประมวลผลข้อมูลบัญชีเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการยื่นรายงานภาษีและการจัดทำงบการเงินประจำปี

คําศัพท์พื้นฐาน ธุรกิจโลจิสติกส์ ที่ควรรู้

คำศัพท์ คำอธิบาย ตัวอย่างพาหนะขนส่ง
การขนส่ง (Transportation) กระบวนการย้ายสินค้าหรือวัตถุดิบจากจุดหนึ่งไปยังจุดอื่น รถบรรทุก, เรือ, เครื่องบิน
คลังสินค้า (Warehouse) สถานที่เก็บสินค้าก่อนจัดส่งหรือนำเสนอให้กับลูกค้า โกดัง, คลังสินค้า, คลังสินค้าอัตโนมัติ
การจัดส่ง (Delivery) กระบวนการนำสินค้าจากคลังสินค้าไปยังลูกค้า บริการจัดส่ง, รถขนส่งสินค้า
การควบคุมสต็อก (Inventory Control) กระบวนการควบคุมปริมาณสินค้าในคลังสินค้า ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ, ซอฟต์แวร์จัดการสต็อก
ส่งออก (Export) การนำสินค้าไปยังประเทศอื่นเพื่อการค้าหรือการใช้งาน การขนส่งสินค้าไปต่างประเทศ
นำเข้า (Import) การนำสินค้าเข้าประเทศจากประเทศอื่นเพื่อการค้าหรือการใช้งาน การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ
จุดส่งมอบ (Delivery Point) สถานที่ที่สินค้าถูกส่งมอบให้กับลูกค้า ที่บ้านลูกค้า, สำนักงาน
การตรวจสอบสินค้า (Quality Inspection) กระบวนการตรวจสอบคุณภาพของสินค้า การทดสอบคุณภาพสินค้า, การตรวจสอบสินค้าในโรงงาน
ค่าขนส่ง (Freight Cost) ค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าจากจุดต้นทางไปยังจุดปลายทาง ค่าขนส่งทางบก, ค่าขนส่งทางน้ำ
พาหนะขนส่ง (Transportation Vehicle) สิ่งที่ใช้ในการขนส่งสินค้า รถบรรทุก, เรือ, เครื่องบิน

ธุรกิจ โลจิสติกส์ ต้อง จดทะเบียนบริษัท หรือไม่

ธุรกิจโลจิสติกส์ต้องจดทะเบียนธุรกิจและรับใบอนุญาตธุรกิจตามกฎหมายของประเทศที่ธุรกิจดำเนินการ การจดทะเบียนและรับใบอนุญาตนี้อาจแตกต่างกันตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศและสภาพอาชีพในท้องถิ่น อาจมีขั้นตอนต่าง ๆ ที่ต้องปฏิบัติก่อนจดทะเบียนธุรกิจ เช่น

  1. จดทะเบียนธุรกิจ ต้องทำการจดทะเบียนธุรกิจหรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายของประเทศที่ต้องการดำเนินธุรกิจ โดยต้องเลือกประเภทธุรกิจที่ต้องการดำเนินการตามกฎหมาย และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด

  2. รับใบอนุญาตธุรกิจ บางประเทศอาจต้องรับใบอนุญาตเพิ่มเติมหรือใบอนุญาตพิเศษสำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ เช่น ใบอนุญาตขนส่งสินค้า เพื่อให้การดำเนินธุรกิจอยู่ภายใต้ความเป็นกฎหมายและมีความสอดคล้องกับข้อกำหนดของสำนักงานกฎหมายท้องถิ่น

  3. การขอใบอนุญาตในการขนส่งสินค้า ธุรกิจโลจิสติกส์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าอาจต้องขอใบอนุญาตในการขนส่งสินค้า ขึ้นอยู่กับขนาดและลักษณะของการขนส่ง

  4. การจัดการทางภาษี การทำธุรกิจโลจิสติกส์อาจมีความเกี่ยวข้องกับภาษีต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับสภาพอาชีพและกฎหมายในแต่ละประเทศ ต้องจัดการเรื่องทางภาษีอย่างถูกต้องเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและประสบความสำเร็จในธุรกิจ

  5. การเปิดบัญชีธุรกิจ ในการดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์อาจต้องมีบัญชีธุรกิจเพื่อติดตามรายรับและรายจ่าย การจัดการบัญชีที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารจัดการธุรกิจ

เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์ได้อย่างสมบูรณ์และประสบความสำเร็จ ควรตรวจสอบกฎหมายและข้อกำหนดท้องถิ่นในประเทศที่ต้องการดำเนินธุรกิจ และปฏิบัติตามขั้นตอนการจดทะเบียนและรับใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนค่ะ

บริษัท ธุรกิจโลจิสติกส์ เสียภาษีอย่างไร

ภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโลจิสติกส์สามารถประกอบด้วยหลายประเภท และนับว่าเป็นส่วนสำคัญของกิจกรรมธุรกิจดังกล่าว

  1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ธุรกิจโลจิสติกส์ที่เป็นบุคคลธรรมดาอาจต้องเสียภาษีเงินได้ตามอัตราที่กำหนดในประเทศที่ดำเนินธุรกิจ

  2. ภาษีเงินได้นิติบุคคล หากธุรกิจโลจิสติกส์เป็นนิติบุคคล อาจต้องเสียภาษีเงินได้สำหรับนิติบุคคลตามกฎหมายของประเทศที่เปิดกิจการ

  3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในบางประเทศ ธุรกิจโลจิสติกส์อาจต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือภาษีขายหรือบริการตามอัตราที่กำหนด

  4. ภาษีอากรนิติบุคคล ธุรกิจโลจิสติกส์ที่เป็นนิติบุคคลอาจต้องเสียภาษีอากรนิติบุคคลตามกฎหมายของประเทศที่ดำเนินธุรกิจ

  5. อากรขาออกและอากรขาเข้า หากธุรกิจโลจิสติกส์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้าหรือส่งออกสินค้า อาจต้องเสียอากรขาออกและอากรขาเข้าตามกฎหมายของประเทศที่มีกฎหมายเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ

  6. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) อาจมีการใช้ภาษีหัก ณ ที่จ่ายในการจ่ายค่าบริการให้กับบุคคลหรือบริษัทที่ให้บริการด้านโลจิสติกส์ โดยมีการหักภาษีจากรายได้ที่จ่ายและนำส่งให้กับหน่วยงานภาษีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สำหรับภาษีหัก ณ ที่จ่ายในกิจการโลจิสติกส์ อาจมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับลักษณะของการจ่ายเงินและประเภทของรายได้ ได้แก่

    1. ภาษีหัก ณ ที่จ่ายในการจ่ายค่าบริการโลจิสติกส์ ภาษีหัก ณ ที่จ่ายอาจเกี่ยวข้องกับการจ่ายค่าบริการโลจิสติกส์ เช่น การจ่ายค่าบริการขนส่งสินค้าหรือบริการโลจิสติกส์อื่น ๆ และต้องมีการหักภาษีจากรายได้ที่จ่ายและนำส่งให้กับหน่วยงานภาษีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    2. ภาษีหัก ณ ที่จ่ายในการจ่ายค่าสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ นอกจากค่าบริการโลจิสติกส์โดยตรง ค่าสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์อาจมีการหักภาษีจากรายได้ที่จ่ายและนำส่งให้กับหน่วยงานภาษีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    3. ภาษีหัก ณ ที่จ่ายในการจ่ายค่าจ้างที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ในกิจการโลจิสติกส์ หากการให้บริการโลจิสติกส์เกี่ยวข้องกับการใช้ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างในการทำธุรกิจ อาจมีการหักภาษีจากรายได้ที่จ่ายและนำส่งให้กับหน่วยงานภาษีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ภาษีที่ธุรกิจโลจิสติกส์ ต้องเสียอาจแตกต่างกันตามประเทศและพื้นที่ที่ดำเนินธุรกิจ การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดท้องถิ่นเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์อย่างถูกต้องและเป็นอย่างชัดเจนค่ะเพื่อความแน่ใจและเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ควรเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือทนายความที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับกฎหมายภาษีเพื่อให้คำแนะนำและคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโลจิสติกส์ของคุณในประเทศไทยอย่างละเอียดและครบถ้วน

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )